ความจริงปัจจุบันหรือ โลกเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับการไถฟีดเฟจบุ๊คหรือเปล่าครับ แล้วเรายังเหลือ"ความจริงกลาง" หรือไม่?
ก่อนเปิดโทรศัพท์ โลกของข้อมูลไม่ได้อยู่ในสภาวะ “ทับซ้อนแบบควอนตัม”
แต่มันอยู่ในสภาวะที่มี
information entropy สูงมาก
ข่าว เหตุการณ์ ความเห็น มีอยู่พร้อมกันจำนวนมหาศาล โดยยังไม่ถูกจัดอันดับสำหรับคุณโดยเฉพาะ
เมื่อคุณเริ่มไถฟีด สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่การ “collapse ของความจริง”
แต่คือ
Bayesian update
ทุกการหยุดดู กดไลก์ หรือเลื่อนผ่าน คือ evidence
ที่ทำให้อัลกอริทึมอัปเดตความน่าจะเป็นว่า “คุณน่าจะสนใจอะไรต่อไป”
ฟีดของคุณจึงไม่ใช่โลก แต่เป็น
posterior distribution ของโลก
ภายใต้พฤติกรรมของคุณ
เมื่อกระบวนการนี้ทำซ้ำหลายร้อยครั้ง ระบบจะเข้าสู่
local optimum
นี่คือสิ่งที่เรียกว่า filter bubble หรือ echo chamber
ไม่ใช่เพราะระบบโกหก แต่เพราะในระบบซับซ้อน การ
exploit สิ่งที่เคยได้ผล
มีต้นทุนต่ำกว่าการ
explore สิ่งใหม่
ผลลัพธ์คือ ความหลากหลายของข้อมูลลดลง
ความมั่นใจในความเชื่อเพิ่มขึ้น
แต่ความถูกต้องไม่ได้เพิ่มตาม
สิ่งที่ผู้ใช้มองไม่เห็น ได้แก่:
ตัวแปรแฝงของโมเดล
แรงจูงใจเชิงพาณิชย์
การทดลอง A/B
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ non-locality แต่คือ
hidden variables เชิงสถิติ ที่กำหนดทิศทางฟีด
แนวคิดว่า “information is physical” เป็นเรื่องจริง
ข้อมูลที่คุณเสพ เปลี่ยนการทำงานของสมอง
เปลี่ยนอารมณ์ การตัดสินใจ และพฤติกรรมในโลกจริง
ข้อมูลจึงไม่ใช่แค่คำอธิบายโลก แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของกลไกที่เปลี่ยนโลก
คำถามสำคัญคือ
เรายังมีความจริงกลางหรือไม่?
คำตอบคือ:
ยังมี
แต่ความจริงกลางไม่ได้อยู่ในฟีด มันอยู่ในข้อมูลที่ตรวจสอบซ้ำได้
ในแบบจำลองที่ทำนายได้ และในข้อจำกัดของธรรมชาติที่โกหกไม่ได้
สิ่งที่แตกกระจายไม่ใช่ความจริง แต่คือ
ลำดับความสำคัญของความจริง
ซึ่งถูกจัดเรียงใหม่โดยอัลกอริทึม
ทางออกไม่ใช่การปิดโลกดิจิทัล แต่คือการเพิ่ม entropy ให้การรับรู้ของตนเอง
เข้าใจว่า feed คือแบบจำลอง ไม่ใช่ความจริง
และแยกให้ออกระหว่าง “สิ่งที่ถูกนำเสนอ” กับ “สิ่งที่เป็นอยู่จริง”
โลกไม่ได้กลายเป็นก้อนควอนตัม แต่มนุษย์กำลังอยู่ในระบบข้อมูลซับซ้อน
ที่ให้รางวัลกับความง่าย มากกว่าความจริง
ความจริงปัจจุบันหรือ โลกเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับการไถฟีดเฟจบุ๊คหรือเปล่า แล้วเรายังเหลือ"ความจริงกลาง" หรือไม่?
ก่อนเปิดโทรศัพท์ โลกของข้อมูลไม่ได้อยู่ในสภาวะ “ทับซ้อนแบบควอนตัม”
แต่มันอยู่ในสภาวะที่มี information entropy สูงมาก
ข่าว เหตุการณ์ ความเห็น มีอยู่พร้อมกันจำนวนมหาศาล โดยยังไม่ถูกจัดอันดับสำหรับคุณโดยเฉพาะ
เมื่อคุณเริ่มไถฟีด สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ใช่การ “collapse ของความจริง”
แต่คือ Bayesian update
ทุกการหยุดดู กดไลก์ หรือเลื่อนผ่าน คือ evidence
ที่ทำให้อัลกอริทึมอัปเดตความน่าจะเป็นว่า “คุณน่าจะสนใจอะไรต่อไป”
ฟีดของคุณจึงไม่ใช่โลก แต่เป็น posterior distribution ของโลก ภายใต้พฤติกรรมของคุณ
เมื่อกระบวนการนี้ทำซ้ำหลายร้อยครั้ง ระบบจะเข้าสู่ local optimum
นี่คือสิ่งที่เรียกว่า filter bubble หรือ echo chamber
ไม่ใช่เพราะระบบโกหก แต่เพราะในระบบซับซ้อน การ exploit สิ่งที่เคยได้ผล
มีต้นทุนต่ำกว่าการ explore สิ่งใหม่
ผลลัพธ์คือ ความหลากหลายของข้อมูลลดลง
ความมั่นใจในความเชื่อเพิ่มขึ้น
แต่ความถูกต้องไม่ได้เพิ่มตาม
สิ่งที่ผู้ใช้มองไม่เห็น ได้แก่:
ตัวแปรแฝงของโมเดล
แรงจูงใจเชิงพาณิชย์
การทดลอง A/B
สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ non-locality แต่คือ hidden variables เชิงสถิติ ที่กำหนดทิศทางฟีด
แนวคิดว่า “information is physical” เป็นเรื่องจริง
ข้อมูลที่คุณเสพ เปลี่ยนการทำงานของสมอง
เปลี่ยนอารมณ์ การตัดสินใจ และพฤติกรรมในโลกจริง
ข้อมูลจึงไม่ใช่แค่คำอธิบายโลก แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของกลไกที่เปลี่ยนโลก
คำถามสำคัญคือ เรายังมีความจริงกลางหรือไม่?
คำตอบคือ: ยังมี
แต่ความจริงกลางไม่ได้อยู่ในฟีด มันอยู่ในข้อมูลที่ตรวจสอบซ้ำได้
ในแบบจำลองที่ทำนายได้ และในข้อจำกัดของธรรมชาติที่โกหกไม่ได้
สิ่งที่แตกกระจายไม่ใช่ความจริง แต่คือ ลำดับความสำคัญของความจริง
ซึ่งถูกจัดเรียงใหม่โดยอัลกอริทึม
ทางออกไม่ใช่การปิดโลกดิจิทัล แต่คือการเพิ่ม entropy ให้การรับรู้ของตนเอง
เข้าใจว่า feed คือแบบจำลอง ไม่ใช่ความจริง
และแยกให้ออกระหว่าง “สิ่งที่ถูกนำเสนอ” กับ “สิ่งที่เป็นอยู่จริง”
โลกไม่ได้กลายเป็นก้อนควอนตัม แต่มนุษย์กำลังอยู่ในระบบข้อมูลซับซ้อน
ที่ให้รางวัลกับความง่าย มากกว่าความจริง