https://www.sanook.com/news/9862854/
ย้อนรอยฝรั่งเศสยุคก่อน กับเรื่องราวสุดยี้ที่คาดไม่ถึง "ไร้ห้องน้ำ" เผยวิธีการขับถ่ายของเหล่าไฮโซ ยิ่งเหม็นยิ่งมีเกียรติ!
เมื่อพูดถึงฝรั่งเศส หลายคนมักนึกถึงประเทศแห่งแฟชั่น ความหรูหรา และศิลปะชั้นสูง แต่หากย้อนกลับไปในอดีต โดยเฉพาะช่วงยุคกลางจนถึงยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา วิถีชีวิตประจำวันของชาวฝรั่งเศสกลับสวนทางกับภาพจำอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะเรื่องพื้นฐานอย่าง “ห้องน้ำ” ที่แทบไม่มีอยู่ในบ้านเรือน
ประเด็นนี้กลายเป็นเรื่องที่นักประวัติศาสตร์หยิบยกมาพูดถึงอยู่เสมอ เพราะแม้แต่ชนชั้นสูงที่อาศัยอยู่ในพระราชวังโอ่อ่า ก็ยังต้องเผชิญกับสภาพสุขาภิบาลที่น่าตกใจ และเป็นต้นตอของปัญหาสุขภาพในยุคนั้น
ยุคกลางถึงแวร์ซายส์ เมื่อ “กระโถน” คือคำตอบ
ในยุคกลางต่อเนื่องถึงยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา บ้านเรือนส่วนใหญ่ในฝรั่งเศส รวมถึงพระราชวังในระยะแรกอย่างพระราชวังแวร์ซายส์ ยังไม่มีห้องน้ำถาวรติดตั้งไว้ใช้งาน สิ่งที่ผู้คนใช้แทนคือ กระโถน หรือเก้าอี้เจาะรู ที่มีช่องรองรับของเสีย ซึ่งถือเป็นของใช้จำเป็นประจำบ้านของชนชั้นสูง ซึ่งการจะขับถ่ายนอกพื้นที่นั้นเหล่าเชื้อพระวงศ์ หรือผู้สูงศักดิ์ โดยเฉพาะเหล่าสตรี จะมีคนรับใช้คอยแอบกระโถนนี้ไว้ และเมื่อถึงเวลาต้องการใช้ก็จะรีบส่งมันให้เจ้านายของตนอย่างแนบเนียน ภายใต้กระโปรงสุ่มไก่ จึงกลายเป็นเสมือนห้องน้ำส่วนตัวเคลื่อนที่ไปโดยปริยาย
หลังจากใช้งานแล้ว ของเสียมักถูกนำไปเททิ้งในจุดที่กำหนด หรือในหลายกรณีถูกสาดออกไปนอกหน้าต่างลงสู่ถนนด้านล่าง จนกลายเป็นสาเหตุให้ผู้คนที่สัญจรต้องคอยระวัง และเกิดธรรมเนียมการตะโกนเตือนหรือสาดน้ำไล่ก่อนเทของเสียในสมัยนั้น
แต่ที่น่าตกใจสุดๆยิ่งไปกว่านั้นคือ การขับถ่ายตามโถงทางเดิน และมุมต่างๆของพระราชวังที่พบได้ทั่วไป ทำให้ภายใต้สถาปัตยกรรมอันโอ่อ่ายิ่งใหญ่ กลับส่งกลิ่นโชยคละคลุ้ง ขัดภาพลักษณ์แสนหรูหรา จนหลายครั้งคณะทูตจากต่างชาติ ยังต้องบันทึกวัฒนธรรมสุดช็อกเหล่านี้ไว้
ประชาชนทั่วไปยิ่งลำบาก โรคระบาดตามมา
สำหรับประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ในเมืองหรือชนบท สภาพความเป็นอยู่ยิ่งเลวร้ายกว่าเดิม การขับถ่ายมักเกิดขึ้นในพื้นที่โล่งแจ้ง ทุ่งนา หรือริมแม่น้ำลำคลอง ซึ่งเอื้อต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรคอย่างรวดเร็ว
ระบบสุขาภิบาลที่ขาดการจัดการนี้ ส่งผลให้เกิดการระบาดของโรคร้ายแรงหลายครั้งในประวัติศาสตร์ เช่น อหิวาตกโรคและกาฬโรค ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปเป็นจำนวนมาก และกลายเป็นบทเรียนสำคัญด้านสาธารณสุขของยุโรป
จุดเปลี่ยนสำคัญในศตวรรษที่ 19
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เริ่มเกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 เมื่อองค์ความรู้ด้านสาธารณสุขพัฒนาอย่างจริงจัง ฝรั่งเศสเริ่มมีการวางระบบประปา ระบบระบายน้ำ และติดตั้งสุขภัณฑ์ภายในอาคารบ้านเรือนมากขึ้น ส่งผลให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เรื่องราวในอดีตนี้สะท้อนให้เห็นว่า ห้องน้ำซึ่งเป็นสิ่งสามัญในชีวิตประจำวันปัจจุบัน คือหนึ่งในนวัตกรรมที่สำคัญอย่างยิ่ง ที่ช่วยให้มนุษย์หลุดพ้นจากความสกปรก โรคภัย และยกระดับคุณภาพชีวิตได้อย่างที่คนในยุคโบราณคาดไม่ถึง
รู้หรือไม่? "แวร์ซาย" แสนโอ่อ่า "ไร้ห้องน้ำ" เปิดหลักฐานสุดเหม็นโฉ่ วิธีขับถ่ายของไฮโซ
https://www.sanook.com/news/9862854/
ย้อนรอยฝรั่งเศสยุคก่อน กับเรื่องราวสุดยี้ที่คาดไม่ถึง "ไร้ห้องน้ำ" เผยวิธีการขับถ่ายของเหล่าไฮโซ ยิ่งเหม็นยิ่งมีเกียรติ!
เมื่อพูดถึงฝรั่งเศส หลายคนมักนึกถึงประเทศแห่งแฟชั่น ความหรูหรา และศิลปะชั้นสูง แต่หากย้อนกลับไปในอดีต โดยเฉพาะช่วงยุคกลางจนถึงยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา วิถีชีวิตประจำวันของชาวฝรั่งเศสกลับสวนทางกับภาพจำอย่างสิ้นเชิง โดยเฉพาะเรื่องพื้นฐานอย่าง “ห้องน้ำ” ที่แทบไม่มีอยู่ในบ้านเรือน
ประเด็นนี้กลายเป็นเรื่องที่นักประวัติศาสตร์หยิบยกมาพูดถึงอยู่เสมอ เพราะแม้แต่ชนชั้นสูงที่อาศัยอยู่ในพระราชวังโอ่อ่า ก็ยังต้องเผชิญกับสภาพสุขาภิบาลที่น่าตกใจ และเป็นต้นตอของปัญหาสุขภาพในยุคนั้น
ยุคกลางถึงแวร์ซายส์ เมื่อ “กระโถน” คือคำตอบ
ในยุคกลางต่อเนื่องถึงยุคฟื้นฟูศิลปวิทยา บ้านเรือนส่วนใหญ่ในฝรั่งเศส รวมถึงพระราชวังในระยะแรกอย่างพระราชวังแวร์ซายส์ ยังไม่มีห้องน้ำถาวรติดตั้งไว้ใช้งาน สิ่งที่ผู้คนใช้แทนคือ กระโถน หรือเก้าอี้เจาะรู ที่มีช่องรองรับของเสีย ซึ่งถือเป็นของใช้จำเป็นประจำบ้านของชนชั้นสูง ซึ่งการจะขับถ่ายนอกพื้นที่นั้นเหล่าเชื้อพระวงศ์ หรือผู้สูงศักดิ์ โดยเฉพาะเหล่าสตรี จะมีคนรับใช้คอยแอบกระโถนนี้ไว้ และเมื่อถึงเวลาต้องการใช้ก็จะรีบส่งมันให้เจ้านายของตนอย่างแนบเนียน ภายใต้กระโปรงสุ่มไก่ จึงกลายเป็นเสมือนห้องน้ำส่วนตัวเคลื่อนที่ไปโดยปริยาย
หลังจากใช้งานแล้ว ของเสียมักถูกนำไปเททิ้งในจุดที่กำหนด หรือในหลายกรณีถูกสาดออกไปนอกหน้าต่างลงสู่ถนนด้านล่าง จนกลายเป็นสาเหตุให้ผู้คนที่สัญจรต้องคอยระวัง และเกิดธรรมเนียมการตะโกนเตือนหรือสาดน้ำไล่ก่อนเทของเสียในสมัยนั้น
แต่ที่น่าตกใจสุดๆยิ่งไปกว่านั้นคือ การขับถ่ายตามโถงทางเดิน และมุมต่างๆของพระราชวังที่พบได้ทั่วไป ทำให้ภายใต้สถาปัตยกรรมอันโอ่อ่ายิ่งใหญ่ กลับส่งกลิ่นโชยคละคลุ้ง ขัดภาพลักษณ์แสนหรูหรา จนหลายครั้งคณะทูตจากต่างชาติ ยังต้องบันทึกวัฒนธรรมสุดช็อกเหล่านี้ไว้
ประชาชนทั่วไปยิ่งลำบาก โรคระบาดตามมา
สำหรับประชาชนทั่วไปที่อาศัยอยู่ในเมืองหรือชนบท สภาพความเป็นอยู่ยิ่งเลวร้ายกว่าเดิม การขับถ่ายมักเกิดขึ้นในพื้นที่โล่งแจ้ง ทุ่งนา หรือริมแม่น้ำลำคลอง ซึ่งเอื้อต่อการแพร่กระจายของเชื้อโรคอย่างรวดเร็ว
ระบบสุขาภิบาลที่ขาดการจัดการนี้ ส่งผลให้เกิดการระบาดของโรคร้ายแรงหลายครั้งในประวัติศาสตร์ เช่น อหิวาตกโรคและกาฬโรค ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปเป็นจำนวนมาก และกลายเป็นบทเรียนสำคัญด้านสาธารณสุขของยุโรป
จุดเปลี่ยนสำคัญในศตวรรษที่ 19
การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เริ่มเกิดขึ้นในช่วงศตวรรษที่ 19 เมื่อองค์ความรู้ด้านสาธารณสุขพัฒนาอย่างจริงจัง ฝรั่งเศสเริ่มมีการวางระบบประปา ระบบระบายน้ำ และติดตั้งสุขภัณฑ์ภายในอาคารบ้านเรือนมากขึ้น ส่งผลให้คุณภาพชีวิตของประชาชนดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
เรื่องราวในอดีตนี้สะท้อนให้เห็นว่า ห้องน้ำซึ่งเป็นสิ่งสามัญในชีวิตประจำวันปัจจุบัน คือหนึ่งในนวัตกรรมที่สำคัญอย่างยิ่ง ที่ช่วยให้มนุษย์หลุดพ้นจากความสกปรก โรคภัย และยกระดับคุณภาพชีวิตได้อย่างที่คนในยุคโบราณคาดไม่ถึง