เฟส ที ลมฟ้าอากาศ เมื่อวาน
ฝากถึง ชาวหาดใหญ่ สะเดา คลองหอยโข่ง
ช่วยกระทุ้งไปให้ดังๆหน่อยครับ [url=https://www.facebook.com/hashtag/save%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%82%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%AD%E0%B8%87?__eep__=6&__cft__[0]=AZaH3DOWfsoBVbuLjRbuvU8GRlDqhsuOgp7bJKNdy-1LuNIPBiUK9SGjvvCC_Dh-DycenOAkwQv3grQKLtrwQXInOEWjUrAl4zW7y5Rjku9gDdr-iT8Izvu_b1rS5XcyTyTe2cpoCj2Oy8IVrfBQ56fKdfn01Eo9R50LdJ6AGDMFFA&__tn__=*NK-R]Saveในพื้นที่ของท่านเอง[/url]
การบริหารการจัดการน้ำ ของต้นน้ำคลองอู่ตะเภา อีกไม่นาน อาจจะเกิดปัญหาได้แน่ (ถ้ายังบริหารแบบนี้)
อย่างแรกเลย สอบถามนายอำเภอ สะเดา คลองหอยโข่ง ชลประทาน พื้นที่ครับ ว่าทำไมถึงปล่อยให้
ปริมาตรน้ำในอ่างเก็บน้ำ กักเก็บมากสูงถึง 95-96% ได้ (อีกสาเหตุ ที่ทำให้น้ำหลากเร็ว หากเกิดสภาวะวิกฤต ฝนตกสะสมเหนืออ่างเก็บน้ำมาก)
อ่างเก็บน้ำคลองสะเดา อำเภอสะเดา ปัจจุบัน มีความจุที่ 96% (หาดใหญ่รับเต็มๆ ถ้าล้นสปีลเวย์)
อ่างเก็บน้ำคลองหลา อำเภอคลองหอยโข่ง ปัจจุบัน มีความจุที่ 95%
อ่างเก็บน้ำคลองจำไหร อำเภอคลองหอยโข่ง ปัจจุบัน มีความจุที่ 93%
เพราะปริมาตรกักเก็บขนาดนี้ ถือว่า ใกล้จะเต็มความจุแล้ว หากฝนตกลงมาเหนืออ่างเก็บน้ำเพิ่ม น้ำก็จะล้นสปีลเวย์
ความหมาย น้ำล้นสปิลเวย์ หมายถึง อ่างเก็บน้ำ ไม่สามารถกักเก็บได้อีก
ถ้าหากฝนตกเท่าไหร่ น้ำก็จะไหลลงไปพื้นที่ข้างล่างทั้งหมด และอ่างก็ต้องระบายน้ำ ผ่านประตูระบายน้ำเพิ่ม ทำให้ยากต่อการควบคุม การบริหารจัดการได้
และเมื่อบริหารจัดการยาก หรือควบคุมไม่ได้ มวลน้ำเหล่านี้
ทุกลำน้ำสาขา ก็จะไหลลงสู่ อำเภอหาดใหญ่ โดยตรงทั้งหมด
สำหรับ ในพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ ในส่วนของคลอง ร.1 ก็พบอุปกรณ์สถานีตรวจวัดระดับน้ำ เสีย ที่สถานีเทศาพัฒนา ตรงนี้ต้องรีบซ่อมแล้วครับ
"ไม่รู้ว่าหน่วยงานใดดูแล เพราะผ่านมา จะครบเดือนแล้ว ทำไมถึงยังไม่รีบดำเนินการ?"
งบประมาณบริหารจัดการน้ำ จังหวัดสงขลา อันดับ 4ของประเทศนะครับ มากถึง 2,326,627,400บาท
(คนในพื้นที่ช่วยตรวจสอบกันด้วยนะครับ ว่างบตรงนี้ มันกระจายไปตรงไหน หรือ ละลายไปกับโครงการอะไร หรือมีการทุจริต คอรัปชั่น หรือไม่)
วันนี้วันหยุดก็จริง แต่ท่านอย่าหยุดทำงานนะครับ เพื่อคนในพื้นที่ของท่านเอง ช่วงนี้ยังพอมีเวลาในการบริหารจัดการทำให้มันดี ทำให้ประเมินสถานการณ์แล้วปลอดภัย และสามารถช่วยป้องกันภัยพิบัติได้
ขอขอบคุณภาพจาก [url=https://www.facebook.com/PR.HatyaiCity?__cft__[0]=AZbxqGT4vAY-YrBtPYk08mpIZKX9sGnd4KJXXuk3s7USShnZyAQ__998N2HQJ_QjUHh2NCLhiPRv0dkxJEYZZWyGZP05mJYM0N_7ohTc98SCppMVYsgGJkZSu3V_kSst_C5HkirOqRBgLQ1Cg8hH_idbl_5tQlCzTV6nHaRAcYf4Tec0xMU75eRPyRXYO-IVHcw&__tn__=-]K-R]เทศบาลนครหาดใหญ่[/url] ที่ทำให้วิเคราะห์ อีก 1 สาเหตุ ที่อาจจะทำให้เกิดภัยพิบัติได้
หวังว่าโพสนี้จะเป็นประโยชน์ ทำให้ท่านฉุกคิดขึ้นมาได้... บลาๆๆๆ
เเล้ว ก็ มีคนตอบ Rainy Chemist
ขออนุญาตนะคะ การคาดการณ์แบบนี้ อย่าก้าวก่ายหน้าที่หน่วยงานราชการดีกว่านะคะ ควรที่จะทำแค่ประเมินสถานการณ์ก็พอ
เพราะตอนนี้ภัยแล้งเริ่มมีทั่วโลก มันไม่ใช่แค่ปริมาณน้ำฝน ภัยแล้ง มันน่ากลัวกว่ามีปริมาณน้ำที่เยอะ
เป็นเพจที่มีคนติดตามมากมายควรคิดให้รอบคอบ คิดให้รอบด้าน การบริหารการจัดการน้ำ ในการรับมวลน้ำ ง่ายกว่า การบริหารจัดการน้ำแบบมีภัยแล้ง
ซึ่ง คำว่า ภัยแล้ง คือ ไม่มีน้ำเลย ไม่มีน้ำให้ใครเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำจะเอามาจากไหน คนต่างชาติหนีเข้าไทยเพราะพวกเขาไม่มีน้ำ
อย่าทำเพจกล่าวโทษผู้อื่น ภัยพิบัติมันเกิดขึ้นทั่วโลก หน่วยงานราชการคนที่ทำงาน ไม่ใช่คนนั่งโต๊ะ คือ ฝ่ายกำลังพล
ตั้งแต่มีปัญหา กำลังพลเหล่านี้ ยังไม่ได้กลับบ้านไปหาครอบครัวพวกเขา พวกเขากำลังแย่ และเหนื่อยมากๆ หลายคนก็ป่วย
เราต้องสับเปลี่ยนกำลังพลเยอะมาก เพื่อฟื้นฟูหาดใหญ่
ถ้าหน่วยงานราชการปล่อยน้ำทิ้ง เพราะเกรงมวลน้ำฝน หรือ ภาชนะบรรจุจะรับไม่ไหว
หากการปล่อยครั้งนี้ เป็นไปตามใจของท่านทั้งหลาย ขอแผนการรับมือภัยแล้งด้วยค่ะ
จังหวัดภูเก็ต เคยบ้าจี้ ปล่อยน้ำหลังจากที่น้ำท่วมหนัก ปล่อยน้ำปุ๊บ ฝนทิ้งช่วงทันทีเลย
สิ่งที่เกิดขึ้น คือ เราไม่มีน้ำใข้อุปโกค บริโภค เราขาดน้ำนานกว่า 4 เดือน มีจราจลเกิดขึ้น ทั่วแผ่นดินภูเก็ต ค่าครองชีพสูงขึ้นมากกว่า 2 เท่า
เราต้องเอาน้ำจากเขื่อนรัชประภา จากพังงา จากประจวบ เราต้องเดินท่อใหม่
ถ้าหาดใหญ่ทำเช่นนั้น และไม่มีน้ำใช้ ต้องขอน้ำจากเขื่อนรัชประภา
เราไม่มีเพียงพอที่จะให้ เพราะเราต้องส่งเข้าเกาะ คิอ เกาะสมุย เกาะพะงัน เกาะเต่า เกาะภูเก็ต พังงา
การสื่อความหมายของเพจสาธารณะ คิดให้รอบด้านค่ะ อย่าทำอะไรด้านเดียว...... บลาๆๆๆ
อีกเฟส อาจารย์เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ย้ำว่า แม้ฝนทางภาคใต้จะลดลงบ้าง แต่ก็ไม่ควรประมาท เพราะค่า ENSO ได้ย้อนกลับมาเป็นลานีญาอีกรอบ ตั้งแต่ปลายปีนี้ไปจนถึงต้นปีหน้า ทำให้เกิดภาวะที่ฝนยังคงตกหนักต่อเนื่องยาวนาน แม้จะเข้าสู่ฤดูหนาวแล้วก็ตาม
อาจารย์เจษ ได้ย้ำคำเตือนของ อาจารย์ สธน วิจารณ์วรรณลักษณ์ ภาควิชาฟิสิกส์ คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ ว่า แม้ลานีญาที่เกิดขึ้นในขณะนี้จะอยู่ในระดับอ่อนๆ โดยมีค่าดัชนี ENSO ไม่เกิน -0.5 ทำให้ฝนตกเพิ่มขึ้นเพียง 10-15%
แต่สถานการณ์น้ำท่วมหนักก็ยังคงเกิดขึ้นได้ ดังเช่นที่เกิดขึ้นที่หาดใหญ่ในปีนี้ ซึ่งคล้ายกับเหตุการณ์ลานีญาปี 2554 โดยเกิดจากร่องฝนที่แช่ตัวอยู่นานหลายวัน ทำให้มีฝนตกหนักมากเฉพาะพื้นที่
อาจารย์ สธน ชี้ให้สังเกตว่า หากกรุงเทพฯ มีอากาศหนาว ภาคใต้ฝั่งตะวันออกจะมีสิทธิเกิดน้ำท่วมได้สูง เนื่องจากกระแสลมพัดข้ามอ่าวไทยนำความชื้นจำนวนมากลงไปปะทะภูเขา ดังนั้น ในช่วงเดือนธันวาคมถึงมกราคมนี้ จึงยังคงมีโอกาสเกิดพายุใหญ่หรือฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจึงควรเร่งบรรเทาความเดือดร้อนและเตรียมรับมือฝนระลอกใหม่ด้วย
สิ่งที่น่าเป็นกังวลยิ่งกว่าคือ คำทำนายล่วงหน้าของค่า ENSO ในปีหน้า 2569 ซึ่งมีแนวโน้มที่จะพลิกกลับไปเกิด “เอลนีโญ” ในช่วงกลางปี โดยการคาดการณ์แบบอะนาล็อกโดยบริษัท Climate Impact คาดการณ์ไว้สำหรับเดือนมิถุนายน/กรกฎาคม/สิงหาคม 2569 ซึ่งจะทำให้สถานการณ์เปลี่ยนเป็นการรับมือกับ “ภัยแล้ง” แทน
ผู้เชี่ยวชาญจึงฝากเตือนว่า อย่าตื่นตระหนกกับน้ำท่วมในปีนี้จนรีบพร่องน้ำทั้งหมด ซึ่งอาจส่งผลให้ไม่เหลือน้ำกินน้ำใช้เมื่อเข้าสู่ภาวะภัยแล้งในปีหน้า
เอาไงดี ปล่อยน้ำ 50 /50 เเทงเลขไหน ดี
จาก การที่ เฟส ที ลมฟ้าอากาศ เคยเตือน หาดใหญ่ น้ำจะท่วมหนักสุดในรอบ...ปี(ก่อนน้ำมา ราว2-3 วัน ) แล้วก็เตือน อีก..ว่า..