หากย้อนกลับไปดูเทรนด์สมาร์ตโฟนในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เราจะเห็นว่าเหล่าผู้ผลิตต่างพากันอัดสเปกกล้องและแบตเตอรี่จนทำให้ตัวเครื่องมีความหนาและน้ำหนักเพิ่มขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ กลายเป็นว่าผู้บริโภคต้องเลือกระหว่างประสิทธิภาพหรือความพกพาง่าย
แต่ในปี 2025 นี้ เกมได้เปลี่ยนไปแล้ว สงครามความบางกำลังกลับมาปะทุอย่างดุเดือดอีกครั้ง
แต่ความท้าทายในยุคนี้ไม่ใช่แค่การทำเครื่องให้บางเฉียบเหมือนกระดาษ
แต่ต้องเป็นการรีดหุ่นให้เพรียวลมโดยที่ไม่ลดทอนประสิทธิภาพ ไม่กั๊กสเปค และที่สำคัญคือแบตเตอรี่ต้องใช้งานได้จริงตลอดวัน
ในสมรภูมินี้ แบรนด์ที่สร้างเซอร์ไพรส์และเรียกเสียงฮือฮาได้มากที่สุดตั้งแต่ต้นปีในงาน Mobile World Congress 2025 (MWC25)
ณ เมืองบาร์เซโลนา ก็คือ TECNO ที่ได้เผยโฉมคอนเซ็ปต์สมาร์ตโฟนบางเฉียบจนกลายเป็นไวรัล
และวันนี้สิ่งที่หลายคนรอคอยก็มาถึงไทยแล้วกับ TECNO POVA Slim 5G
สมาร์ตโฟนที่ประกาศศักดาว่าเป็นมือถือ 5G จอโค้ง 3D Curved ที่บางที่สุดในโลก ด้วยความบางเพียง 5.95 มิลลิเมตร
แต่สิ่งที่น่าตกใจยิ่งกว่าคือภายใต้บอดี้ที่บางขนาดนี้ กลับยัดแบตเตอรี่มาให้ถึง 5,160 mAh นี่คือนวัตกรรมที่ฉีกกฎฟิสิกส์เดิมๆ และทาง KT Review กรุงเทพธุรกิจไอที จะพาไปเจาะลึกว่าทำไมสมาร์ตโฟนรุ่นนี้ถึงเป็นตัวตึงที่น่าจับตามองที่สุดในเรตราคาไม่เกิน 9,000 บาท
ศิลปะความบางระดับรางวัล Platinum
ความบางระดับ 5.95 มม. ของ TECNO POVA Slim 5G ไม่ได้เกิดขึ้นจากความบังเอิญ
แต่เกิดจากวิศวกรรมการออกแบบที่เรียกว่า Innovative Honeycomb Space Stacking Technology
ซึ่งเป็นการจัดระเบียบชิ้นส่วนภายในใหม่ ลดความหนาของแกนหลักลงและเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ถึง 12 เปอร์เซ็นต์
ทำให้ใส่แบตเตอรี่ก้อนยักษ์เข้าไปได้ ยิ่งไปกว่านั้น เพื่อลบภาพจำว่ามือถือบางมักจะเปราะบาง TECNO เลือกใช้วัสดุฝาหลังเป็นไฟเบอร์กลาสเกรดอากาศยาน (Aerospace-Grade Fiberglass) ที่บางเพียง 0.36 มม. แต่แข็งแกร่งกว่าวัสดุทั่วไปถึง 300 เปอร์เซ็นต์
และยืดหยุ่นกว่า 200 เปอร์เซ็นต์ การออกแบบที่ผสานความงามและความแกร่งนี้เอง ทำให้ TECNO POVA Slim 5G
ไปคว้ารางวัล MUSE Design Awards 2025 ระดับ Platinum Winner มาครองได้สำเร็จ การันตีความพรีเมียมที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล
มือถือมี "ดวงตา" และอารมณ์
ในยุคที่มือถือหน้าตาเหมือนกันไปหมด TECNO ฉีกหนีความจำเจด้วยฟีเจอร์ "Mood Light" ที่เป็นดีไซน์แบบ Interactive
เจ้าแรกของโลก บริเวณฝาหลังจะมีดีไซน์วงกลมคล้ายดวงตาสองข้าง ที่ไม่ได้มีไว้แค่โชว์ไฟสวยๆ
แต่แสดงอารมณ์โต้ตอบกับผู้ใช้ได้จริง ระบบไฟนี้จะแสดงแอนิเมชันที่แตกต่างกันตามสถานการณ์
ไม่ว่าจะเป็นการแจ้งเตือน การชาร์จแบต หรือสายเรียกเข้า โดยแสดงอารมณ์ได้หลากหลาย
เช่น มีความสุข หรือกะพริบตา ถือเป็นการใส่ลูกเล่นที่ทำให้สมาร์ตโฟนดูมีชีวิตชีวาและมีความเป็นมนุษย์ (Human-centric) มากขึ้น
ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่ที่ต้องการแกดเจ็ตที่สะท้อนตัวตนและไม่น่าเบื่อ
ประสิทธิภาพที่สวนทางกับความบาง
หลายคนกังวลว่าเครื่องบางจะระบายความร้อนทันไหม หรือสเปกจะโดนลดทอนลงหรือเปล่า สำหรับ POVA Slim 5G หายห่วงได้เลย
เพราะภายในขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต MediaTek Dimensity 6400 ที่รองรับ 5G เต็มรูปแบบ
มอบความเร็วแรงกว่า 5G ทั่วไปถึง 200 เปอร์เซ็นต์ และมีเทคโนโลยี FreeLink ที่ช่วยให้สื่อสารได้แม้ในจุดอับสัญญาณ
เรื่องความร้อนก็ถูกจัดการด้วย Vapor Chamber ที่บางเฉียบเพียง 0.3 มม. ผสานกับแผ่นกราไฟต์ขนาดใหญ่
ทำให้ระบายความร้อนได้ดีเยี่ยมแม้จะเล่นเกมหนักๆ ต่อเนื่อง ในส่วนของหน้าจอเป็นแบบ AMOLED 3D Curved ความละเอียด 1.5K
ที่ดันความสว่างได้สูงถึง 4,500 nits และมี Refresh Rate สูงถึง 144Hz
เรียกได้ว่าเป็นสเปคหน้าจอระดับเรือธงที่หาตัวจับยากในเรตราคานี้
แบตเตอรี่ ความทนทาน และความคุ้มค่า
จุดตายของมือถือเครื่องบางในอดีตคือแบตเตอรี่ที่น้อยนิด แต่รุ่นนี้ให้มาถึง 5,160 mAh พร้อมชาร์จไว 45W
ซึ่งทางแบรนด์เคลมว่าใช้งานต่อเนื่องได้นานสูงสุดถึง 28 ชั่วโมง
นอกจากนี้ยังมั่นใจเรื่องความทนทานด้วยกระจกหน้าจอ Corning® Gorilla® Glass 7i และมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่น IP64
พร้อมโครงสร้างทนแรงกระแทกระดับ Military-grade ทั้งหมดนี้เปิดตัวในราคาเพียง 8,999 บาท (รุ่น 16+256GB)
พร้อมดึงตัว "พลอยชมพู ญานนีน" มาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์สะท้อนภาพลักษณ์คนรุ่นใหม่
หากใครที่กำลังมองหามือถือที่ถือแล้วหล่อ ดีไซน์ล้ำไม่ซ้ำใคร
แต่ยังคงประสิทธิภาพการใช้งานที่ครบเครื่อง TECNO POVA Slim 5G คือตัวเลือกที่คุ้มค่าที่สุดในนาทีนี้
แหล่งที่มา : กรุงเทพธุรกิจ
บางที่สุดในโลก! รู้จัก 'TECNO POVA Slim 5G' มือถือสุดบาง ราคาสุดเบา