ได้เวลาถอดรื้อ ย้อนเกล็ดกัมพูชา ! ไทยใช้วิศวกรรมย้อนกลับGAM-102
เปลี่ยนอาวุธศัตรู เป็นองค์ความรู้เพื่อความมั่นคงของชาติ
การยึด อาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านรถถัง GAM-102LR จากกองกำลังกัมพูชา บนพื้นที่ยุทธศาสตร์ “เนิน 500 ช่องอานม้า” ไม่ใช่เพียงชัยชนะในสนามรบ
แต่เป็น “โอกาสเชิงยุทธศาสตร์” ที่ประเทศไทยเลือกจะไม่ปล่อยผ่าน
กระทรวงกลาโหม ได้สั่งการให้เดินหน้าอย่างเต็มรูปแบบ
มอบหมาย สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ (DTI) ประสานงานร่วมกับ กองทัพบก (RTA)
นำอาวุธ GAM-102 ที่ยึดได้ เข้าสู่กระบวนการ ศึกษา วิจัย และวิเคราะห์เชิงลึก
เป้าหมายไม่ใช่เพื่อนำมาใช้งาน
แต่เพื่อ “ถอดรหัส” ระบบอาวุธของฝ่ายตรงข้ามอย่างเป็นระบบ
ตั้งแต่
– โครงสร้างระบบนำวิถี
– เทคโนโลยีเซนเซอร์และการชี้เป้า
– อานุภาพการทำลาย
– จุดแข็ง จุดอ่อน และข้อจำกัดในการใช้งานจริง
– ไปจนถึงแนวทางการรับมือและต้านทานในสนามรบ
นี่คือหัวใจของ วิศวกรรมย้อนกลับ (Reverse Engineering)
ไม่ใช่การลอกเลียนแบบ
แต่คือการ “รู้ลึกกว่า เข้าใจกว่า และเตรียมรับมือได้ดีกว่า”
อาวุธที่ศัตรูมี หากเราไม่รู้จักมันให้ดีพอ
วันหนึ่งอาจกลายเป็นความสูญเสียของฝ่ายเรา
แต่หากเราศึกษามันอย่างรอบด้าน
มันจะกลายเป็น “ตำรารบ” ที่ช่วยลดความสูญเสียของทหารไทยในอนาคต
กระบวนการครั้งนี้ ยังเป็นการยกระดับ ขีดความสามารถสายสรรพาวุธของไทย
สร้างฐานข้อมูลเทคโนโลยีอาวุธสมัยใหม่
ต่อยอดสู่การพัฒนาแนวคิด ระบบ และอาวุธ “สัญชาติไทย” ในระยะยาว
ให้สอดคล้องกับสภาพภูมิประเทศ ภัยคุกคาม และบริบทการรบของไทยโดยเฉพาะ
ได้เวลาถอดรื้อ ย้อนเกล็ดกัมพูชา ไทยใช้วิศวกรรมย้อนกลับGAM-102 เปลี่ยนอาวุธศัตรู เป็นองค์ความรู้เพื่อความมั่นคงของชาติ