ดราม่า? ทำไมผมถึงรู้สึกว่า Genshin impact คือไม่ใช่เกม Open world
กระทู้ชวนดราม่าดีน้อ?
คือช่วงนี้ผมกำลังอินเกม จอมยุทธ์อยู่ เพราะ where wind meet พึ่งลงมือถือ แต่ไม่ได้เล่นหรอก เล่น ARPG ไม่ไหวละ เล่นแต่ JRPG กับ CRPG ตอนนี้ที่เล่นคือ Hero's adventure เป็น CRPG ท่องยุทธจักรเป็นจอมยุทธ์เกมนึง
ผมเคยสงสัยตัวเองมาตลอดว่า ทำไมเล่น Genshin impact แล้วไม่รู้สึกเหมือน Open world ตอนนี้คือกระจ่างแล้ว
ผมเคยเล่น Genshin impact อยู่ช่วงนึง จำได้ว่าเล่นจนเวลตัน กำลังติดเลยนะ แล้วเซิฟปิดอัพเดท เลยไปหา Breath of fire 3 รอ จนรู้สึกว่า ทำไมเล่นเกมส์แล้วต้องมาสุ่มตัวอีกว้า ทั้งที่เล่น Breath of fire หรือ JRPG เราเล่นได้ทุกตัว เวลาเห็นคนเล่นเกนชิน ทำ Meta build เทพจัด คือเพราะเขามีเงินสุ่มมากกว่า สุ่มตัวซ้ำไว้อัพเกรดได้ ตังเหลือสุ่มอาวุธได้อีก หลังจากนั้นเลย เลิกไป
แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไม ไม่รู้สึกว่าเกนชินมัน open world เลย ทั้งที่คนชมกันมาก ว่ามันโคตรจะโอเพ่นเลย
พอมาเล่น CRPG ถึงเข้าใจ
เกนชิน หรือเกม Live service game จำพวกกาชา มีระบบพลังงานหรือผมขอเรียกว่า ระบบ “เตะตัดขา” เพื่อไม่ให้ผู้เล่นเก่งเร็วเกินไป
ลองนึกภาพแบบนี้ครับ คุณอยู่ในวัยทำงาน ไม่มีเวลาเล่นเกมเหมือนเมื่อก่อน เล่นเกมได้แค่วันละ ครึ่งชั่วโมง ถ้าคุณเล่นเกนชิน คุณจะทำอะไรในการเล่นแต่ละวัน
หลักๆ 2 อย่างคือ ทำภารกิจประจำวัน และ ลงดันเจี้ยนล่าบอสที่กำจัดรายอาทิตย์
ทำไมต้องทำภารกิจและฆ่าบอสละ?
เพราะถ้าไม่ทำ คุณจะไม่เก่งขึ้น เพราะคุณต้องใช้วัตถุดิบในการอัพตัวละคร
ถ้าคุณไม่เติมเงินเลย แล้วสุ่มกาชาได้ตัวละครใหม่ คุณต้องใช้เวลาหลักอาทิตย์(ไม่เวอร์) เพื่อจะทำให้ตัวละครคุณตัน หรือ เก่งเท่ากับ ตัวละครที่ใช้หลัก
ทำไมเป็นแบบนี้?
เพราะระบบเตะตัดขา บังคับให้คุณรอพลังงาน แล้วใช้พลังงานในการเก็บวัตถุดิบเพื่ออัพเกรด รวมถึงมีดันเจี้ยนที่จำกัดจำนวนครั้งในการลง ทำให้คุณมีวัตถุดิบไม่พอในการอัพเกรดตัวละคร คุณมีทางเลือกสองอย่างคือ เติมเงิน หรือ รอเวลา ไม่มีทางอื่น
จะจ่ายด้วย “เงิน” หรือ “เวลา” ว่างั้นเถอะ
ทำไมไม่รู้สึกเหมือน Open world?
เพราะคุณจำเป็นต้องทำภารกิจ ต้องเก่งขึ้น เพื่อจะเข้าถึงพื้นที่อื่นและส่วนอื่นของเกม ถ้าเลเวลไม่ขึ้น ไม่อัพเกรด ก็ไปไหนไม่ได้ไกล
จริงอยู่ว่าเกมมี ตกปลา,จับแมลง,เปิดแผนที่,ฟาร์มหีบสมบัติ แต่นั้นเป็นระบบเสริม เราใช้เวลา ตกปลา,จับแมลง ทั้งวันก็ได้ แต่ตัวละครไม่เก่งขึ้นนะ
เกมเป็น Open world ที่บังคับแบบกลายๆให้เราต้องทำตามที่เกมกำหนด เราต้องทำภารกิจ ต้องลงดัน ไม่งั้นเราก็ไปได้ไม่ไกล ยิ่งมีอัพเดทใหม่ แต่เรามัวแต่ตกปลา เกมก็ยิ่งไปไกล เราตามไม่ทัน
แล้วมันแตกต่างจาก CRPG ยังไง?
ผมขอยกตัวอย่าง เกม CRPG ที่เคยเล่นหน่อย เช่น Skyrim,Star wars kotor,Star trader frontier,Atom rpg, Hero's adventure (กำลังเล่นอยู่เลย) ที่พูดมา หาเล่นได้ในมือถือน่า(เว้นSkyrim) ที่เคยเล่นนับแค่ CRPG นะ พวก Text-base rpg กับ Jrpg หรือ Visual novel ไม่นับ
CRPG จะบังคับให้เราเล่นเกมแค่ช่วงแรก ไม่กี่ชั่วโมง เพื่อให้เราเข้าใจระบบ หลังจากนั้น จะทำอะไรก็ทำ
อย่างตัวผมเอง เล่นเกมส์ในแบบที่ไม่สู้ใคร ในช่วงแรก เกมจะไม่บังคับให้เราเก็บเลเวล แต่ให้เราไปทำภารกิจเสริม ตรงโน้นที ตรงนี้ที วนๆไปก่อนได้ หรือ จะไปเนื้อเรื่องหลักเลยก็ได้
เกมจะทำให้เราเก่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องสู้กับใครเลย ไม่จำเป็นต้องหาของอัพเกรดอะไร อย่าง Hero's adventure เราจะเก่งขึ้นได้ จากการเดิน(บวกความว่องไว)หรือตัดไม้(บวกพละกำลัง)หรือจะเข้าสำนักแล้วนั่งสมาธิทั้งวันก็ได้
ผมเล่นเกมจอมยุทธ์นี่อยู่เมืองมากกว่าต่อสู้อีก เน้นเข้าบ่อน ฟาร์มเงิน เอาเงินไปซื้อของ แจกของเพิ่มความสัมพันธ์ แล้วให้ npc สอนวิชาให้เรา เล่นเกมจอมยุทธ์เหมือนเล่นซิมเลย
(รอบแรกยังเล่นไม่จบ รอบสองจะเล่นแบบสายโหด ฆ่าเกลื่อนเมือง รอบนี้เป็นคนดี จะเข้าบู้ตึ้ง อินดาบมังกรหยกอยู่)
Open world คือ อิสระที่จะทำอะไรก็ได้ หนึ่งในปัญหาที่หลายคนเจอคือ ตัวละครเก่งเกินไป เพราะมัวแต่ทำภารกิจเสริม เล่น Skyrim ล่ามังกรไป 8 ตัวละ เนื้อเรื่องหลักยังไม่ไปไหน พอเล่นเนื้อเรื่องหลัก ดาบเดียวขาดหมด ไม่ลุ้นเลย
CRPG เกมจะเปลี่ยนไปตามที่เราเล่น เช่น เป็นคนดี หรือ เลว มีค่าพลังเท่าไร เราฆ่า npc ตายเกลื่อนได้ และบางครั้ง เราจะทำภารกิจต่อไม่ได้ เพราะ npc ตายไปละ(จริง)
เกมจอมยุทธ์นี่ชัดๆเลย คือ ถ้าอยู่ฝ่ายดี จะเข้าพรรคมารไม่ได้ หรือ เล่นร้ายมาตลอด ฆ่าคน,ปล้นทั้งหมู่บ้าน จะเข้าวัดเส้าหลินไม่ได้ เว้นแต่จะไปทำภารกิจล้างบาปหรืออะไรทำนองนั้นก่อน
CRPG ทุกเกม(ที่เคยเล่น)เราจะไม่มีทางปลดล็อคทุกอย่างในการเล่นรอบเดียว ต้องมีซ้ำแน่ๆหลายรอบด้วย บอกเลยว่าใครชอบเล่น มีเกิน 100 ชั่วโมงแน่ๆ
เนื้อเรื่องจะเปลี่ยนไปตามสิ่งที่เราเลือก คือกุญแจหลักของ CRPG และเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่ามัน Open world
ทำไม Live service game ไม่ทำแบบนี้ละ?
เพราะระบบทำไม่ได้ครับ live service game มีตัวเลือกให้เราเลือกก็จริง แต่ผลลัพธ์จะเหมือนเดิม แค่คำพูดต่างไป เพราะเกมเนื้อเรื่องต้องเหมือนกัน ถ้าเราตันตรงไหน ไปต่อไม่เป็น เราเข้า YouTube ดูคนอื่นเล่นได้เลยว่าติดตรงไหน เพราะเนื้อเรื่องจะเหมือนกัน
เพราะ live service game จะจำกัดตัวเลือกมากไม่ได้ เล่นซ้ำไม่ได้ ถ้าจำกัดตัวเลือกมากเข้า เกิดเล่นแล้วไม่เก่ง ไม่ต้องสร้างไอดีใหม่กันเลยหรอ เขาเลยออกแบบมาให้ เลือกทางเดียวกัน เก่งไม่เก่ง ขึ้นกับฝีมือและตัวละครที่มี
เอาจริงนะ คุณเล่นเก่ง แต่ใช้ตัวละคร 4 ดาว ไม่อัพดาวเพิ่ม สู้คนฝีมือธรรมดา อัดตัวกาชา 5 ดาวทั้งตัวทั้งดาบไม่ได้หรอก ระบบมันไม่ได้สร้างมาแบบนั้น
ถ้ามีเวลาการเล่นน้อย เราจะรู้สึกเลยว่า live service game ที่บอกว่า open world มันไม่โอเพ่นแบบที่เราคิด เพราะเราต้องทำตามที่เกมบอก ไม่ทำก็ไม่เก่ง หลายเกมถึงมีระบบออโต้ให้ เกมไหนที่ไม่มีออโต้ คนก็พยายามหาวิธีฟาร์มของแบบ afk ไป
ความรู้สึกของตอนเล่นเกนชิน ผมรู้สึกเหมือน Open map มากกว่า Open world เพราะระบบบังคับกลายๆให้เราทำตามที่ระบบบอกคือ เล่นเนื้อเรื่องหลักและอัพเกรดตัวละคร ระบบตกปลา,ล่าหีบ แค่เสริมเฉยๆ เวลามีอัพเดท เกมอัพเนื้อเรื่องเพิ่ม บอสเพิ่ม กิจกรรมเสริม ระบบเสริมที่ทำให้รู้สึกว่าโอเพ่น แทบไม่มีใครสนใจ ก็แล้วทำไม่เก่งขึ้นอ่ะเนอะ
ถ้าเราเล่นทุกวัน วันละ 30 นาที เราจะได้ทำเควสประจำวัน ล่าบอสประจำอาทิตย์ ใช้เวลาน้อย ตัวละครเก่งขึ้น แต่ไม่มีเวลาเปิดแมพ เดินชมวิว ทำให้ความรู้สึกเหมือนไม่ได้เล่นเกม Open world เลย
กลับกัน
ถ้าเราไม่เล่นทุกวัน แต่เล่นวันนึงยาว วันหยุดจัดยาวซะหน่อย เล่นสัก 5-6 ชั่วโมง คุณจะรู้สึกถึงข้อจำกัดของ live service game คือ พลังงานหมด ลงดันไม่ได้ ได้ไปเปิดแมพละ แต่ตัวเราจะเก่งขึ้นไม่ได้อย่างที่ควร
*****
จบหมดแล้วครับ มาเขียนระบายความคิดตัวเองไว้สักหน่อย เพราะเคยสงสัยตัวเอง
ดราม่า? ทำไมผมถึงรู้สึกว่า Genshin impact คือไม่ใช่เกม Open world
กระทู้ชวนดราม่าดีน้อ?
คือช่วงนี้ผมกำลังอินเกม จอมยุทธ์อยู่ เพราะ where wind meet พึ่งลงมือถือ แต่ไม่ได้เล่นหรอก เล่น ARPG ไม่ไหวละ เล่นแต่ JRPG กับ CRPG ตอนนี้ที่เล่นคือ Hero's adventure เป็น CRPG ท่องยุทธจักรเป็นจอมยุทธ์เกมนึง
ผมเคยสงสัยตัวเองมาตลอดว่า ทำไมเล่น Genshin impact แล้วไม่รู้สึกเหมือน Open world ตอนนี้คือกระจ่างแล้ว
ผมเคยเล่น Genshin impact อยู่ช่วงนึง จำได้ว่าเล่นจนเวลตัน กำลังติดเลยนะ แล้วเซิฟปิดอัพเดท เลยไปหา Breath of fire 3 รอ จนรู้สึกว่า ทำไมเล่นเกมส์แล้วต้องมาสุ่มตัวอีกว้า ทั้งที่เล่น Breath of fire หรือ JRPG เราเล่นได้ทุกตัว เวลาเห็นคนเล่นเกนชิน ทำ Meta build เทพจัด คือเพราะเขามีเงินสุ่มมากกว่า สุ่มตัวซ้ำไว้อัพเกรดได้ ตังเหลือสุ่มอาวุธได้อีก หลังจากนั้นเลย เลิกไป
แต่ก็ไม่เข้าใจว่าทำไม ไม่รู้สึกว่าเกนชินมัน open world เลย ทั้งที่คนชมกันมาก ว่ามันโคตรจะโอเพ่นเลย
พอมาเล่น CRPG ถึงเข้าใจ
เกนชิน หรือเกม Live service game จำพวกกาชา มีระบบพลังงานหรือผมขอเรียกว่า ระบบ “เตะตัดขา” เพื่อไม่ให้ผู้เล่นเก่งเร็วเกินไป
ลองนึกภาพแบบนี้ครับ คุณอยู่ในวัยทำงาน ไม่มีเวลาเล่นเกมเหมือนเมื่อก่อน เล่นเกมได้แค่วันละ ครึ่งชั่วโมง ถ้าคุณเล่นเกนชิน คุณจะทำอะไรในการเล่นแต่ละวัน
หลักๆ 2 อย่างคือ ทำภารกิจประจำวัน และ ลงดันเจี้ยนล่าบอสที่กำจัดรายอาทิตย์
ทำไมต้องทำภารกิจและฆ่าบอสละ?
เพราะถ้าไม่ทำ คุณจะไม่เก่งขึ้น เพราะคุณต้องใช้วัตถุดิบในการอัพตัวละคร
ถ้าคุณไม่เติมเงินเลย แล้วสุ่มกาชาได้ตัวละครใหม่ คุณต้องใช้เวลาหลักอาทิตย์(ไม่เวอร์) เพื่อจะทำให้ตัวละครคุณตัน หรือ เก่งเท่ากับ ตัวละครที่ใช้หลัก
ทำไมเป็นแบบนี้?
เพราะระบบเตะตัดขา บังคับให้คุณรอพลังงาน แล้วใช้พลังงานในการเก็บวัตถุดิบเพื่ออัพเกรด รวมถึงมีดันเจี้ยนที่จำกัดจำนวนครั้งในการลง ทำให้คุณมีวัตถุดิบไม่พอในการอัพเกรดตัวละคร คุณมีทางเลือกสองอย่างคือ เติมเงิน หรือ รอเวลา ไม่มีทางอื่น
จะจ่ายด้วย “เงิน” หรือ “เวลา” ว่างั้นเถอะ
ทำไมไม่รู้สึกเหมือน Open world?
เพราะคุณจำเป็นต้องทำภารกิจ ต้องเก่งขึ้น เพื่อจะเข้าถึงพื้นที่อื่นและส่วนอื่นของเกม ถ้าเลเวลไม่ขึ้น ไม่อัพเกรด ก็ไปไหนไม่ได้ไกล
จริงอยู่ว่าเกมมี ตกปลา,จับแมลง,เปิดแผนที่,ฟาร์มหีบสมบัติ แต่นั้นเป็นระบบเสริม เราใช้เวลา ตกปลา,จับแมลง ทั้งวันก็ได้ แต่ตัวละครไม่เก่งขึ้นนะ
เกมเป็น Open world ที่บังคับแบบกลายๆให้เราต้องทำตามที่เกมกำหนด เราต้องทำภารกิจ ต้องลงดัน ไม่งั้นเราก็ไปได้ไม่ไกล ยิ่งมีอัพเดทใหม่ แต่เรามัวแต่ตกปลา เกมก็ยิ่งไปไกล เราตามไม่ทัน
แล้วมันแตกต่างจาก CRPG ยังไง?
ผมขอยกตัวอย่าง เกม CRPG ที่เคยเล่นหน่อย เช่น Skyrim,Star wars kotor,Star trader frontier,Atom rpg, Hero's adventure (กำลังเล่นอยู่เลย) ที่พูดมา หาเล่นได้ในมือถือน่า(เว้นSkyrim) ที่เคยเล่นนับแค่ CRPG นะ พวก Text-base rpg กับ Jrpg หรือ Visual novel ไม่นับ
CRPG จะบังคับให้เราเล่นเกมแค่ช่วงแรก ไม่กี่ชั่วโมง เพื่อให้เราเข้าใจระบบ หลังจากนั้น จะทำอะไรก็ทำ
อย่างตัวผมเอง เล่นเกมส์ในแบบที่ไม่สู้ใคร ในช่วงแรก เกมจะไม่บังคับให้เราเก็บเลเวล แต่ให้เราไปทำภารกิจเสริม ตรงโน้นที ตรงนี้ที วนๆไปก่อนได้ หรือ จะไปเนื้อเรื่องหลักเลยก็ได้
เกมจะทำให้เราเก่งขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องสู้กับใครเลย ไม่จำเป็นต้องหาของอัพเกรดอะไร อย่าง Hero's adventure เราจะเก่งขึ้นได้ จากการเดิน(บวกความว่องไว)หรือตัดไม้(บวกพละกำลัง)หรือจะเข้าสำนักแล้วนั่งสมาธิทั้งวันก็ได้
ผมเล่นเกมจอมยุทธ์นี่อยู่เมืองมากกว่าต่อสู้อีก เน้นเข้าบ่อน ฟาร์มเงิน เอาเงินไปซื้อของ แจกของเพิ่มความสัมพันธ์ แล้วให้ npc สอนวิชาให้เรา เล่นเกมจอมยุทธ์เหมือนเล่นซิมเลย
(รอบแรกยังเล่นไม่จบ รอบสองจะเล่นแบบสายโหด ฆ่าเกลื่อนเมือง รอบนี้เป็นคนดี จะเข้าบู้ตึ้ง อินดาบมังกรหยกอยู่)
Open world คือ อิสระที่จะทำอะไรก็ได้ หนึ่งในปัญหาที่หลายคนเจอคือ ตัวละครเก่งเกินไป เพราะมัวแต่ทำภารกิจเสริม เล่น Skyrim ล่ามังกรไป 8 ตัวละ เนื้อเรื่องหลักยังไม่ไปไหน พอเล่นเนื้อเรื่องหลัก ดาบเดียวขาดหมด ไม่ลุ้นเลย
CRPG เกมจะเปลี่ยนไปตามที่เราเล่น เช่น เป็นคนดี หรือ เลว มีค่าพลังเท่าไร เราฆ่า npc ตายเกลื่อนได้ และบางครั้ง เราจะทำภารกิจต่อไม่ได้ เพราะ npc ตายไปละ(จริง)
เกมจอมยุทธ์นี่ชัดๆเลย คือ ถ้าอยู่ฝ่ายดี จะเข้าพรรคมารไม่ได้ หรือ เล่นร้ายมาตลอด ฆ่าคน,ปล้นทั้งหมู่บ้าน จะเข้าวัดเส้าหลินไม่ได้ เว้นแต่จะไปทำภารกิจล้างบาปหรืออะไรทำนองนั้นก่อน
CRPG ทุกเกม(ที่เคยเล่น)เราจะไม่มีทางปลดล็อคทุกอย่างในการเล่นรอบเดียว ต้องมีซ้ำแน่ๆหลายรอบด้วย บอกเลยว่าใครชอบเล่น มีเกิน 100 ชั่วโมงแน่ๆ
เนื้อเรื่องจะเปลี่ยนไปตามสิ่งที่เราเลือก คือกุญแจหลักของ CRPG และเป็นสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่ามัน Open world
ทำไม Live service game ไม่ทำแบบนี้ละ?
เพราะระบบทำไม่ได้ครับ live service game มีตัวเลือกให้เราเลือกก็จริง แต่ผลลัพธ์จะเหมือนเดิม แค่คำพูดต่างไป เพราะเกมเนื้อเรื่องต้องเหมือนกัน ถ้าเราตันตรงไหน ไปต่อไม่เป็น เราเข้า YouTube ดูคนอื่นเล่นได้เลยว่าติดตรงไหน เพราะเนื้อเรื่องจะเหมือนกัน
เพราะ live service game จะจำกัดตัวเลือกมากไม่ได้ เล่นซ้ำไม่ได้ ถ้าจำกัดตัวเลือกมากเข้า เกิดเล่นแล้วไม่เก่ง ไม่ต้องสร้างไอดีใหม่กันเลยหรอ เขาเลยออกแบบมาให้ เลือกทางเดียวกัน เก่งไม่เก่ง ขึ้นกับฝีมือและตัวละครที่มี
เอาจริงนะ คุณเล่นเก่ง แต่ใช้ตัวละคร 4 ดาว ไม่อัพดาวเพิ่ม สู้คนฝีมือธรรมดา อัดตัวกาชา 5 ดาวทั้งตัวทั้งดาบไม่ได้หรอก ระบบมันไม่ได้สร้างมาแบบนั้น
ถ้ามีเวลาการเล่นน้อย เราจะรู้สึกเลยว่า live service game ที่บอกว่า open world มันไม่โอเพ่นแบบที่เราคิด เพราะเราต้องทำตามที่เกมบอก ไม่ทำก็ไม่เก่ง หลายเกมถึงมีระบบออโต้ให้ เกมไหนที่ไม่มีออโต้ คนก็พยายามหาวิธีฟาร์มของแบบ afk ไป
ความรู้สึกของตอนเล่นเกนชิน ผมรู้สึกเหมือน Open map มากกว่า Open world เพราะระบบบังคับกลายๆให้เราทำตามที่ระบบบอกคือ เล่นเนื้อเรื่องหลักและอัพเกรดตัวละคร ระบบตกปลา,ล่าหีบ แค่เสริมเฉยๆ เวลามีอัพเดท เกมอัพเนื้อเรื่องเพิ่ม บอสเพิ่ม กิจกรรมเสริม ระบบเสริมที่ทำให้รู้สึกว่าโอเพ่น แทบไม่มีใครสนใจ ก็แล้วทำไม่เก่งขึ้นอ่ะเนอะ
ถ้าเราเล่นทุกวัน วันละ 30 นาที เราจะได้ทำเควสประจำวัน ล่าบอสประจำอาทิตย์ ใช้เวลาน้อย ตัวละครเก่งขึ้น แต่ไม่มีเวลาเปิดแมพ เดินชมวิว ทำให้ความรู้สึกเหมือนไม่ได้เล่นเกม Open world เลย
กลับกัน
ถ้าเราไม่เล่นทุกวัน แต่เล่นวันนึงยาว วันหยุดจัดยาวซะหน่อย เล่นสัก 5-6 ชั่วโมง คุณจะรู้สึกถึงข้อจำกัดของ live service game คือ พลังงานหมด ลงดันไม่ได้ ได้ไปเปิดแมพละ แต่ตัวเราจะเก่งขึ้นไม่ได้อย่างที่ควร
*****
จบหมดแล้วครับ มาเขียนระบายความคิดตัวเองไว้สักหน่อย เพราะเคยสงสัยตัวเอง