TITLE: Triple Frontier (2019) - หนังปล้นโคตรเดือด ที่ทำให้คิดถึงวันวานของหนังแอ็คชั่นยุคเก่า!
สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาว Pantip ที่ชื่นชอบหนังแนวแอ็คชั่น ระทึกขวัญ ผมเพิ่งมีโอกาสได้ดู "Triple Frontier" (2019) มาครับ บอกเลยว่าโดนใจมากครับ ใครที่คิดถึงหนังปล้น ที่ไม่ได้มีแค่การวางแผนซับซ้อน แต่เน้นความดิบ เถื่อน การเอาตัวรอด และมิตรภาพของพวกพ้อง ต้องดูเรื่องนี้เลยครับ
หนังเรื่องนี้รวมดาวแอ็คชั่นตัวพ่อไว้เพียบครับ ทั้ง Ben Affleck, Oscar Isaac, Garrett Hedlund, Charlie Hunnam และ Adria Arjona เคมีของพวกเขาเข้ากันได้ดีมากครับ เห็นแล้วเชื่อเลยว่าเป็นเพื่อนเก่าที่เคยผ่านอะไรมาด้วยกันจริงๆ การแสดงของแต่ละคนก็เอาอยู่ครับ โดยเฉพาะ Oscar Isaac ที่รับบทเป็นหัวโจกในการวางแผนปล้นครั้งนี้ แสดงได้มีเสน่ห์และน่าติดตามมากครับ
เรื่องราวก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากครับ เป็นกลุ่มอดีตทหารหน่วยรบพิเศษที่ตอนนี้ชีวิตไม่ได้สวยหรูเท่าไหร่ ต่างคนต่างมีปัญหาทางการเงิน เลยต้องกลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อภารกิจที่เสี่ยงตาย แต่ผลตอบแทนมหาศาล นั่นก็คือการปล้นยาเสพติดของเจ้าพ่อยาเสพติดรายใหญ่ในแถบ "Triple Frontier" ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างสามประเทศ บราซิล อาร์เจนตินา และปารากวัย ที่เป็นแหล่งซ่องสุมของพวกนอกกฎหมายนั่นเองครับ
จุดเด่นของหนังเรื่องนี้ที่ผมประทับใจมากๆ คือฉากแอ็คชั่นครับ มันดิบ มันจริง มันโหดมากครับ ไม่ได้มีการยิงปืนแบบเวอร์วังอลังการ แต่เน้นการต่อสู้ระยะประชิด การเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขัน การยิงต่อสู้ที่ดูสมจริงมากๆ ฉากไล่ล่ากลางป่ากลางเขา หรือฉากต่อสู้บนเรือ คือดูแล้วลุ้นตามจนแทบหยุดหายใจครับ ผู้กำกับ J.C. Chandor ทำฉากแอ็คชั่นออกมาได้ยอดเยี่ยมจริงๆ ครับ มันไม่ได้มีแค่ความมันส์ แต่ยังมีความสมจริงที่ทำให้เราอินไปกับตัวละคร
นอกจากฉากแอ็คชั่นที่ดุเดือดแล้ว หนังเรื่องนี้ยังสอดแทรกประเด็นเกี่ยวกับ "ความโลภ" และ "ผลกระทบ" ของมันได้อย่างน่าสนใจครับ การที่พวกเขาตัดสินใจที่จะทำภารกิจนี้ มันเกิดจากความจำเป็น หรือเพราะความอยากรวยกันแน่? เมื่อเงินทองเข้ามาเกี่ยวข้อง มิตรภาพที่เคยมีก็เริ่มสั่นคลอน การตัดสินใจผิดพลาดเพียงครั้งเดียว อาจนำไปสู่หายนะที่คาดไม่ถึงเลยครับ หนังไม่ได้ตัดสินว่าใครถูกใครผิด แต่ชวนให้เราคิดตาม
ผมชอบที่หนังเรื่องนี้ไม่ได้พยายามทำให้ตัวละครเป็นฮีโร่ที่สมบูรณ์แบบครับ พวกเขาเป็นมนุษย์ธรรมดาที่มีข้อผิดพลาด มีความอ่อนแอ มีความโลภ แต่ก็มีความกล้าหาญและความภักดีต่อพวกพ้อง การเดินทางของพวกเขาเต็มไปด้วยอุปสรรค ทั้งจากสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย พวกอาชญากรที่ดุร้าย และที่สำคัญที่สุด คือการต่อสู้กับจิตใจของตัวเอง
บรรยากาศของหนังก็ทำออกมาได้ดีมากครับ การถ่ายทำในพื้นที่จริงของอเมริกาใต้ ทำให้เราเห็นภาพความสวยงาม แต่ก็แฝงไปด้วยอันตรายของป่าเขา แม่น้ำ และหมู่บ้านเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความยากจนและอาชญากรรม แสง สี เสียง คือองค์ประกอบที่ทำให้หนังเรื่องนี้ดูมีมิติและสมจริงมากขึ้นครับ
สำหรับคนที่ชอบหนังแนวปล้น ที่เน้นความสมจริง ความดิบ ความระทึกขวัญ และไม่ได้มีฉากแอ็คชั่นที่ดูไม่สมจริง หรือบทที่ซับซ้อนจนเกินไป ผมแนะนำ "Triple Frontier" เลยครับ มันเป็นหนังที่ดูสนุก ลุ้นระทึกตลอดเวลา และยังให้ข้อคิดอะไรบางอย่างกลับมาด้วยครับ
อาจจะมีบางคนที่รู้สึกว่าหนังดำเนินเรื่องช้าไปนิดในบางช่วง แต่สำหรับผมแล้ว จังหวะของหนังมันกำลังดีครับ มันค่อยๆ สร้างความตึงเครียด ค่อยๆ เปิดเผยปมของตัวละคร และค่อยๆ พาเราไปสู่จุดไคลแม็กซ์ที่น่าจดจำ
โดยรวมแล้ว "Triple Frontier" เป็นหนังแอ็คชั่นที่คุ้มค่าแก่การดูครับ มันอาจจะไม่ใช่หนังที่พลิกวงการ แต่เป็นหนังที่ทำหน้าที่ของมันได้ดีเยี่ยม นั่นก็คือการมอบความบันเทิงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ระทึกขวัญ และความดิบเถื่อนแบบที่คอหนังแอ็คชั่นไม่ควรพลาดครับ
ใครที่ดูแล้วมีความเห็นยังไง มาแชร์กันได้นะครับ ผมอยากรู้ว่าเพื่อนๆ คิดเหมือนผมหรือเปล่า หรือมีมุมมองอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกไหมครับ ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นเลยครับผม!
Triple Frontier (2019) - หนังปล้นโคตรเดือด ที่ทำให้คิดถึงวันวานของหนังแอ็คชั่นยุคเก่า!
TITLE: Triple Frontier (2019) - หนังปล้นโคตรเดือด ที่ทำให้คิดถึงวันวานของหนังแอ็คชั่นยุคเก่า!
สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ชาว Pantip ที่ชื่นชอบหนังแนวแอ็คชั่น ระทึกขวัญ ผมเพิ่งมีโอกาสได้ดู "Triple Frontier" (2019) มาครับ บอกเลยว่าโดนใจมากครับ ใครที่คิดถึงหนังปล้น ที่ไม่ได้มีแค่การวางแผนซับซ้อน แต่เน้นความดิบ เถื่อน การเอาตัวรอด และมิตรภาพของพวกพ้อง ต้องดูเรื่องนี้เลยครับ
หนังเรื่องนี้รวมดาวแอ็คชั่นตัวพ่อไว้เพียบครับ ทั้ง Ben Affleck, Oscar Isaac, Garrett Hedlund, Charlie Hunnam และ Adria Arjona เคมีของพวกเขาเข้ากันได้ดีมากครับ เห็นแล้วเชื่อเลยว่าเป็นเพื่อนเก่าที่เคยผ่านอะไรมาด้วยกันจริงๆ การแสดงของแต่ละคนก็เอาอยู่ครับ โดยเฉพาะ Oscar Isaac ที่รับบทเป็นหัวโจกในการวางแผนปล้นครั้งนี้ แสดงได้มีเสน่ห์และน่าติดตามมากครับ
เรื่องราวก็ไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากครับ เป็นกลุ่มอดีตทหารหน่วยรบพิเศษที่ตอนนี้ชีวิตไม่ได้สวยหรูเท่าไหร่ ต่างคนต่างมีปัญหาทางการเงิน เลยต้องกลับมารวมตัวกันอีกครั้งเพื่อภารกิจที่เสี่ยงตาย แต่ผลตอบแทนมหาศาล นั่นก็คือการปล้นยาเสพติดของเจ้าพ่อยาเสพติดรายใหญ่ในแถบ "Triple Frontier" ซึ่งเป็นพื้นที่รอยต่อระหว่างสามประเทศ บราซิล อาร์เจนตินา และปารากวัย ที่เป็นแหล่งซ่องสุมของพวกนอกกฎหมายนั่นเองครับ
จุดเด่นของหนังเรื่องนี้ที่ผมประทับใจมากๆ คือฉากแอ็คชั่นครับ มันดิบ มันจริง มันโหดมากครับ ไม่ได้มีการยิงปืนแบบเวอร์วังอลังการ แต่เน้นการต่อสู้ระยะประชิด การเอาตัวรอดในสถานการณ์คับขัน การยิงต่อสู้ที่ดูสมจริงมากๆ ฉากไล่ล่ากลางป่ากลางเขา หรือฉากต่อสู้บนเรือ คือดูแล้วลุ้นตามจนแทบหยุดหายใจครับ ผู้กำกับ J.C. Chandor ทำฉากแอ็คชั่นออกมาได้ยอดเยี่ยมจริงๆ ครับ มันไม่ได้มีแค่ความมันส์ แต่ยังมีความสมจริงที่ทำให้เราอินไปกับตัวละคร
นอกจากฉากแอ็คชั่นที่ดุเดือดแล้ว หนังเรื่องนี้ยังสอดแทรกประเด็นเกี่ยวกับ "ความโลภ" และ "ผลกระทบ" ของมันได้อย่างน่าสนใจครับ การที่พวกเขาตัดสินใจที่จะทำภารกิจนี้ มันเกิดจากความจำเป็น หรือเพราะความอยากรวยกันแน่? เมื่อเงินทองเข้ามาเกี่ยวข้อง มิตรภาพที่เคยมีก็เริ่มสั่นคลอน การตัดสินใจผิดพลาดเพียงครั้งเดียว อาจนำไปสู่หายนะที่คาดไม่ถึงเลยครับ หนังไม่ได้ตัดสินว่าใครถูกใครผิด แต่ชวนให้เราคิดตาม
ผมชอบที่หนังเรื่องนี้ไม่ได้พยายามทำให้ตัวละครเป็นฮีโร่ที่สมบูรณ์แบบครับ พวกเขาเป็นมนุษย์ธรรมดาที่มีข้อผิดพลาด มีความอ่อนแอ มีความโลภ แต่ก็มีความกล้าหาญและความภักดีต่อพวกพ้อง การเดินทางของพวกเขาเต็มไปด้วยอุปสรรค ทั้งจากสภาพแวดล้อมที่โหดร้าย พวกอาชญากรที่ดุร้าย และที่สำคัญที่สุด คือการต่อสู้กับจิตใจของตัวเอง
บรรยากาศของหนังก็ทำออกมาได้ดีมากครับ การถ่ายทำในพื้นที่จริงของอเมริกาใต้ ทำให้เราเห็นภาพความสวยงาม แต่ก็แฝงไปด้วยอันตรายของป่าเขา แม่น้ำ และหมู่บ้านเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยความยากจนและอาชญากรรม แสง สี เสียง คือองค์ประกอบที่ทำให้หนังเรื่องนี้ดูมีมิติและสมจริงมากขึ้นครับ
สำหรับคนที่ชอบหนังแนวปล้น ที่เน้นความสมจริง ความดิบ ความระทึกขวัญ และไม่ได้มีฉากแอ็คชั่นที่ดูไม่สมจริง หรือบทที่ซับซ้อนจนเกินไป ผมแนะนำ "Triple Frontier" เลยครับ มันเป็นหนังที่ดูสนุก ลุ้นระทึกตลอดเวลา และยังให้ข้อคิดอะไรบางอย่างกลับมาด้วยครับ
อาจจะมีบางคนที่รู้สึกว่าหนังดำเนินเรื่องช้าไปนิดในบางช่วง แต่สำหรับผมแล้ว จังหวะของหนังมันกำลังดีครับ มันค่อยๆ สร้างความตึงเครียด ค่อยๆ เปิดเผยปมของตัวละคร และค่อยๆ พาเราไปสู่จุดไคลแม็กซ์ที่น่าจดจำ
โดยรวมแล้ว "Triple Frontier" เป็นหนังแอ็คชั่นที่คุ้มค่าแก่การดูครับ มันอาจจะไม่ใช่หนังที่พลิกวงการ แต่เป็นหนังที่ทำหน้าที่ของมันได้ดีเยี่ยม นั่นก็คือการมอบความบันเทิงที่เต็มไปด้วยความตื่นเต้น ระทึกขวัญ และความดิบเถื่อนแบบที่คอหนังแอ็คชั่นไม่ควรพลาดครับ
ใครที่ดูแล้วมีความเห็นยังไง มาแชร์กันได้นะครับ ผมอยากรู้ว่าเพื่อนๆ คิดเหมือนผมหรือเปล่า หรือมีมุมมองอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกไหมครับ ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นเลยครับผม!