ผมเห็นป้ายห้ามมอเตอร์ไซค์วิ่งในช่องทางหลัก (บางทีเรียกว่า ช่องทางด่วน หรือ 3 ช่องจราจรที่ทำความเร็วได้สูงกว่าทางคู่ขนาน) แต่ก็พบเห็นผู้ขับขี่มอเตอร์ไซค์แสดงความไม่เห็นด้วยอย่างมาก
วันนี้ได้มีโอกาสใช้ถนนวิภาวดีรังสิตช่วง 2 ทุ่ม สิ่งที่พบคือมีมอเตอร์ไซค์วิ่งในช่องทางหลักเยอะมาก มากกว่าที่พบเห็นในช่วง 1-2 เดือนก่อนอย่างเห็นได้ชัด แถมขี่กันอันตรายเกือบทุกคัน แซงแทรกระหว่างเลนในความเร็ว 80 กม./ ชม. ขึ้นไป โดยวิ่งในช่องซ้ายบ้าง ขวาบ้าง ที่อันตรายที่สุดคือไฟหน้ารถบางคันไม่ติด ไฟท้ายก็ติดแบบจางๆ
เห็นใจผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ว่าอยากขี่ถนนดีๆ ความเร็วสูงๆบ้าง แต่ด้วยวินัยการขับขี่แบบนี้มันอันตรายมากๆ อีกเรื่องที่ผมคิดว่าเรายังก้าวข้ามไม่ได้คือ เมื่อไม่เห็นด้วยกับกฎหมายอะไร นอกจากโพสต์แสดงความไม่เห็นด้วยแล้ว ก็ไม่สนใจอะไรอีก ยังคงทำผิดกฎต่อไปเรื่อยๆ พอนานวันเข้า สิ่งที่ผิดก็กลายเป็นถูกไป สิ่งเหล่านี้เราเจอประจำทั้งรถ 2 ล้อและ 4 ล้อ ไม่ว่าจะการขับขี่ย้อนศร/ สวนเลน
โลกที่ผมอยากเห็น (แต่คงยากมากๆ) คือพูดคุยกันถึงจุดกึ่งกลาง เช่น ให้มอเตอร์ไซค์วิ่งในช่องทางหลักได้ แต่อนุญาตเฉพาะเลนซ้ายสุด ถ้าผลตอบรับดี อุบัติเหตุน้อย ก็ทำต่อไป แต่ถ้าอุบัติเหตุเยอะ มีคนฝ่าฝืนมาก ก็หยุดไป
มอเตอร์ไซค์ในช่องทางหลัก (ใต้โทลเวย์) ถ.วิภาวดีรังสิต
วันนี้ได้มีโอกาสใช้ถนนวิภาวดีรังสิตช่วง 2 ทุ่ม สิ่งที่พบคือมีมอเตอร์ไซค์วิ่งในช่องทางหลักเยอะมาก มากกว่าที่พบเห็นในช่วง 1-2 เดือนก่อนอย่างเห็นได้ชัด แถมขี่กันอันตรายเกือบทุกคัน แซงแทรกระหว่างเลนในความเร็ว 80 กม./ ชม. ขึ้นไป โดยวิ่งในช่องซ้ายบ้าง ขวาบ้าง ที่อันตรายที่สุดคือไฟหน้ารถบางคันไม่ติด ไฟท้ายก็ติดแบบจางๆ
เห็นใจผู้ใช้มอเตอร์ไซค์ว่าอยากขี่ถนนดีๆ ความเร็วสูงๆบ้าง แต่ด้วยวินัยการขับขี่แบบนี้มันอันตรายมากๆ อีกเรื่องที่ผมคิดว่าเรายังก้าวข้ามไม่ได้คือ เมื่อไม่เห็นด้วยกับกฎหมายอะไร นอกจากโพสต์แสดงความไม่เห็นด้วยแล้ว ก็ไม่สนใจอะไรอีก ยังคงทำผิดกฎต่อไปเรื่อยๆ พอนานวันเข้า สิ่งที่ผิดก็กลายเป็นถูกไป สิ่งเหล่านี้เราเจอประจำทั้งรถ 2 ล้อและ 4 ล้อ ไม่ว่าจะการขับขี่ย้อนศร/ สวนเลน
โลกที่ผมอยากเห็น (แต่คงยากมากๆ) คือพูดคุยกันถึงจุดกึ่งกลาง เช่น ให้มอเตอร์ไซค์วิ่งในช่องทางหลักได้ แต่อนุญาตเฉพาะเลนซ้ายสุด ถ้าผลตอบรับดี อุบัติเหตุน้อย ก็ทำต่อไป แต่ถ้าอุบัติเหตุเยอะ มีคนฝ่าฝืนมาก ก็หยุดไป