แม่แบบการก่อสร้างสายสีน้ำตาลออกมาแล้ว รู้สึกว่าการเชื่อมต่อไม่ดี ทั้งๆที่ก็น่าจะทำให้ดีกว่านี้ได้ เหมือนกับว่าผู้ออกแบบหรือผู้บริหารไม่ใส่ใจทำให้มันดีที่สุด ซึ่งถ้าทำให้ดี ประชาชนจะรู้สึกได้ว่าผู้บริหารใส่ใจและจริงใจจะทำให้ประชาชนจริงๆ จะช่วยให้ประชาชนรู้สึกอยากใช้บริการอย่างเต็มที่ ที่ทำออกมานั้นดูเหมือนว่ายังไม่ใส่ผู้ใช้บริการเท่าที่ควรจะเป็น
แต่ถึงยังไงกว่าที่จะให้ครม.อนุมัติสร้างรถไฟฟ้าสายนี้ ก็น่าจะนานอยู่ อาจจะถึง 2 รัฐบาล เพราะกทพ.ก็ยังดึงดันจะสร้างทางด่วนเกษตรให้ได้ คงต้องเจรจากันนานอยู่กว่าจะหาข้อสรุปได้
ถ้าได้สร้างทางด่วนเกษตร สถานีสายสีน้ำตาลตรงแยกเกษตรก็จะเป็นรูปแบบนึง
ถ้าไม่ได้สร้างทางด่วนเกษตร สถานีก็จะเป็นอีกแบบนึง
น่าจะรอรัฐบาลที่มีวิสัยทัศน์ด้านคมนาคมมากกว่านี้มาเป็นผู้บริหารประเทศ
ที่ต่างประเทศ ตัวสถานีรถไฟฟ้าก็มีการเชื่อมต่อกันง่ายบ้าง ยากบ้าง บางครั้งการเปลี่ยนขบวนก็ต้องเดินไกล บางครั้งก็เดินใกล้ ซึ่งเราต้องไปดูในรายละเอียดว่า เหตุที่เขาตั้งสถานีที่จะเชื่อมต่อกันให้มีระยะอยู่ไกลกันเพราะเหตุอะไรด้วย ซึ่งถ้าสามารถตั้งสถานีที่เป็นจุดเชื่อมต่อกันให้อยู่ใกล้กันได้ ก็ควรทำ เพราะมีผลต่อการใช้บริการของผู้โดยสารอยู่
ดูตัวอย่าง สถานีใหม่ๆในไทยอย่างวัดพระศรีมหาธาตุตอบโจทย์ผู้เดินทางได้ดี เชื่อมต่อ 2 สายในสถานีเดียวกัน
สถานีที่จะสร้างต่อไปในไทยก็ควรจะเป็นแบบนั้น เว้นแต่ติดปัญหาด้านพื้นที่จริงๆ จึงต้องตั้งห่างกัน ซึ่งผู้บริหารก็ควรออกมาชี้แจงให้ประชาชนรับทราบถึงเหตุผลของการตั้งสถานีห่างกันด้วย
ถ้าสายสีน้ำตาลทำการเชื่อมต่อออกมาให้ดีก็จะมีผลหลายด้าน ดังนี้
1.เชื่อมสายสีม่วงสะดวก ช่วยกระจายคนออกไปทางนนทบุรี บางใหญ่ วงแหวนรอบนอก
2.เชื่อมสายสีแดงสะดวก ช่วยกระจายคนออกไปทางปทุมธานี ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต และอยุธยาในอนาคต
3.เชื่อมสายสีเขียวสะดวกช่วยกระจายคนออกไปทางปทุมธานี คูคต
4.เชื่อมสายสีเหลืองสะดวก ช่วยกระจายคนออกไปทางสมุทรปราการ ศรีด่าน
5.เชื่อมสายสีเทาสะดวก เป็นทางเลือกการเดินทางแทนทางด่วนงามวงศ์วาน-พระราม 9 ขึ้นสายสีเทาจากพระราม 9 มาเปลี่ยนขบวนรถเป็นสายสีน้ำตาลที่คลองลำเจียก เพื่อต่อมางามวงศ์วาน
หรือขึ้นสายสีน้ำตาลจากงามวงศ์วาน มาเปลี่ยนขบวนรถเป็นสายสีเทาที่คลองลำเจียก เพื่อต่อมาพระราม 9 ช่วยให้ทางด่วนเส้นนี้คล่องตัวขึ้น ช่วยให้ไม่ต้องทำทางด่วน 2 ชั้น
ที่ดูนี่ สถานีสายสีน้ำตาลบางเขนเชื่อมสายสีแดงบางเขนได้ดีอยู่แล้ว เดินเพียงเล็กน้อยก็ถึงกัน
แต่การเชื่อมสายสีม่วงนี่ไม่ดีเลย สถานีสายสีน้ำตาลศูนย์ราชการนนทบุรีจะอยู่ข้างๆสถานีสายสีชมพูศูนย์ราชการนนทบุรี ซึ่งไกลจากสายสีม่วงพอตัว ถึงจะมีบันไดเลื่อนก็ยังไม่ใช่การเชื่อมต่อที่สะดวกเท่าไร
นึกถึงสมัยที่สถานีบางซื่อกับเตาปูนไม่เชื่อมกัน ต้องมีรถเมล์ feeder คอยรับส่งระหว่างบางซื่อ-เตาปูน คนก็บ่นกัน รู้สึกว่ามันไม่น่าใช้บริการ
ตอนนี้แผนของสายสีน้ำตาลที่ออกมา ที่ศูนย์ราชการนนทบุรี สถานีสายสีน้ำตาลจะอยู่ข้างๆสถานีสายสีชมพู จะเดินจากสายสีน้ำตาลไปสายสีม่วง ก็ต้องลงแล้วต่อบันไดเลื่อนหลายช่วง ไม่สะดวกต่อการเชื่อมต่อ ดูคล้ายๆบางซื่อ-เตาปูนยุคโน้น
ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากให้ต่อชั้นชานชาลาของสถานีสายสีม่วงศูนย์ราชการนนทบุรีขึ้นไปอีกชั้นนึง เป็นชั้นชานชาลาของสายสีน้ำตาล ให้รถสายสีน้ำตาลวิ่งอยู่บนนั้น ม่วงกับน้ำตาลเป็นสถานีร่วมกัน
ชั้นที่ 1 ขายตั๋ว
ชั้นที่ 2 ชานชาลาสายสีม่วง
ชั้นที่ 3 ชานชาลาสายสีน้ำตาล
ทำให้เปลี่ยนขบวนกันง่าย เดินขึ้นลงระหว่างชั้นในสถานีก็เปลี่ยนขบวนกันได้แล้ว
หรืออย่างน้อยที่สุดตั้งสถานีสายสีน้ำตาลให้อยู่ด้านข้างสายสีม่วง ต่อขยายด้านข้างของสถานีสายสีม่วงให้กว้างขึ้น 2 เท่าก็ได้ ทำให้เป็นสถานีสายสีน้ำตาลกับสีม่วงเป็นสถานีเดียวกัน แบ่งโซนกัน ด้านซ้ายเป็นพื้นที่สายสีน้ำตาล ด้านขวาเป็นพื้นที่สายสีม่วง สามารถเปลี่ยนขบวนแบบไม่ต้องออกจากระบบ
ถ้าต้องการเปลี่ยนขบวนจากสายสีน้ำตาลไปสายสีม่วง ก็เดินลงบันไดเลื่อนมาชั้นนึง แล้วเดินไปขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อขึ้นไปยังชานชาลาสายสีม่วง
ต้องการเปลี่ยนขบวนจากสายสีม่วงไปสายน้ำตาล ก็เดินลงบันไดเลื่อนมาชั้นนึง แล้วเดินขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อขึ้นไปยังชานชาลาสายสีน้ำตาล เหมือนกับการเปลี่ยนขบวนระหว่างสายสีแดงบางซื่อ-ตลิ่งชันกับบางซื่อ-รังสิต แค่เดินลง-เดินขึ้นภายในตัวสถานีเดียวกัน อย่างงี้ก็สะดวกอยู่
ถ้าทำได้ ก็จะช่วยกระจายคนออกนอกเมืองได้ดี เพราะเส้นทางสายสีม่วงมีส่วนกระจายคนออกไปนอกเมืองได้มากกว่าสายสีชมพู สายสีม่วงไปถึงวงแหวนรอบนอก สายสีชมพูก็แค่ช่วงแจ้งวัฒนะ
การตั้งสถานีสายสีน้ำตาลให้อยู่ใกล้สถานีสายสีชมพู คือการทำให้การเดินทางในเส้นทางระหว่างน้ำตาลกับชมพูมีความสะดวกแก่กัน จึงไม่ค่อยมีผลกระจายคนออกนอกเมืองเท่าไร
ส่วนการเชื่อมต่อสายสีเหลือง ถ้าจะให้ดี คงต้องทุบสะพานข้ามแยกลำสาลี เปลี่ยนจากสะพานเป็นอุโมงค์ ลอดใต้แยกลำสาลี แล้วทำการต่อขยายสถานีสายสีเหลืองแยกลำสาลี ให้ชั้นชานชาลาสายสีน้ำตาลอยู่ชั้นข้างบนชานชาลาสายสึเหลือง
ชั้นที่ 1 ขายตั๋ว
ชั้นที่ 2 ชานชาลาสายสีเหลือง
ชั้นที่ 3 ชานชาลาสายสีน้ำตาล
รถไฟสายสีน้ำตาลจะวิ่งแล้วเลี้ยวขวาไปทางเคหะคลองจั่น
รถไฟสายสีเหลืองจะวิ่งเลี้ยวซ้ายไปทางลาดพร้าว
ซึ่งตอนนี้ การเลี้ยวขวาก็ติดสะพาน ไม่สามารถวางเสาได้ คงต้องทุบสะพานก่อน
การทุบสะพานแยกลำสาลีเพื่อทำการเชื่อมต่อระหว่างสายสีน้ำตาลกับสายสีเหลืองนั คงต้องรอให้สายสีส้มเปิดบริการก่อน เพื่อบรรเทาปัญหารถติดช่วงที่ไม่มีสะพาน ต่อจากนั้นค่อยทำเป็นอุโมงค์ลอดแยกลำสาลีแทน ช่วยให้สายสีน้ำตาลเชื่อมต่อกับสายสีเหลืองได้สะดวก มีผลกระจายคนให้มาอยู่ทางสมุทรปราการได้ง่ายขึ้น
ตอนนี้ก็ขอให้ความสำคัญกับรถไฟที่วิ่งไปนอกเมืองมากกว่ารถไฟที่วิ่งเข้าสู่ใจกลางเมือง เพราะจะช่วยบรรเทาปัญหารถติดได้มากกว่า
อย่างช่วง missing link สายสีแดงที่เป็นการเชื่อมการเดินทางจากบางซื่อเข้าสู่ย่านใจกลางเมือง เรารู้สึกว่าไม่ค่อยเร่งรีบเท่าไร เพราะไม่ค่อยมีผลกระจายคนออกไปนอกเมือง เป็นการอำนวยความสะดวกให้คนเข้ามาทำงานหาเงินย่านใจกลางเมืองมากกว่า ช่วยแก้ปัญหารถติดได้น้อย แถมยังมีปัญหาเรื่องรถไฟ 3 สนามบินอีก
ที่รฟท.เปิดประมูลช่วงม.ธรรมศาสตร์ รังสิตและศาลายา นั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องดี มีส่วนช่วยกระจายคนออกไปนอกเมือง ทำให้บรรเทาปัญหารถติดได้ดีกว่า
ถ้าเป็นไปได้ ภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปีนี้ ก็อยากจะให้มีการประมูลส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีแดงไปยังอยุธยาและนครปฐมด้วยเลย หรือจะประมูลส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินให้ไปถึงพุทธมณฑลสาย 4 ยิ่งดี ช่วยให้การจราจรในกรุงเทพฯคล่องตัวขึ้น คุณภาพชีวิตในเมืองหลวงก็ดีขึ้น
สายสีน้ำตาลควรทำจุดเชื่อมสายอื่นให้ดี ช่วยกระจายคนออกนอกเมืองและทำให้ทางด่วนพระราม 9-งามวงศ์งานเกิดความคล่องตัว
แต่ถึงยังไงกว่าที่จะให้ครม.อนุมัติสร้างรถไฟฟ้าสายนี้ ก็น่าจะนานอยู่ อาจจะถึง 2 รัฐบาล เพราะกทพ.ก็ยังดึงดันจะสร้างทางด่วนเกษตรให้ได้ คงต้องเจรจากันนานอยู่กว่าจะหาข้อสรุปได้
ถ้าได้สร้างทางด่วนเกษตร สถานีสายสีน้ำตาลตรงแยกเกษตรก็จะเป็นรูปแบบนึง
ถ้าไม่ได้สร้างทางด่วนเกษตร สถานีก็จะเป็นอีกแบบนึง
น่าจะรอรัฐบาลที่มีวิสัยทัศน์ด้านคมนาคมมากกว่านี้มาเป็นผู้บริหารประเทศ
ที่ต่างประเทศ ตัวสถานีรถไฟฟ้าก็มีการเชื่อมต่อกันง่ายบ้าง ยากบ้าง บางครั้งการเปลี่ยนขบวนก็ต้องเดินไกล บางครั้งก็เดินใกล้ ซึ่งเราต้องไปดูในรายละเอียดว่า เหตุที่เขาตั้งสถานีที่จะเชื่อมต่อกันให้มีระยะอยู่ไกลกันเพราะเหตุอะไรด้วย ซึ่งถ้าสามารถตั้งสถานีที่เป็นจุดเชื่อมต่อกันให้อยู่ใกล้กันได้ ก็ควรทำ เพราะมีผลต่อการใช้บริการของผู้โดยสารอยู่
ดูตัวอย่าง สถานีใหม่ๆในไทยอย่างวัดพระศรีมหาธาตุตอบโจทย์ผู้เดินทางได้ดี เชื่อมต่อ 2 สายในสถานีเดียวกัน
สถานีที่จะสร้างต่อไปในไทยก็ควรจะเป็นแบบนั้น เว้นแต่ติดปัญหาด้านพื้นที่จริงๆ จึงต้องตั้งห่างกัน ซึ่งผู้บริหารก็ควรออกมาชี้แจงให้ประชาชนรับทราบถึงเหตุผลของการตั้งสถานีห่างกันด้วย
ถ้าสายสีน้ำตาลทำการเชื่อมต่อออกมาให้ดีก็จะมีผลหลายด้าน ดังนี้
1.เชื่อมสายสีม่วงสะดวก ช่วยกระจายคนออกไปทางนนทบุรี บางใหญ่ วงแหวนรอบนอก
2.เชื่อมสายสีแดงสะดวก ช่วยกระจายคนออกไปทางปทุมธานี ม.ธรรมศาสตร์ รังสิต และอยุธยาในอนาคต
3.เชื่อมสายสีเขียวสะดวกช่วยกระจายคนออกไปทางปทุมธานี คูคต
4.เชื่อมสายสีเหลืองสะดวก ช่วยกระจายคนออกไปทางสมุทรปราการ ศรีด่าน
5.เชื่อมสายสีเทาสะดวก เป็นทางเลือกการเดินทางแทนทางด่วนงามวงศ์วาน-พระราม 9 ขึ้นสายสีเทาจากพระราม 9 มาเปลี่ยนขบวนรถเป็นสายสีน้ำตาลที่คลองลำเจียก เพื่อต่อมางามวงศ์วาน
หรือขึ้นสายสีน้ำตาลจากงามวงศ์วาน มาเปลี่ยนขบวนรถเป็นสายสีเทาที่คลองลำเจียก เพื่อต่อมาพระราม 9 ช่วยให้ทางด่วนเส้นนี้คล่องตัวขึ้น ช่วยให้ไม่ต้องทำทางด่วน 2 ชั้น
ที่ดูนี่ สถานีสายสีน้ำตาลบางเขนเชื่อมสายสีแดงบางเขนได้ดีอยู่แล้ว เดินเพียงเล็กน้อยก็ถึงกัน
แต่การเชื่อมสายสีม่วงนี่ไม่ดีเลย สถานีสายสีน้ำตาลศูนย์ราชการนนทบุรีจะอยู่ข้างๆสถานีสายสีชมพูศูนย์ราชการนนทบุรี ซึ่งไกลจากสายสีม่วงพอตัว ถึงจะมีบันไดเลื่อนก็ยังไม่ใช่การเชื่อมต่อที่สะดวกเท่าไร
นึกถึงสมัยที่สถานีบางซื่อกับเตาปูนไม่เชื่อมกัน ต้องมีรถเมล์ feeder คอยรับส่งระหว่างบางซื่อ-เตาปูน คนก็บ่นกัน รู้สึกว่ามันไม่น่าใช้บริการ
ตอนนี้แผนของสายสีน้ำตาลที่ออกมา ที่ศูนย์ราชการนนทบุรี สถานีสายสีน้ำตาลจะอยู่ข้างๆสถานีสายสีชมพู จะเดินจากสายสีน้ำตาลไปสายสีม่วง ก็ต้องลงแล้วต่อบันไดเลื่อนหลายช่วง ไม่สะดวกต่อการเชื่อมต่อ ดูคล้ายๆบางซื่อ-เตาปูนยุคโน้น
ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากให้ต่อชั้นชานชาลาของสถานีสายสีม่วงศูนย์ราชการนนทบุรีขึ้นไปอีกชั้นนึง เป็นชั้นชานชาลาของสายสีน้ำตาล ให้รถสายสีน้ำตาลวิ่งอยู่บนนั้น ม่วงกับน้ำตาลเป็นสถานีร่วมกัน
ชั้นที่ 1 ขายตั๋ว
ชั้นที่ 2 ชานชาลาสายสีม่วง
ชั้นที่ 3 ชานชาลาสายสีน้ำตาล
ทำให้เปลี่ยนขบวนกันง่าย เดินขึ้นลงระหว่างชั้นในสถานีก็เปลี่ยนขบวนกันได้แล้ว
หรืออย่างน้อยที่สุดตั้งสถานีสายสีน้ำตาลให้อยู่ด้านข้างสายสีม่วง ต่อขยายด้านข้างของสถานีสายสีม่วงให้กว้างขึ้น 2 เท่าก็ได้ ทำให้เป็นสถานีสายสีน้ำตาลกับสีม่วงเป็นสถานีเดียวกัน แบ่งโซนกัน ด้านซ้ายเป็นพื้นที่สายสีน้ำตาล ด้านขวาเป็นพื้นที่สายสีม่วง สามารถเปลี่ยนขบวนแบบไม่ต้องออกจากระบบ
ถ้าต้องการเปลี่ยนขบวนจากสายสีน้ำตาลไปสายสีม่วง ก็เดินลงบันไดเลื่อนมาชั้นนึง แล้วเดินไปขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อขึ้นไปยังชานชาลาสายสีม่วง
ต้องการเปลี่ยนขบวนจากสายสีม่วงไปสายน้ำตาล ก็เดินลงบันไดเลื่อนมาชั้นนึง แล้วเดินขึ้นบันไดเลื่อนเพื่อขึ้นไปยังชานชาลาสายสีน้ำตาล เหมือนกับการเปลี่ยนขบวนระหว่างสายสีแดงบางซื่อ-ตลิ่งชันกับบางซื่อ-รังสิต แค่เดินลง-เดินขึ้นภายในตัวสถานีเดียวกัน อย่างงี้ก็สะดวกอยู่
ถ้าทำได้ ก็จะช่วยกระจายคนออกนอกเมืองได้ดี เพราะเส้นทางสายสีม่วงมีส่วนกระจายคนออกไปนอกเมืองได้มากกว่าสายสีชมพู สายสีม่วงไปถึงวงแหวนรอบนอก สายสีชมพูก็แค่ช่วงแจ้งวัฒนะ
การตั้งสถานีสายสีน้ำตาลให้อยู่ใกล้สถานีสายสีชมพู คือการทำให้การเดินทางในเส้นทางระหว่างน้ำตาลกับชมพูมีความสะดวกแก่กัน จึงไม่ค่อยมีผลกระจายคนออกนอกเมืองเท่าไร
ส่วนการเชื่อมต่อสายสีเหลือง ถ้าจะให้ดี คงต้องทุบสะพานข้ามแยกลำสาลี เปลี่ยนจากสะพานเป็นอุโมงค์ ลอดใต้แยกลำสาลี แล้วทำการต่อขยายสถานีสายสีเหลืองแยกลำสาลี ให้ชั้นชานชาลาสายสีน้ำตาลอยู่ชั้นข้างบนชานชาลาสายสึเหลือง
ชั้นที่ 1 ขายตั๋ว
ชั้นที่ 2 ชานชาลาสายสีเหลือง
ชั้นที่ 3 ชานชาลาสายสีน้ำตาล
รถไฟสายสีน้ำตาลจะวิ่งแล้วเลี้ยวขวาไปทางเคหะคลองจั่น
รถไฟสายสีเหลืองจะวิ่งเลี้ยวซ้ายไปทางลาดพร้าว
ซึ่งตอนนี้ การเลี้ยวขวาก็ติดสะพาน ไม่สามารถวางเสาได้ คงต้องทุบสะพานก่อน
การทุบสะพานแยกลำสาลีเพื่อทำการเชื่อมต่อระหว่างสายสีน้ำตาลกับสายสีเหลืองนั คงต้องรอให้สายสีส้มเปิดบริการก่อน เพื่อบรรเทาปัญหารถติดช่วงที่ไม่มีสะพาน ต่อจากนั้นค่อยทำเป็นอุโมงค์ลอดแยกลำสาลีแทน ช่วยให้สายสีน้ำตาลเชื่อมต่อกับสายสีเหลืองได้สะดวก มีผลกระจายคนให้มาอยู่ทางสมุทรปราการได้ง่ายขึ้น
ตอนนี้ก็ขอให้ความสำคัญกับรถไฟที่วิ่งไปนอกเมืองมากกว่ารถไฟที่วิ่งเข้าสู่ใจกลางเมือง เพราะจะช่วยบรรเทาปัญหารถติดได้มากกว่า
อย่างช่วง missing link สายสีแดงที่เป็นการเชื่อมการเดินทางจากบางซื่อเข้าสู่ย่านใจกลางเมือง เรารู้สึกว่าไม่ค่อยเร่งรีบเท่าไร เพราะไม่ค่อยมีผลกระจายคนออกไปนอกเมือง เป็นการอำนวยความสะดวกให้คนเข้ามาทำงานหาเงินย่านใจกลางเมืองมากกว่า ช่วยแก้ปัญหารถติดได้น้อย แถมยังมีปัญหาเรื่องรถไฟ 3 สนามบินอีก
ที่รฟท.เปิดประมูลช่วงม.ธรรมศาสตร์ รังสิตและศาลายา นั่นก็ถือว่าเป็นเรื่องดี มีส่วนช่วยกระจายคนออกไปนอกเมือง ทำให้บรรเทาปัญหารถติดได้ดีกว่า
ถ้าเป็นไปได้ ภายในระยะเวลาไม่เกิน 1 ปีนี้ ก็อยากจะให้มีการประมูลส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีแดงไปยังอยุธยาและนครปฐมด้วยเลย หรือจะประมูลส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินให้ไปถึงพุทธมณฑลสาย 4 ยิ่งดี ช่วยให้การจราจรในกรุงเทพฯคล่องตัวขึ้น คุณภาพชีวิตในเมืองหลวงก็ดีขึ้น