TITLE: Venom 3 มาแล้ว! "The Last Dance" สมศักดิ์ศรีภาคจบ หรือแค่ยื้อ? มาดูกันครับ!
สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกคน วันนี้ผมมีโอกาสได้ไปดู "Venom: The Last Dance" ภาคต่อที่หลายคนรอคอย และเป็นเหมือนภาคสุดท้ายของไตรภาคนี้แล้วครับ บอกตรงๆ ว่าก่อนไปดูก็มีความคาดหวังพอสมควรเลย เพราะภาคที่แล้วก็ทำได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีจุดที่รู้สึกว่าน่าจะไปต่อได้อีก วันนี้เลยจะมาเล่าสู่กันฟังแบบบ้านๆ สไตล์คนดูหนัง ไม่ได้วิชาการอะไรมากนะครับ ผิดพลาดตรงไหนขออภัยไว้ก่อนเลยครับ
เริ่มกันที่ภาพรวมก่อนนะครับ ภาคนี้ดูจะหนักหน่วงขึ้น บรรยากาศโดยรวมจะมีความสิ้นหวัง ปนความดราม่าเข้ามาเยอะกว่าสองภาคแรกอย่างชัดเจนครับ ใครที่ชอบ Venom ในมุมที่ดิบ เถื่อน โหดร้าย ภาคนี้มีให้เห็นแน่นอน แต่ที่เพิ่มเข้ามาคือความสัมพันธ์ระหว่างเอ็ดดี้กับ Venom ที่เหมือนจะถึงทางตันจริงๆ จังๆ มันไม่ใช่แค่การต่อสู้กับศัตรูภายนอกแล้ว แต่มันคือการต่อสู้ภายในจิตใจของทั้งคู่ด้วย ตัวหนังพยายามจะสำรวจประเด็นนี้ให้ลึกซึ้งมากขึ้น ซึ่งผมว่าก็ทำได้น่าสนใจดีครับ
ถ้าพูดถึงพล็อตเรื่องนะครับ ภาคนี้กลับมาพร้อมกับภัยคุกคามครั้งใหม่ที่ใหญ่หลวงกว่าเดิมมาก เป็นพวกจากนอกโลกอีกแล้วครับ คราวนี้มากันเป็นฝูงเลย มาพร้อมกับเทคโนโลยีและพลังที่เหนือกว่าที่เราเคยเจอมา ทำให้เอ็ดดี้กับ Venom ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่บีบคั้นสุดๆ จนแทบจะเอาตัวไม่รอด ความเดือดในฉากแอ็คชั่นก็จัดเต็มครับ มีการต่อสู้ที่ดุเดือด ลุ้นระทึก หลายซีนทำออกมาได้น่าตื่นตาตื่นใจ การออกแบบพวกเอเลี่ยนใหม่ๆ ก็ทำได้น่าสนใจดีครับ ไม่ได้ดูซ้ำซากจำเจ
อีกหนึ่งจุดที่ผมว่าภาคนี้ทำได้ดีคือการพัฒนาตัวละครของเอ็ดดี้ บร็อก ครับ ทอม ฮาร์ดี้ ยังคงถ่ายทอดบทบาทนี้ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม เขาแสดงให้เห็นถึงความเหนื่อยล้า ความสิ้นหวัง แต่ก็ยังมีความมุ่งมั่นที่จะปกป้องผู้บริสุทธิ์ การที่เขาต้องแบกรับภาระของ Venom ไว้ตลอดเวลา มันส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเขาอย่างมาก และเราจะได้เห็นด้านที่เปราะบางมากขึ้นของเอ็ดดี้ในภาคนี้ครับ ส่วน Venom เอง ในภาคนี้ก็เหมือนจะมีความคิดเป็นของตัวเองมากขึ้น มีการสื่อสารกับเอ็ดดี้ที่หลากหลายกว่าเดิม บางทีก็ทะเลาะกัน บางทีก็พยายามจะเข้าใจกัน มันทำให้ตัวละคร Venom มีมิติมากขึ้น ไม่ใช่แค่สัตว์ประหลาดที่คอยกัดกินอย่างเดียว
เรื่องของการเล่าเรื่องนะครับ ภาคนี้มีความเป็นภาพยนตร์ที่จริงจังมากขึ้น มีความดราม่าเข้มข้น แต่ก็ยังมีอารมณ์ขันร้ายๆ สไตล์ Venom แทรกเข้ามาอยู่เป็นระยะ ซึ่งผมว่ามันเป็นส่วนผสมที่ลงตัวนะครับ ไม่ได้เครียดจนเกินไป แต่ก็ไม่ได้เบาสมองจนเสียอรรถรสไป การดำเนินเรื่องบางช่วงอาจจะรู้สึกว่าเร็วไปนิดหน่อย คือเหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมาก จนบางทีเราอาจจะตามไม่ทัน หรือยังไม่ได้ทันซึมซับอารมณ์ของตัวละครมากนัก แต่โดยรวมก็ถือว่าโอเคครับ
ในส่วนของนักแสดงสมทบนะครับ ภาคนี้มีนักแสดงหน้าใหม่เข้ามาเสริมทัพหลายคน ซึ่งแต่ละคนก็เข้ามาเติมเต็มสีสันให้กับเรื่องได้ดีครับ มีทั้งบทที่ร้ายกาจ บทที่ดูมีความหวัง บทที่น่าสงสัย ทำให้เรื่องราวดูมีอะไรมากขึ้น ไม่ได้มีแค่เอ็ดดี้กับ Venom เดินเรื่องอยู่ฝ่ายเดียว
แต่ถ้าจะให้พูดถึงจุดที่ผมรู้สึกว่ายังติดขัดอยู่นิดหน่อยนะครับ คือบางทีบทสรุปของเรื่องอาจจะดูเร่งรีบไปสักหน่อยครับ คือหลังจากที่ปูเรื่องมาอย่างเข้มข้น พอมาถึงตอนจบ มันเหมือนจะจบเร็วเกินไปนิดนึง หรืออาจจะยังไม่ได้ขยี้ประเด็นบางอย่างให้สุดเท่าที่ควรจะเป็นครับ มันทำให้รู้สึกว่า "อ้าว จบแค่นี้แล้วเหรอ" นิดๆ ครับ แต่ก็เข้าใจได้ว่าหนังมีความยาวจำกัด
อีกเรื่องที่อาจจะเป็นข้อสังเกตสำหรับบางคนนะครับ ถ้าใครคาดหวังว่าจะได้เห็น Venom สู้กับเหล่าร้ายแบบสาดกระสุน สาดพลังกันแบบสุดเหวี่ยงตลอดเวลา ภาคนี้อาจจะต้องปรับความคาดหวังลงมานิดหน่อย เพราะเน้นไปที่การต่อสู้ทางอารมณ์และจิตใจของเอ็ดดี้กับ Venom มากกว่า แต่ฉากแอ็คชั่นก็ยังมีให้ดูแน่นอนครับ และทำออกมาได้ดีด้วย
สรุปแล้ว "Venom: The Last Dance" เป็นภาคจบที่ผมว่าทำได้ดีครับ มันไม่ได้สมบูรณ์แบบ 100% แต่ก็เป็นภาคที่ทำให้เห็นพัฒนาการของตัวละครเอ็ดดี้และ Venom ได้อย่างชัดเจน เป็นหนังที่ดูสนุก ลุ้นระทึก มีทั้งฉากแอ็คชั่น ดราม่า และอารมณ์ขันในแบบของ Venom ครับ ใครที่เป็นแฟน Venom อยู่แล้ว ผมว่าไม่ควรพลาดครับ เป็นภาคที่ปิดไตรภาคนี้ได้อย่างน่าพอใจในระดับหนึ่งครับ
สำหรับคะแนน ผมให้ประมาณ 7.5/10 ครับ เป็นหนังที่ผมดูแล้วรู้สึกคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปครับ หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังตัดสินใจจะไปดูนะครับ ใครไปดูมาแล้วมาแชร์ความเห็นกันได้นะครับ ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นครับผม.
Venom 3 มาแล้ว! "The Last Dance" สมศักดิ์ศรีภาคจบ หรือแค่ยื้อ? มาดูกันครับ!
TITLE: Venom 3 มาแล้ว! "The Last Dance" สมศักดิ์ศรีภาคจบ หรือแค่ยื้อ? มาดูกันครับ!
สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกคน วันนี้ผมมีโอกาสได้ไปดู "Venom: The Last Dance" ภาคต่อที่หลายคนรอคอย และเป็นเหมือนภาคสุดท้ายของไตรภาคนี้แล้วครับ บอกตรงๆ ว่าก่อนไปดูก็มีความคาดหวังพอสมควรเลย เพราะภาคที่แล้วก็ทำได้ดีในระดับหนึ่ง แต่ก็ยังมีจุดที่รู้สึกว่าน่าจะไปต่อได้อีก วันนี้เลยจะมาเล่าสู่กันฟังแบบบ้านๆ สไตล์คนดูหนัง ไม่ได้วิชาการอะไรมากนะครับ ผิดพลาดตรงไหนขออภัยไว้ก่อนเลยครับ
เริ่มกันที่ภาพรวมก่อนนะครับ ภาคนี้ดูจะหนักหน่วงขึ้น บรรยากาศโดยรวมจะมีความสิ้นหวัง ปนความดราม่าเข้ามาเยอะกว่าสองภาคแรกอย่างชัดเจนครับ ใครที่ชอบ Venom ในมุมที่ดิบ เถื่อน โหดร้าย ภาคนี้มีให้เห็นแน่นอน แต่ที่เพิ่มเข้ามาคือความสัมพันธ์ระหว่างเอ็ดดี้กับ Venom ที่เหมือนจะถึงทางตันจริงๆ จังๆ มันไม่ใช่แค่การต่อสู้กับศัตรูภายนอกแล้ว แต่มันคือการต่อสู้ภายในจิตใจของทั้งคู่ด้วย ตัวหนังพยายามจะสำรวจประเด็นนี้ให้ลึกซึ้งมากขึ้น ซึ่งผมว่าก็ทำได้น่าสนใจดีครับ
ถ้าพูดถึงพล็อตเรื่องนะครับ ภาคนี้กลับมาพร้อมกับภัยคุกคามครั้งใหม่ที่ใหญ่หลวงกว่าเดิมมาก เป็นพวกจากนอกโลกอีกแล้วครับ คราวนี้มากันเป็นฝูงเลย มาพร้อมกับเทคโนโลยีและพลังที่เหนือกว่าที่เราเคยเจอมา ทำให้เอ็ดดี้กับ Venom ต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์ที่บีบคั้นสุดๆ จนแทบจะเอาตัวไม่รอด ความเดือดในฉากแอ็คชั่นก็จัดเต็มครับ มีการต่อสู้ที่ดุเดือด ลุ้นระทึก หลายซีนทำออกมาได้น่าตื่นตาตื่นใจ การออกแบบพวกเอเลี่ยนใหม่ๆ ก็ทำได้น่าสนใจดีครับ ไม่ได้ดูซ้ำซากจำเจ
อีกหนึ่งจุดที่ผมว่าภาคนี้ทำได้ดีคือการพัฒนาตัวละครของเอ็ดดี้ บร็อก ครับ ทอม ฮาร์ดี้ ยังคงถ่ายทอดบทบาทนี้ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม เขาแสดงให้เห็นถึงความเหนื่อยล้า ความสิ้นหวัง แต่ก็ยังมีความมุ่งมั่นที่จะปกป้องผู้บริสุทธิ์ การที่เขาต้องแบกรับภาระของ Venom ไว้ตลอดเวลา มันส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของเขาอย่างมาก และเราจะได้เห็นด้านที่เปราะบางมากขึ้นของเอ็ดดี้ในภาคนี้ครับ ส่วน Venom เอง ในภาคนี้ก็เหมือนจะมีความคิดเป็นของตัวเองมากขึ้น มีการสื่อสารกับเอ็ดดี้ที่หลากหลายกว่าเดิม บางทีก็ทะเลาะกัน บางทีก็พยายามจะเข้าใจกัน มันทำให้ตัวละคร Venom มีมิติมากขึ้น ไม่ใช่แค่สัตว์ประหลาดที่คอยกัดกินอย่างเดียว
เรื่องของการเล่าเรื่องนะครับ ภาคนี้มีความเป็นภาพยนตร์ที่จริงจังมากขึ้น มีความดราม่าเข้มข้น แต่ก็ยังมีอารมณ์ขันร้ายๆ สไตล์ Venom แทรกเข้ามาอยู่เป็นระยะ ซึ่งผมว่ามันเป็นส่วนผสมที่ลงตัวนะครับ ไม่ได้เครียดจนเกินไป แต่ก็ไม่ได้เบาสมองจนเสียอรรถรสไป การดำเนินเรื่องบางช่วงอาจจะรู้สึกว่าเร็วไปนิดหน่อย คือเหตุการณ์มันเกิดขึ้นเร็วมาก จนบางทีเราอาจจะตามไม่ทัน หรือยังไม่ได้ทันซึมซับอารมณ์ของตัวละครมากนัก แต่โดยรวมก็ถือว่าโอเคครับ
ในส่วนของนักแสดงสมทบนะครับ ภาคนี้มีนักแสดงหน้าใหม่เข้ามาเสริมทัพหลายคน ซึ่งแต่ละคนก็เข้ามาเติมเต็มสีสันให้กับเรื่องได้ดีครับ มีทั้งบทที่ร้ายกาจ บทที่ดูมีความหวัง บทที่น่าสงสัย ทำให้เรื่องราวดูมีอะไรมากขึ้น ไม่ได้มีแค่เอ็ดดี้กับ Venom เดินเรื่องอยู่ฝ่ายเดียว
แต่ถ้าจะให้พูดถึงจุดที่ผมรู้สึกว่ายังติดขัดอยู่นิดหน่อยนะครับ คือบางทีบทสรุปของเรื่องอาจจะดูเร่งรีบไปสักหน่อยครับ คือหลังจากที่ปูเรื่องมาอย่างเข้มข้น พอมาถึงตอนจบ มันเหมือนจะจบเร็วเกินไปนิดนึง หรืออาจจะยังไม่ได้ขยี้ประเด็นบางอย่างให้สุดเท่าที่ควรจะเป็นครับ มันทำให้รู้สึกว่า "อ้าว จบแค่นี้แล้วเหรอ" นิดๆ ครับ แต่ก็เข้าใจได้ว่าหนังมีความยาวจำกัด
อีกเรื่องที่อาจจะเป็นข้อสังเกตสำหรับบางคนนะครับ ถ้าใครคาดหวังว่าจะได้เห็น Venom สู้กับเหล่าร้ายแบบสาดกระสุน สาดพลังกันแบบสุดเหวี่ยงตลอดเวลา ภาคนี้อาจจะต้องปรับความคาดหวังลงมานิดหน่อย เพราะเน้นไปที่การต่อสู้ทางอารมณ์และจิตใจของเอ็ดดี้กับ Venom มากกว่า แต่ฉากแอ็คชั่นก็ยังมีให้ดูแน่นอนครับ และทำออกมาได้ดีด้วย
สรุปแล้ว "Venom: The Last Dance" เป็นภาคจบที่ผมว่าทำได้ดีครับ มันไม่ได้สมบูรณ์แบบ 100% แต่ก็เป็นภาคที่ทำให้เห็นพัฒนาการของตัวละครเอ็ดดี้และ Venom ได้อย่างชัดเจน เป็นหนังที่ดูสนุก ลุ้นระทึก มีทั้งฉากแอ็คชั่น ดราม่า และอารมณ์ขันในแบบของ Venom ครับ ใครที่เป็นแฟน Venom อยู่แล้ว ผมว่าไม่ควรพลาดครับ เป็นภาคที่ปิดไตรภาคนี้ได้อย่างน่าพอใจในระดับหนึ่งครับ
สำหรับคะแนน ผมให้ประมาณ 7.5/10 ครับ เป็นหนังที่ผมดูแล้วรู้สึกคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปครับ หวังว่ารีวิวนี้จะเป็นประโยชน์กับเพื่อนๆ ที่กำลังตัดสินใจจะไปดูนะครับ ใครไปดูมาแล้วมาแชร์ความเห็นกันได้นะครับ ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นครับผม.