sky fall flood

SKY FALL FLOOD
ปีที่เกิดขึ้น ของ sky fall flood.....???
4 ตุลาคม พ.ศ 2566 เกิดฝนตกหนัก 20-25 มิลลิเมตร เกิด มีน้ำเทลงมาจากบริเวณภูเขา 25-30 มิลลิเมตร ราวๆ 25000-30000 ตารางกิโลเมตร จำนวนผู้เสียชีวิต....? (ไม่มีสัญญาณเตือน จากอุปกร์ณหรือเทคโนโลยีจากสภาพอากาศ ไม่สามารถตรวจจับได้)
28 กันยายน พ.ศ. 2451 เกิดฝนตกหนัก .. น้ำเทลงมาอย่างรุนแรงจากบริเวณภูเขา ระดับน่ำเพิ่มขึ้นฉับพลัน 3.4 เมตร เสียชีวิต 15000 คน (ไม่มีสัญญาณเตือน จากอุปกร์ณหรือเทคโนโลยีจากสภาพอากาศ ไม่สามารถตรวจจับได้)
00 มิถุนายน พ.ศ.2556 ณ. รัฐ อุตตราขัณฑ์ ในประเทศอินเดีย บริเวณ เทือกเขาหิมาลัย น้ำท่วมฉับพลันดินถล่ม เสียหายรุนแรง ผู้เสียชีวิต มากกว่า 6000. คน ก่อนเกิดเหตุมีฝนตกหนัก มากกว่า 20 มิลลิเมตร ก่อนที่จะมาการเทน้ำลงมาจาก บริเวณ ไหล่ เขาเป็นจำนวนมหาศาล (ไม่มีสัญญาณเตือน จากอุปกร์ณหรือเทคโนโลยีจากสภาพอากาศ ไม่สามารถตรวจจับได้)
14 -15 สิงหาคม พ.ศ.2568 ณ. ประเทศอินเดีย แคว้นแคชเมีย เขตคิสต์วาร์ เกิดฝนตกหนักรุนแรง ดินถล่มและจำนวนน้ำมหาศาล ไหลมาจากภูเขา ทำให้บ้านเรือนสะพายเสียหายหนัก เสียชีวิตและสูญหาย มากกว่า 300 คน (ไม่มีสัญญาณเตือน จากอุปกร์ณหรือเทคโนโลยีจากสภาพอากาศ ไม่สามารถตรวจจับได้) มีแค่การตรวจพบว่าเกิดฝนตกหนักในบริเวณ..
19 สิงหาคม พ.ศ. 2568 เวลา 13:13 ณ เขตบูเนอร์ ปากีสถาน ฝนตกหนัก 100 มิลิเมตร/ชม. ก่อนมีน้ำเทลงมาจากบนภูเขา เป็นจำนวนมหาศาล ดินถล่มบ้านเรือนเสียหาย ผู้เสียชีวิตและสูญหาย...??
25 ตุลาคม พ.ศ.2505
เหตุการ์ณ....Harriet พายุโซนร้อน เกิดที่แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครราชสีมา (ข้อมูลไม่เพียงพอ)
เหตุการ์ณที่คล้ายกัน
เกิดฝนตกหนัก ใน ปริมาณ 25-30 มิลลิเมตร หรือราวๆ 25000-30000 ตารางกิโลเมตร ใน ไม่ถึงครึ่ง ชั่วโมง ก่อนจะมีน้ำเทลงมาจากบิเวณ ภูเขา เป็นจำนวนมหาศาลในทีเดียว (ปริมาณของน้ำที่เทลงมามีประมาณ 100 มิลลิเมตร หรือ 100.000 ตารางกิโลเมตร) คล้ายกับการเทน้ำลงมาในบริเวณจุดเดียวเป็นจำนวนมาก
การวิจัยสาเหตุและปัจจัยที่เกี่ยวข้อง ของเหตุการ์ณ sky fall flood.
เหตุหลักๆ ถูกอ้างอิงค์ว่า เกิดจาก “ก๊าซเรือนกระจก” ที่อยู่ในชั้นบรรยากาศเป็นจำนวนมาก
ทำให้เกิดฤดูมรสุมเปลี่ยนไป อากาศที่ทอุ่นกว่า กักเก็บความชื้นจากทะเลอาหรับ และ มหาสมุทรอินเดียได้เป็นจำนวนมาก. ทำให้ฝนนั้นไม่ตกต่อเนื่องตามฤดูกาล (เกิดน้ำท่วมรุนแรงสลับแล้งเป็นระยะๆ ก่อให้เกิดการกักเก็บความชื้นที่มากกว่าเดิม ซึ่งโดยปกติ เมฆ ไม่สามารถที่จะกักเก็บความชื้นได้มากขนาดนั้น มันจะต้องมีการถ่ายเทหรือที่เรียกว่า ฝนนั่นเอง)
ลักษณะภูมิประเทศที่เกี่ยวข้อง หรือลักษณะของพื้นที่
พื้นที่ที่เกิดมักจะเกิด ใน ที่ ที่มีภูเขาล้อม หรือภูเขาปกคลุม หรือบริเวณหมู่บ้านที่เป็นแอ่งกระทะแล้วมีภูเขาล้อมรอบ (เกิดบ่อยสุดในประเทศอินเดีย ปากีสถาน) เนื่องจากพื้นที่เอื้ออำนวย ทำให้เกิดสภาพอากาศที่เลวราย น้ำท่วมดินถล่มอยู่เป็นระยะๆ.
Sky fall flood นั้น มักเกิดขึ้น พื้นที่ภูเขาสูง เทน้ำจากด้านบนลงมาข้างล่าง อันเนื่องจากพื้นภูเขาสูง จะทำให้ มวลอากาศถูกบังคับจากระดับความสูงต่ำไปยังระดับความสูงที่สูงกว่า ในขณะที่มวลอากาศเคลื่อนตัวไปในพื้นที่ที่สูงขึ้น เมื่อมวลอากาศเพิ่มระดับความสูง อากาศจะเย็นลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งสามารถเพิ่มความชื้นสัมพันธ์ได้ถึง 100% และ สร้างเมฆขึ้นมา ทำให้เกิดฝนตกภายใต้สภาวะที่เหมาสม. (ฝนที่ตกลงมาจะมากถึง100 มิมิลเมตร/ชั่วโมง = 100.000 ตารางกิโลเมตร)
สภาวะที่เหมาะสม
ภายในพื้นที่หรือบริเวณ มีสภวะที่ อบอุ่นชื้น อทกาศลอยตัวขึ้น ความชื่นสูง ความกดอากาศต่ำ
เมื่อความชื้นถูกบังคับให้ลอยตัวขึ้น สูง จนไปสัมผัสบริเวณเนินเขาหรือภูเขา อากาศที่ลอยตัวจะเย็นลง และ ควบแน่น เกิดการก่อตัวเป็นเมฆขนาดใหญ่มีความหนาแน่นมาก เมฆกักน้ำได้มากขึ้น แต่ ไม่สามารถกระจายตัวออกจากกัน กระแสลมไม่สามารถพัดเมฆออกไปจากบริเวณภูเขา แม้กระทั่งลมที่รุนแรงก็ไม่อาจพาเมฆที่มีปิมาณน้ำที่มากเกินไปผ่านพ้นไปจากบริเวณภูเขาได้ ฝนที่ตกตามฤดูกาลถูกหยุดเป็นเวลานาน ความหนาแน่นของเมฆเริ่มก่อตัวมากขึ้นน้ำที่มากขึ้น จนในที่สุด เมฆก็ไม่อาจรองรับปริมาณน้ำที่มากจนเกิดไปก่อให้เกิด ปรากฏการ์ณ Sky fall flood น้ำเป็นจำนวนมาก ถูกเทลงมาจากภูเขาสู่บริเวณบ้านเรือนที่อยู่ภายในบริเวณที่ราบ ต่ำของภูเขากวาดทุกสิ่งทุกอย่างภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง เกิดความเสียหายที่รุนแรง การเสียชีวิตมากมาย
เหตุใดถึงไม่มีการแจ้งเตือนถึงความรุนแรง
ณ. ตอนนี้ไม่มีอุปกร์ณ หรือ เทคโนโลยีใดที่สามารถคาดการการเกิด ปรากฏการ์ณ Sky fall flood ได้เลย
สิ่งที่คาดการ์ณมีเพียงฝนที่ตกหนัก จึงไม่มีการแจ้งเตือนการระมัดระวังกับเหตุการ์ณที่อาจเกิดขึ้นมา อย่างกระทันหันได้
ความรู้เพิ่มเติม
ในแต่ละปี ภูมิภาคเอเชียใต้ จะเผชิญกับฤดูมรสุม 2 ครั้ง โดยช่วงแรก จะอยู่ที่เดือน มิถุนายน - กันยายน โดยฝนจะเคลื่อนตัว จากทิศตะวะตกเฉียงใต้ไปยังทิศทาตะวันออกเฉียงเหนือ
ส่วนอีกฤดูจะอยู่ในช่วง เดือน ตุลาคม - ธันวาคม ซึ่งจะเคลื่อนที่ไปในทิศทางตรงกันข้าม (ทางเหนือเดินทางไปทางใต้).

และนี่คือเรื่องราวของSky fall flood......
Sky Fall Flood (หรือในทางอุตุนิยมวิทยามักสัมพันธ์กับปรากฏการณ์ Cloudburst หรือ "เมฆระเบิด") คือปรากฏการณ์ที่ฝนตกลงมาอย่างหนักหน่วงและรุนแรงมากในระยะเวลาสั้นๆ (มักน้อยกว่า 1 ชั่วโมง) ในพื้นที่จำกัด โดยเฉพาะบริเวณภูเขา ลักษณะคล้ายกับการ "เทน้ำ" จำนวนมหาศาลลงมาจากท้องฟ้าในจุดเดียว
ความน่ากลัวของปรากฏการณ์นี้คือ ปริมาณน้ำฝนที่ตกลงมาอาจสูงถึง 100 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งเมื่อน้ำจำนวนมหาศาลนี้ตกลงบนพื้นที่ภูเขา จะทำให้เกิดมวลน้ำสะสมไหลบ่าลงสู่ที่ราบต่ำอย่างรวดเร็ว กวาดล้างบ้านเรือนและสิ่งมีชีวิตโดยไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า


กลไกการเกิดและสภาพวะที่เหมาะสม
ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นได้ทุกที่ แต่ต้องอาศัยปัจจัยทางภูมิประเทศและสภาพอากาศที่จำเพาะเจาะจง ดังนี้:
กระบวนการก่อตัว (Mechanism)
1.การยกตัวของอากาศ (Orographic Lift): มวลอากาศที่มีความชื้นสูงและอบอุ่นถูกลมมรสุมพัดพาไปปะทะกับแนวเขา ทำให้มวลอากาศถูกบังคับให้ยกตัวขึ้นสู่ที่สูง
2.การควบแน่นฉับพลัน: เมื่ออากาศลอยสูงขึ้นจะเย็นตัวลงอย่างรวดเร็ว (ความชื้นสัมพัทธ์แตะ 100%) กลั่นตัวเป็นเมฆฝนขนาดใหญ่ที่มีความหนาแน่นสูงมาก
3.การกักขัง (Trapping): กระแสลมไม่สามารถพัดพากลุ่มเมฆหนาทึบนี้ข้ามยอดเขาไปได้ ทำให้เมฆถูกกักและสะสมประจุความชื้นเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนเกินขีดจำกัด
4.การถล่ม (Collapse): เมฆไม่สามารถอุ้มน้ำไว้ได้อีกต่อไป จึง "เท" น้ำลงมาพร้อมกันในคราวเดียวเหมือนเขื่อนแตกกลางอากาศ



ปัจจัยเร่ง

ก๊าซเรือนกระจก (Greenhouse Gases): การสะสมของก๊าซเรือนกระจกทำให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้น อากาศที่อุ่นขึ้นจะดูดซับความชื้นจากทะเล (เช่น ทะเลอาหรับ, มหาสมุทรอินเดีย) ได้มากกว่าปกติ ทำให้เมฆอุ้มน้ำไว้มากเกินความจำเป็น
ลักษณะภูมิประเทศ: มักเกิดในพื้นที่ "แอ่งกระทะ" ที่มีภูเขาล้อมรอบ หรือหุบเขาแคบๆ ซึ่งเป็นลักษณะภูมิประเทศที่พบมากในอินเดียและปากีสถาน
สถิติเหตุการณ์สำคัญในอดีต (Timeline)
ประวัติศาสตร์ได้บันทึกความสูญเสียจากเหตุการณ์ลักษณะนี้ไว้หลายครั้ง:
28 กันยายน พ.ศ. 2451 (ค.ศ. 1908): เกิดฝนตกหนักและน้ำเทลงจากภูเขา ระดับน้ำเพิ่มฉับพลัน 3.4 เมตร มีผู้เสียชีวิตกว่า 15,000 คน (คาดว่าเป็นเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่แม่น้ำมูซี เมืองไฮเดอราบาด)
25 ตุลาคม พ.ศ. 2505 (ค.ศ. 1962): ประเทศไทยเผชิญกับ พายุโซนร้อนแฮเรียต (Harriet) ที่แหลมตะลุมพุก อ.ปากพนัง จ.นครศรีธรรมราช (แก้ไขข้อมูลพื้นที่) เหตุการณ์นี้มีลักษณะคล้ายคลึงกันคือคลื่นลมและฝนรุนแรงกวาดล้างพื้นที่ในพริบตา
มิถุนายน พ.ศ. 2556 (ค.ศ. 2013): รัฐอุตตราขัณฑ์ ประเทศอินเดีย (เทือกเขาหิมาลัย) ฝนตกหนักเพียง 20 มม. นำไปสู่การพังทลายของธารน้ำแข็งและดินถล่ม มีผู้เสียชีวิตกว่า 6,000 คน
4 ตุลาคม พ.ศ. 2566 (ค.ศ. 2023): เกิดฝนตกวัดได้ 20-25 มม. แต่น้ำหลากมหาศาลจากภูเขา (คาดว่าเป็นเหตุการณ์ทะเลสาบกลาเซียในสิกขิมแตก) ครอบคลุมพื้นที่กว้าง
14-15 สิงหาคม พ.ศ. 2568 (ค.ศ. 2025): แคว้นแคชเมียร์ เขตคิสต์วาร์ อินเดีย เกิดดินถล่มและน้ำป่า เสียหายหนัก เสียชีวิตและสูญหายกว่า 300 คน
19 สิงหาคม พ.ศ. 2568 (ค.ศ. 2025): เขตบูเนอร์ ปากีสถาน ฝนตกหนัก 100 มม./ชม. น้ำเทจากภูเขา ดินถล่มรุนแรง
ปัญหาเรื่องการแจ้งเตือนภัย
หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ Sky Fall Flood สร้างความสูญเสียมหาศาล คือ "ความล้มเหลวในการแจ้งเตือน"
ข้อจำกัดทางเทคโนโลยี: ปัจจุบันยังไม่มีอุปกรณ์ใดที่สามารถพยากรณ์การเกิด "Cloudburst" หรือการเทลงมาของน้ำแบบเจาะจงจุดได้อย่างแม่นยำล่วงหน้านานๆ
สิ่งที่ตรวจจับได้: เรดาร์ตรวจอากาศมักจับได้เพียงว่า "มีกลุ่มฝนหนาแน่น" หรือ "ฝนตกหนัก" เท่านั้น แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเมฆก้อนนั้นจะถล่มน้ำลงมาทั้งหมดในวินาทีใด
ระยะเวลาวิกฤต: เหตุการณ์มักเกิดขึ้นเร็วมาก (ไม่ถึงครึ่งชั่วโมง) ทำให้เมื่อรู้ตัว น้ำก็ไหลบ่าลงมาถึงพื้นที่อยู่อาศัยแล้ว การอพยพจึงทำได้ยากลำบาก
ข้อมูลเพิ่มเติม: วัฏจักรมรสุมเอเชียใต้
เพื่อให้เข้าใจบริบทของพื้นที่เกิดเหตุ (อินเดีย/ปากีสถาน) ต้องเข้าใจฤดูมรสุม 2 ช่วงหลัก:
มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ (มิถุนายน - กันยายน): พัดความชื้นจากทะเลเข้าสู่ฝั่ง เป็นช่วงที่มีความเสี่ยงสูงสุด
มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ (ตุลาคม - ธันวาคม): ลมพัดจากแผ่นดินลงสู่ทะเล (ทิศทางตรงข้าม)
บทสรุป
Sky Fall Flood เป็นภัยพิบัติที่สะท้อนผลกระทบของภาวะโลกร้อนอย่างชัดเจน เมื่อโลกอุ่นขึ้น บรรยากาศเก็บความชื้นได้มากขึ้น ภัยธรรมชาติจึงทวีความรุนแรงและคาดเดาได้ยากขึ้น การเฝ้าระวังในพื้นที่เสี่ยงภัยที่เป็นหุบเขาหรือแอ่งกระทะจึงมีความจำเป็นอย่างยิ่ง แม้เทคโนโลยีจะยังแจ้งเตือนได้ไม่สมบูรณ์ก็ตาม.   ผมอธิบายตามที่ผมคิดและหาข้อมูลมาบางส่วนผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยน่ะครับ    มีรูปภาพ ที่อธิบายปรากฏการ์ณที่เกิดขึ้นน่ะครับ คลิกตามลิงค์ได้เลย  
https://www.canva.com/design/DAG6dX-KhwI/f5aNO6ghkkHwbqa5qRXHlA/edit?utm_content=DAG6dX-KhwI&utm_campaign=designshare&utm_medium=link2&utm_source=sharebutton
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่