ทำไมคนไทยจึงมองว่าการทำร้ายร่างกายกันในครอบครัวเป็นเรื่องปกติ และเลือกที่จะเพิกเฉยหากเกิดขึ้นกับครอบครัวอื่น (ข้างบ้าน)

ตามหัวข้อกระทู้เลยครับ

เมื่อวันที่ 16 ธ.ค. 2568 เวลา 22:25 ~ 22:30 น. แถวบ้านผมได้เกิดเหตุสามีทะเลาะเบาะแว้งและทุบตีทำร้ายร่างกายภรรยา (หรืออาจจะเป็นลูกสาว) บ้านผมกับเขาห่างกันระดับหนึ่ง แต่เสียงที่เขาทุบตีภรรยา(?) นั้นดังตุ้บตั้บเข้ามาในบ้านของผมได้ ซึ่งผมก็เริ่มเป็นห่วงแล้วเพราะการทำร้ายร่างกายกันมันไม่ใช่เรื่องที่ดีที่ควรเลย ถึงแม้จะไม่ใช่ครอบครัวหรือญาติสนิทมิตรสหายเรา แต่ในเมื่อทั้งสังคมและศาสนาสอนให้รักและเมตตาเพื่อนมนุษย์ ผมก็เลยเป็นห่วง

หลังจากนั้น ผมเลยไปบอกแม่ ถามว่า "แม่ ข้างบ้านจู่ๆก็ทุบเมียตุ้บตั้บเลย แจ้งความดีไหม" แต่คำตอบที่ได้กลับมาคือ "ไม่ใช่เรื่องของเรา เราไม่ต้องไปยุ่ง" ซึ่ง ความคิดแบบนี้ ผมประสบพบเจอมาตั้งแต่ยังเด็ก สามีตีภรรยา คนไทยกลับมองเป็นเรื่องปกติ ทั้งๆที่การทำร้ายร่างกายกันมันไม่ใช่เรื่องดีเลย ทำไมกัน "อย่าไปยิ้มเรื่องผัวเมีย/เรื่องบ้านชาวบ้าน" แต่คุณรู้ไหม การถูกกระทำซ้ำๆ มันส่งผลต่อสุขภาพจิตในระยะยาวนะ ถ้าเป็นเด็ก ก็จะเป็นปมเป็นแผลเป็นในใจ แล้วอาจส่งผลให้เกิดเหตุแบบนี้ในอนาคตได้เพราะถูกมองว่าเป็นเรื่องปกติ

ทั้งนี้ทั้งนั้น ผมไม่ได้มีเจตนาที่จะว่าร้ายใครทั้งนั้น ผมเพียงแค่ตั้งข้อสงสัยในเรื่องที่ว่า "ทำไมคนไทยถึง normalized การทำร้ายร่างกายกันในครอบครัว?" และแค่อยากทราบเหตุผลถึงแนวคิดนี้ และถ้าหากพบเจอเหตุการณ์แบบนี้ ควรจะปฏิบัติอย่างไร เพื่อทำให้เกิดความสงบสุขในชุมชน

ป.ล. ตัวผู้ก่อเหตุเคยมีประวัติการใช้สารเสพติดมาก่อน จึงทำให้ผมไม่กล้าที่จะเข้าไปห้ามปรามโดยซึ่งหน้า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่