สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวพันทิปทุกคน ดิฉันชื่อเล็กนะคะ ก่อนอื่นเลยขออนุญาตมาเปิดกระทู้รีวิว ที่รับรองว่าต้องทำให้เพื่อนๆ ที่กำลังลังเลใจเรื่องการแก้ไขศัลยกรรมต้องหยุดอ่านค่ะ เพราะเรื่องราวที่จะมาแชร์ในวันนี้ นับว่าเป็นประสบการณ์การ "กอบกู้" ที่ไม่ใช่แค่การกอบกู้ดวงตา แต่มันคือการทวงคืนอิสรภาพในการใช้ชีวิต ที่หายไปหลังจากเผชิญกับภาวะแทรกซ้อนที่เรียกว่า "ตาแบะ" มาเป็นเดือนค่ะ
เนื่องจากเคสของเราถูกหลายคลินิกปฏิเสธ จึงเข้าใจดีว่าการหาแพทย์ที่เข้าใจปัญหาและสามารถแก้ไขที่ต้นตอ นั้นยากและเต็มไปด้วยความหวังแค่ไหน เราจึงตั้งใจเรียบเรียงรีวิวนี้อย่างละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่ความทรมานทางร่างกายและจิตใจ ไปจนถึงแผนการรักษาที่แม่นยำของ คุณหมอวิ เพื่อให้กระทู้รีวิวนี้เป็นข้อมูลที่จริงใจและเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ที่กำลังเผชิญกับภาวะแทรกซ้อนที่ยากต่อการแก้ไขค่ะ ขอให้ติดตามและเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะ

ภาพด้านบนที่เพื่อนๆ เห็นอยู่นี้ คือภาพก่อนที่เราจะตัดสินใจเข้ารับการแก้ไขค่ะ ต้องบอกก่อนเลยว่าตอนนั้นเราเผชิญกับปัญหา "ตาแบะ" เพราะการตัดถุงใต้ตา ตอนนั้นที่ทำ พอทำเสร็จส่องกระจก ก็ผิดสังเกตว่าทำไมตาล่างม้นดูแบะลงมาเยอะ ตอนแรกคิดว่าเดี๋ยวคงดีขึ้น แต่ไม่เลย
หลังจากการผ่าตัดถุงใต้ตาครั้งล่าสุดเมื่อ 1 เดือนก่อน (ที่คลินิกอื่น) เราสังเกตเห็นความผิดปกติ และยอมรับว่าปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อชีวิตเราอย่างรุนแรงมาก
ด้านร่างกาย เรามีอาการเจ็บตา เคืองตา และแสบตาได้ง่าย แค่อาบน้ำล้างหน้า หรือโดนลมเบา ๆ ก็ทรมาน จะเห็นได้ว่าดวงตามีร่องรอยของการอักเสบและดึงรั้งอย่างชัดเจน
ด้านจิตใจ บอกเลยว่าเป็นผลกระทบที่หนักที่สุดคือความรู้สึกระแวง เรากังวลตลอดเวลาว่าผู้คนมองแล้วคิดว่าตาเราดูแปลก ๆ ไหม ทำให้เราพยายามหลีกเลี่ยงการสบตา ชีวิตเราถูกจำกัดจนต้องใส่แว่นตาเวลาออกไปข้างนอกประจำ
นี่คือจุดที่ทำให้เราตัดสินใจว่าต้องจบปัญหานี้ให้ได้ ไม่ว่าจะยากแค่ไหนก็ตามเพราะการแก้ไขไม่ใช่แค่เรื่องความสวย แต่คือการได้อิสรภาพในการใช้ชีวิตประจำวันกลับคืนมาค่ะ
การตามหาคุณหมอเพื่อแก้ไขปัญหานี้นั้นยากยิ่งกว่าการทำครั้งแรกค่ะ เพราะหลังจากเราเริ่มหาข้อมูลของคลินิกต่างๆ หลายที่ก็ต้องเจอกับการปฏิเสธจากคลินิกอื่นๆ ที่บอกว่า "ไม่รับแก้ ไม่รับทำ" ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนหมดหวังจริงๆ ค่ะ
แต่เราเชื่อว่าปัญหาที่ซับซ้อน (ตาแบะที่เกิดจากการดึงรั้ง) ต้องได้รับการแก้ไขจากแพทย์ที่เข้าใจ "ต้นตอ" อย่างแท้จริง จนกระทั่งเราได้มาปรึกษาที่ Dr. Vii Clinic (ซอยรัชดา 32) กับ คุณหมอวิ ที่ก่อนหน้านี้ ได้เห็นรีวิวคุณหมอแก้กระชับเอ็นตาให้หลาย ๆ เคสได้ เลยอยากลองปรึกษา เพื่อหวังจะแก้ปัญหาของเราให้จบไปสักที
คุณหมอวิ วิเคราะห์ว่า ปัญหาของเราเกิดจากการที่มีเอ็นตาหย่อน แล้วไปตัดถุงใต้ตา ทำให้เกิดการดึงรั้ง แล้วเอ็นตาหย่อนกว่าเดิม ปัญหานี้แก้ไขได้ด้วยการ "แก้กระชับเอ็นตาล่าง" โดยจะผ่าตัดเปิดแผลที่มุมตาเพื่อดึงและกระชับเอ็นตาด้านล่างให้กลับมาดังเดิม การวางแผนที่ละเอียดและมุ่งเน้นการแก้ไขโครงสร้างที่ทำให้เกิดการดึงรั้งนี้เอง ทำให้ เรามั่นใจทันทีว่าได้มาถูกที่แล้วค่ะ
ประสบการณ์จริงในวันผ่าตัดและความประทับใจในความละเอียดของแพทย์
พอถึงวันผ่าตัดเรายอมรับว่าตื่นเต้นมากค่ะ กังวลว่าทำไปก็จะไม่ช่วย แต่ทีมงานและคุณหมอวิได้ดูแลอย่างมืออาชีพและช่วยผ่อนคลายความกังวลตลอดกระบวนการ ซึ่งทำให้เรารู้สึกอุ่นใจมาก หลังการฉีดยาชาจะไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ จะมีเพียงความรู้สึกตึงๆ เป็นระยะ
สิ่งที่เราประทับใจมาก คือความละเอียดของคุณหมอ ตั้งแต่การคุยก่อนผ่าตัด ระหว่างทำก็คอยบอกว่า กำลังทำถึงขั้นตอนไหน และทำงานอย่างตั้งใจทุกขั้นตอน เพื่อรักษาอาการตาแบะของเรา โดยเฉพาะเพราะปัญหาของเราอยู่ที่การดึงรั้งของเอ็นตาล่าง ดังนั้นความละเอียดในการแก้ไขโครงสร้างนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ

อัปเดตหลังการแก้ไข 1 วัน สัญญาณแรกของการเริ่มต้นใหม่
หลังจากการผ่าตัดแก้ไขภาวะ ตาแบะ เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 08/07/25 และผ่านพ้นคืนแรกมา ดิฉันได้ถ่ายภาพอัปเดตสภาพดวงตาหลังทำ 1 วันทันที เพื่อนๆ จะเห็นได้ว่ายังมีอาการบวมและรอยแดงบริเวณเปลือกตาชัดเจน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการผ่าตัดเปิดแผลที่มุมตาเพื่อแก้กระชับเอ็นตาล่างที่มีความละเอียดสูงค่ะ แม้จะยังมีอาการบวมอยู่ แต่สิ่งที่สังเกตเห็นได้ทันทีคือโครงสร้างของเปลือกตาล่างเริ่มกลับเข้าที่ ไม่แบะเหมือนตอนตัดถุงใต้ตา ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานที่เน้นความละเอียดและแก้ปัญหาได้อย่างแม่นยำของ คุณหมอวิ ในการดึงและกระชับเอ็นตาให้กลับมาดึงดังเดิม เพราะโครงสร้างปัญหาหลักได้รับการแก้ไขตั้งแต่ต้น นี่คือสัญญาณแรกของการกอบกู้ความมั่นใจกลับคืนมาค่ะ

อัปเดตหลังการแก้ไข 3 วัน อาการบวมที่เริ่มลดลง และความหวังที่เริ่มชัดเจนขึ้น
หลังจากที่เข้ารับการผ่าตัดแก้ไขภาวะตาแบะ และผ่านช่วงวันแรกๆ มาแล้ว ในวันที่ 3 หลังการผ่าตัด สังเกตเห็นว่าอาการบวมเริ่มลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับภาพหลังทำ 1 วัน และรอยช้ำสีม่วงอมแดงก็เริ่มจางลงเป็นสีเหลืองบ้างแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัว เพื่อนๆ จะเห็นได้ว่าบริเวณเปลือกตาที่ถูกแก้กระชับเอ็นตาล่างยังคงมีร่องรอยการช้ำอยู่บ้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่ปกติมากๆ สำหรับการผ่าตัดที่ต้องแก้ไขโครงสร้างที่ซับซ้อน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือแม้จะอยู่ในช่วงพักฟื้น แต่ไม่ได้รู้สึกว่าต้องล้มเลิกความตั้งใจนี้ เพราะตั้งแต่หลังทำทันที ดิฉันเริ่มรู้สึกว่าโครงสร้างตาล่างได้รับการดึงกลับเข้าที่แล้ว อาการตาแห้งเริ่มลดน้อยลง ทำให้รู้สึกมีกำลังใจในการดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ดวงตากลับมาใช้งานได้เป็นปกติอย่างรวดเร็วที่สุดค่ะ

ภาพหลังการแก้ไข 5 วัน

ภาพหลังการแก้ไข 6 วัน
อัปเดตหลังการแก้ไข 5 และวันที่ 6 อาการบวมที่เริ่มลดลง และโครงสร้างตาล่างที่เปลี่ยนไป
หลังจากที่เข้ารับการผ่าตัดแก้ไขภาวะตาแบะและผ่านช่วงสามวันแรกมาแล้ว ในวันที่ 5 และวันที่ 6 หลังการผ่าตัด สังเกตเห็นว่าอาการบวมและรอยช้ำต่างๆ เริ่มลดลงและจางลงไปมากอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับภาพหลังทำ 3 วัน จะเห็นได้ว่าบริเวณรอบดวงตาเริ่มมีความนุ่มนวลขึ้น แทบไม่มีอาการตาแห้งแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัว
เพื่อนๆ จะเห็นว่าถึงแม้จะมีร่องรอยของการช้ำบ้างบริเวณใต้ตาและมุมตาที่ถูกแก้กระชับเอ็นตาล่าง แต่สิ่งที่สำคัญคือเริ่มสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างตาล่างที่ถูกดึงกลับเข้าที่แล้ว ทำให้รู้สึกว่าอาการเคืองตาที่เคยเป็นอุปสรรคเริ่มเบาลง เปลือกตาล่างที่เคยแบะจากการตัดถุงใต้ตา ได้แนบสนิทเข้าไปเหมือนเดิมแล้ว ดีใจมาก ๆ เลยค่ะ

อัปเดตหลังการแก้ไข 24 วัน เมื่อความหวังกลายเป็นความจริง และได้อิสรภาพคืน
หลังจากที่เราเข้ารับการผ่าตัดแก้ไขภาวะตาแบะ และดูแลตัวเองมาเกือบหนึ่งเดือน ในวันที่ 24 หลังการผ่าตัดถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากค่ะ
เพื่อนๆ จะเห็นได้ว่าอาการบวมและรอยช้ำต่างๆ แทบจะหายไปจนหมดแล้ว สิ่งที่น่าทึ่งคือ โครงสร้างเปลือกตาล่างได้รับการดึงและกระชับกลับเข้าที่อย่างสวยงามและเป็นธรรมชาติ ทำให้ดวงตากลับมาดูเป็นปกติ สิ่งที่สัมผัสได้ชัดเจนและเปลี่ยนชีวิตเรามากที่สุดคือ การที่ไม่จำเป็นต้องใส่แว่นตาเวลาไปไหนมาไหนอีกต่อไปแล้ว ตาไม่แห้ง น้ำตาไม่ไหล นี่คือความหมายของการได้อิสรภาพคืนมาอย่างแท้จริง ตอนนี้สามารถสบตาคนที่คุยด้วยได้อย่างมั่นใจ ดีใจมากที่ปัญหาได้รับการแก้ไขอย่างตรงจุด ทำให้ชีวิตกลับมาเป็นเหมือนเดิม รู้สึกว่าความมั่นใจกลับคืนมาเต็มเปี่ยมเลยค่ะ
[CR] [CR] เมื่อ "ตาแบะ" หลังตัดถุงใต้ตา ทำให้ชีวิตพัง (คลินิกอื่นปฏิเสธแก้) จนมาจบที่ คุณหมอวิ Dr. Vii Clinic
เนื่องจากเคสของเราถูกหลายคลินิกปฏิเสธ จึงเข้าใจดีว่าการหาแพทย์ที่เข้าใจปัญหาและสามารถแก้ไขที่ต้นตอ นั้นยากและเต็มไปด้วยความหวังแค่ไหน เราจึงตั้งใจเรียบเรียงรีวิวนี้อย่างละเอียดตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่ความทรมานทางร่างกายและจิตใจ ไปจนถึงแผนการรักษาที่แม่นยำของ คุณหมอวิ เพื่อให้กระทู้รีวิวนี้เป็นข้อมูลที่จริงใจและเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆ ที่กำลังเผชิญกับภาวะแทรกซ้อนที่ยากต่อการแก้ไขค่ะ ขอให้ติดตามและเป็นกำลังใจให้เราด้วยนะคะ
ภาพด้านบนที่เพื่อนๆ เห็นอยู่นี้ คือภาพก่อนที่เราจะตัดสินใจเข้ารับการแก้ไขค่ะ ต้องบอกก่อนเลยว่าตอนนั้นเราเผชิญกับปัญหา "ตาแบะ" เพราะการตัดถุงใต้ตา ตอนนั้นที่ทำ พอทำเสร็จส่องกระจก ก็ผิดสังเกตว่าทำไมตาล่างม้นดูแบะลงมาเยอะ ตอนแรกคิดว่าเดี๋ยวคงดีขึ้น แต่ไม่เลย
หลังจากการผ่าตัดถุงใต้ตาครั้งล่าสุดเมื่อ 1 เดือนก่อน (ที่คลินิกอื่น) เราสังเกตเห็นความผิดปกติ และยอมรับว่าปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อชีวิตเราอย่างรุนแรงมาก
ด้านร่างกาย เรามีอาการเจ็บตา เคืองตา และแสบตาได้ง่าย แค่อาบน้ำล้างหน้า หรือโดนลมเบา ๆ ก็ทรมาน จะเห็นได้ว่าดวงตามีร่องรอยของการอักเสบและดึงรั้งอย่างชัดเจน
ด้านจิตใจ บอกเลยว่าเป็นผลกระทบที่หนักที่สุดคือความรู้สึกระแวง เรากังวลตลอดเวลาว่าผู้คนมองแล้วคิดว่าตาเราดูแปลก ๆ ไหม ทำให้เราพยายามหลีกเลี่ยงการสบตา ชีวิตเราถูกจำกัดจนต้องใส่แว่นตาเวลาออกไปข้างนอกประจำ
นี่คือจุดที่ทำให้เราตัดสินใจว่าต้องจบปัญหานี้ให้ได้ ไม่ว่าจะยากแค่ไหนก็ตามเพราะการแก้ไขไม่ใช่แค่เรื่องความสวย แต่คือการได้อิสรภาพในการใช้ชีวิตประจำวันกลับคืนมาค่ะ
การตามหาคุณหมอเพื่อแก้ไขปัญหานี้นั้นยากยิ่งกว่าการทำครั้งแรกค่ะ เพราะหลังจากเราเริ่มหาข้อมูลของคลินิกต่างๆ หลายที่ก็ต้องเจอกับการปฏิเสธจากคลินิกอื่นๆ ที่บอกว่า "ไม่รับแก้ ไม่รับทำ" ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนหมดหวังจริงๆ ค่ะ
แต่เราเชื่อว่าปัญหาที่ซับซ้อน (ตาแบะที่เกิดจากการดึงรั้ง) ต้องได้รับการแก้ไขจากแพทย์ที่เข้าใจ "ต้นตอ" อย่างแท้จริง จนกระทั่งเราได้มาปรึกษาที่ Dr. Vii Clinic (ซอยรัชดา 32) กับ คุณหมอวิ ที่ก่อนหน้านี้ ได้เห็นรีวิวคุณหมอแก้กระชับเอ็นตาให้หลาย ๆ เคสได้ เลยอยากลองปรึกษา เพื่อหวังจะแก้ปัญหาของเราให้จบไปสักที
คุณหมอวิ วิเคราะห์ว่า ปัญหาของเราเกิดจากการที่มีเอ็นตาหย่อน แล้วไปตัดถุงใต้ตา ทำให้เกิดการดึงรั้ง แล้วเอ็นตาหย่อนกว่าเดิม ปัญหานี้แก้ไขได้ด้วยการ "แก้กระชับเอ็นตาล่าง" โดยจะผ่าตัดเปิดแผลที่มุมตาเพื่อดึงและกระชับเอ็นตาด้านล่างให้กลับมาดังเดิม การวางแผนที่ละเอียดและมุ่งเน้นการแก้ไขโครงสร้างที่ทำให้เกิดการดึงรั้งนี้เอง ทำให้ เรามั่นใจทันทีว่าได้มาถูกที่แล้วค่ะ
ประสบการณ์จริงในวันผ่าตัดและความประทับใจในความละเอียดของแพทย์
พอถึงวันผ่าตัดเรายอมรับว่าตื่นเต้นมากค่ะ กังวลว่าทำไปก็จะไม่ช่วย แต่ทีมงานและคุณหมอวิได้ดูแลอย่างมืออาชีพและช่วยผ่อนคลายความกังวลตลอดกระบวนการ ซึ่งทำให้เรารู้สึกอุ่นใจมาก หลังการฉีดยาชาจะไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ จะมีเพียงความรู้สึกตึงๆ เป็นระยะ
สิ่งที่เราประทับใจมาก คือความละเอียดของคุณหมอ ตั้งแต่การคุยก่อนผ่าตัด ระหว่างทำก็คอยบอกว่า กำลังทำถึงขั้นตอนไหน และทำงานอย่างตั้งใจทุกขั้นตอน เพื่อรักษาอาการตาแบะของเรา โดยเฉพาะเพราะปัญหาของเราอยู่ที่การดึงรั้งของเอ็นตาล่าง ดังนั้นความละเอียดในการแก้ไขโครงสร้างนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดค่ะ
อัปเดตหลังการแก้ไข 1 วัน สัญญาณแรกของการเริ่มต้นใหม่
หลังจากการผ่าตัดแก้ไขภาวะ ตาแบะ เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 08/07/25 และผ่านพ้นคืนแรกมา ดิฉันได้ถ่ายภาพอัปเดตสภาพดวงตาหลังทำ 1 วันทันที เพื่อนๆ จะเห็นได้ว่ายังมีอาการบวมและรอยแดงบริเวณเปลือกตาชัดเจน ซึ่งเป็นเรื่องปกติของการผ่าตัดเปิดแผลที่มุมตาเพื่อแก้กระชับเอ็นตาล่างที่มีความละเอียดสูงค่ะ แม้จะยังมีอาการบวมอยู่ แต่สิ่งที่สังเกตเห็นได้ทันทีคือโครงสร้างของเปลือกตาล่างเริ่มกลับเข้าที่ ไม่แบะเหมือนตอนตัดถุงใต้ตา ซึ่งเป็นผลมาจากการทำงานที่เน้นความละเอียดและแก้ปัญหาได้อย่างแม่นยำของ คุณหมอวิ ในการดึงและกระชับเอ็นตาให้กลับมาดึงดังเดิม เพราะโครงสร้างปัญหาหลักได้รับการแก้ไขตั้งแต่ต้น นี่คือสัญญาณแรกของการกอบกู้ความมั่นใจกลับคืนมาค่ะ
อัปเดตหลังการแก้ไข 3 วัน อาการบวมที่เริ่มลดลง และความหวังที่เริ่มชัดเจนขึ้น
หลังจากที่เข้ารับการผ่าตัดแก้ไขภาวะตาแบะ และผ่านช่วงวันแรกๆ มาแล้ว ในวันที่ 3 หลังการผ่าตัด สังเกตเห็นว่าอาการบวมเริ่มลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับภาพหลังทำ 1 วัน และรอยช้ำสีม่วงอมแดงก็เริ่มจางลงเป็นสีเหลืองบ้างแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัว เพื่อนๆ จะเห็นได้ว่าบริเวณเปลือกตาที่ถูกแก้กระชับเอ็นตาล่างยังคงมีร่องรอยการช้ำอยู่บ้าง ซึ่งเป็นเรื่องที่ปกติมากๆ สำหรับการผ่าตัดที่ต้องแก้ไขโครงสร้างที่ซับซ้อน สิ่งที่สำคัญที่สุดคือแม้จะอยู่ในช่วงพักฟื้น แต่ไม่ได้รู้สึกว่าต้องล้มเลิกความตั้งใจนี้ เพราะตั้งแต่หลังทำทันที ดิฉันเริ่มรู้สึกว่าโครงสร้างตาล่างได้รับการดึงกลับเข้าที่แล้ว อาการตาแห้งเริ่มลดน้อยลง ทำให้รู้สึกมีกำลังใจในการดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด เพื่อให้ดวงตากลับมาใช้งานได้เป็นปกติอย่างรวดเร็วที่สุดค่ะ
ภาพหลังการแก้ไข 5 วัน
ภาพหลังการแก้ไข 6 วัน
อัปเดตหลังการแก้ไข 5 และวันที่ 6 อาการบวมที่เริ่มลดลง และโครงสร้างตาล่างที่เปลี่ยนไป
หลังจากที่เข้ารับการผ่าตัดแก้ไขภาวะตาแบะและผ่านช่วงสามวันแรกมาแล้ว ในวันที่ 5 และวันที่ 6 หลังการผ่าตัด สังเกตเห็นว่าอาการบวมและรอยช้ำต่างๆ เริ่มลดลงและจางลงไปมากอย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบกับภาพหลังทำ 3 วัน จะเห็นได้ว่าบริเวณรอบดวงตาเริ่มมีความนุ่มนวลขึ้น แทบไม่มีอาการตาแห้งแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีของการฟื้นตัว
เพื่อนๆ จะเห็นว่าถึงแม้จะมีร่องรอยของการช้ำบ้างบริเวณใต้ตาและมุมตาที่ถูกแก้กระชับเอ็นตาล่าง แต่สิ่งที่สำคัญคือเริ่มสัมผัสได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างตาล่างที่ถูกดึงกลับเข้าที่แล้ว ทำให้รู้สึกว่าอาการเคืองตาที่เคยเป็นอุปสรรคเริ่มเบาลง เปลือกตาล่างที่เคยแบะจากการตัดถุงใต้ตา ได้แนบสนิทเข้าไปเหมือนเดิมแล้ว ดีใจมาก ๆ เลยค่ะ
อัปเดตหลังการแก้ไข 24 วัน เมื่อความหวังกลายเป็นความจริง และได้อิสรภาพคืน
หลังจากที่เราเข้ารับการผ่าตัดแก้ไขภาวะตาแบะ และดูแลตัวเองมาเกือบหนึ่งเดือน ในวันที่ 24 หลังการผ่าตัดถือเป็นช่วงเวลาที่สำคัญมากค่ะ
เพื่อนๆ จะเห็นได้ว่าอาการบวมและรอยช้ำต่างๆ แทบจะหายไปจนหมดแล้ว สิ่งที่น่าทึ่งคือ โครงสร้างเปลือกตาล่างได้รับการดึงและกระชับกลับเข้าที่อย่างสวยงามและเป็นธรรมชาติ ทำให้ดวงตากลับมาดูเป็นปกติ สิ่งที่สัมผัสได้ชัดเจนและเปลี่ยนชีวิตเรามากที่สุดคือ การที่ไม่จำเป็นต้องใส่แว่นตาเวลาไปไหนมาไหนอีกต่อไปแล้ว ตาไม่แห้ง น้ำตาไม่ไหล นี่คือความหมายของการได้อิสรภาพคืนมาอย่างแท้จริง ตอนนี้สามารถสบตาคนที่คุยด้วยได้อย่างมั่นใจ ดีใจมากที่ปัญหาได้รับการแก้ไขอย่างตรงจุด ทำให้ชีวิตกลับมาเป็นเหมือนเดิม รู้สึกว่าความมั่นใจกลับคืนมาเต็มเปี่ยมเลยค่ะ
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น