เทศกาลไหว้ขนมบัวลอย หรือ
เทศกาลตังโจ่ย คือ วันเปลี่ยนเทศกาลเป็นฤดูหนาว มีลักษณะเป็นวันที่พระอาทิตย์จะส่องแสงสั้นที่สุด
หรือวันที่เป็นจุดสูงสุดในฤดูหนาว โดยเทศกาลไหว้ขนมบัวลอยถือเป็นเทศกาลสุดท้ายของชาวไทยเชื้อสายจีนในรอบหนึ่งปี
ปฏิทิน
ซึ่งในเทศกาลนี้จะมีการทำขนมบัวลอย หรือขนมอี๋ มาไหว้ฟ้าดิน ปึงเถ่ากง ตี่จู่

(เจ้าที่) เพื่อขอบคุณที่ได้ช่วยให้การดำรงชีวิตของสมาชิกทุกคนในครอบครัวสามารถดำรงมาได้อย่างราบรื่นตลอดปีที่ผ่านมา และเพื่อขอพรให้ช่วยคุ้มครองคนในครอบครัวด้วย
รู้จักขนมบัวลอย ในเทศกาลตังโจ่ย หรือวันไหว้ขนมบัวลอยย
สำหรับ
ขนมบัวลอย หรือ
ขนมอี๋ ที่ใช้ในการไหว้ จะทำจากแป้งข้าวเหนียวนวดกับน้ำต้มสุกจนเข้าที่และปั้นเป็นเม็ดกลม ๆ เล็ก ๆ
นิยมผสมสีชมพูและสีขาว เมื่อปั้นเสร็จแล้วจึงนำลงไปต้มในน้ำเดือด คล้ายกับการทำบัวลอยน้ำกะทิของคนไทย
แต่ขนมอี๋จะใช้น้ำตาลทรายขาวหรือน้ำตาลทรายแดงแทนกะทิ ที่สำคัญจะต้องมีขนมอี๋ลูกใหญ่ที่เรียกว่า อีโบ้
ใส่ลงไปในถ้วยขนมอี๋ที่จะไหว้ถ้วยละ 1 ลูกด้วย
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของรุ่นอากง ย่าที่ทำ หรือบ้านอื่นๆ แต่สำหรับกัมบอล

เป็นคนรุ่นใหม่ ที่ไม่มีผู้ใหญ่อยู่ร่วมบ้าน
ก็ต้มแบบง่ายๆค่ะ เอาสาคูเม็ดใหญ่มาต้ม จะมาปั้นให้เสียเวลาทำไม ความจริงแหละ แขนหักค่ะ ปั้นไปก็เจ็บมือ อีกอย่างมีเหล็กบังคับ
ทำให้หันข้อมือไม่ได้ จนกว่าจะผ่าเหล็กออก ซึ่งด้านคดียังไม่จบ เอาเงินที่ไหนไปผ่าแหละ

ค่าผ่าราคาดุมาก
ปีที่แล้วต้มแบบสีชมพูอย่างเดียว ปีนี้ต้ม 2 สีเลย แบ่งสีขาวมาแช่น้ำแดงหน่อยหนึ่ง สวยงามตามท้องเรื่องค่ะ
ตักให้น้องกินแล้วบอกน้องว่า มากินไข่มุกกัน น้องบอกไม่เหมือน

ไข่มุกที่ใส่ในชานมหนึบกว่า

ก็สมมุติไงแหละไอ้น้อง แต่น้องก็กินจนหมดชาม ตักแบ่งเพื่อนบ้านไปด้วย
ว่าแต่ที่บ้านของแต่ละท่านที่มีเชื้อสายจีน ยังต้มหรือไหว้กันอยู่ไหมค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมกระทู้ค่ะ

กินขนมบัวลอย ในวันไหว้ของเทศกาลตังโจ่ยกันค่ะ
หรือวันที่เป็นจุดสูงสุดในฤดูหนาว โดยเทศกาลไหว้ขนมบัวลอยถือเป็นเทศกาลสุดท้ายของชาวไทยเชื้อสายจีนในรอบหนึ่งปี ปฏิทิน
ซึ่งในเทศกาลนี้จะมีการทำขนมบัวลอย หรือขนมอี๋ มาไหว้ฟ้าดิน ปึงเถ่ากง ตี่จู่
สำหรับ ขนมบัวลอย หรือ ขนมอี๋ ที่ใช้ในการไหว้ จะทำจากแป้งข้าวเหนียวนวดกับน้ำต้มสุกจนเข้าที่และปั้นเป็นเม็ดกลม ๆ เล็ก ๆ
นิยมผสมสีชมพูและสีขาว เมื่อปั้นเสร็จแล้วจึงนำลงไปต้มในน้ำเดือด คล้ายกับการทำบัวลอยน้ำกะทิของคนไทย
แต่ขนมอี๋จะใช้น้ำตาลทรายขาวหรือน้ำตาลทรายแดงแทนกะทิ ที่สำคัญจะต้องมีขนมอี๋ลูกใหญ่ที่เรียกว่า อีโบ้
ใส่ลงไปในถ้วยขนมอี๋ที่จะไหว้ถ้วยละ 1 ลูกด้วย
ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของรุ่นอากง ย่าที่ทำ หรือบ้านอื่นๆ แต่สำหรับกัมบอล
ก็ต้มแบบง่ายๆค่ะ เอาสาคูเม็ดใหญ่มาต้ม จะมาปั้นให้เสียเวลาทำไม ความจริงแหละ แขนหักค่ะ ปั้นไปก็เจ็บมือ อีกอย่างมีเหล็กบังคับ
ทำให้หันข้อมือไม่ได้ จนกว่าจะผ่าเหล็กออก ซึ่งด้านคดียังไม่จบ เอาเงินที่ไหนไปผ่าแหละ
ปีที่แล้วต้มแบบสีชมพูอย่างเดียว ปีนี้ต้ม 2 สีเลย แบ่งสีขาวมาแช่น้ำแดงหน่อยหนึ่ง สวยงามตามท้องเรื่องค่ะ
ตักให้น้องกินแล้วบอกน้องว่า มากินไข่มุกกัน น้องบอกไม่เหมือน
ว่าแต่ที่บ้านของแต่ละท่านที่มีเชื้อสายจีน ยังต้มหรือไหว้กันอยู่ไหมค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะมาเยี่ยมชมกระทู้ค่ะ