เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าการลองอะไรใหม่ๆก็ใช่ว่าจะดีเสมอไป
บ้านเราทำใบขับขี่ที่ขนส่งบ.มาทุกรุ่นจนมาถึงเรา ตอนแรกจะทำใบขับขี่ที่ขนส่งบ.แต่ว่าพ่อเราบอกว่าที่ส.มันใกล้กว่า ซึ่งเป็นครั้งแรกของบ้านเราแล้วก็ของเรา ส่วนตัวเราเคยทำใบขับขี่รถยนต์มาแล้วอันนี้เป็นครั้งแรกที่ทำใบขับขี่มอไซ ซึ่งเราขับมอไซค์มาได้ห้าปีแล้ว เราค่อนข้างมั่นใจในระดับนึงเพราะว่าเราก็ขับออกไปไกลเคยออกถนนใหญ่แล้ว มั่นใจในการขับขี่มาก ซึ่งประเด็นหลักมันอยู่ตรงที่ว่า วันแรกเราไปทำข้อเขียนก่อนแล้วเค้าส่งเรากลับบ้านบอกว่าแบ่งเป็นสองวัน มาปฏิบัติอีกวันนึงก็คือนัดมาตอนเช้าตอน 8 โมงครึ่ง ก็คือมาสอบปฏิบัติมารอตั้งแต่เช้า 6 โมง 7 โมง พอ 8 โมงครึ่งเค้าเรียกรอเสร็จปุ๊บไปเช่ารถซึ่งที่เนี่ยเค้ามีให้เช่าสองแบบเป็นรถออโต้กับรถเกียร์ก็คือสกูปปี้กับเวฟ เรามั่นใจมากว่าเราจะผ่านภายในครั้งเดียวเราแต่งหน้าไปจัดเต็มสุดสุดเพราะว่ารู้ว่าต้องถ่ายรูป แต่ที่เนี่ยสนามเค้ากำลังสร้างใหม่อยู่ วันแรกอ่ะเราไม่รู้เราคิดว่าตรงนั้นน่ะเป็นสนามสอบจริงมาตั้งแต่แรก แต่พึ่งมารู้วันที่สองว่าตรงนั้นน่ะไม่ใช่สนามจริงๆเค้ากำลังซ่อมอยู่ ซึ่งสนามสอบของใหม่เนี่ยเป็นแบบไม่มีเนินเป็นเส้นขาวที่ไม่ถึงสองเท้าเราเลยด้วยซ้ำและข้างซ้ายมีกลวันยตั้งอยู่แบบชิดมากเราก็ขับไปเลยด้วยรถสกูปปี้ที่เราเช่าในราคา 50 บาทแล้วขับไปในใจเราก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะว่าเราก็มั่นใจว่าเออเราทรงตัวได้ แต่เรามารู้ว่าเราไม่ผ่านตอนที่ขับมอไซค์ไปจอดแล้วกลับมาก็เลยรู้ตัวว่าไม่ผ่าน เค้าบอกว่าเราไม่ผ่านเพราะเราตกเส้นขาว เราอ่ะไม่ได้เอาขาลงเลยแล้วซิกแซ็กก็ไม่ได้ชนกลวยเลย ครั้งแรกไม่ผ่านเราก็เออมันผิดที่เราเองอาจจะมอไซค์เราไม่ชินเราอาจจะดูไม่ดีเอง ครั้งต่อไปนัดอีกสามวันเราก็เลยเอารถของบ้านเราอ่ะไป ให้พี่สาวเราเป็นคนขับมาส่งแล้ววันเนี่ยมันมีสองครั้งที่เจ้าหน้าที่พูดจาไม่โอเคมากสำหรับเรากับพี่เราถึงแม้อาจจะเป็นคำที่ดูแบบเบาเบาสำหรับคนอื่นแต่สำหรับบ้านเราคือเรื่องคำพูดคือมันไม่โอเคเลย ครั้งแรกเลยคือพี่เราเค้ามายืนมองเราเฉยเฉยมองไกลๆไม่ได้แบบถ่ายรูปไม่ได้อะไรเลยมาดูเราแค่แป๊บเดียวยังไม่ได้กะจะยืนดูแค่มายืนแบบว่าบอกเราว่าแบบเออคุยในแชทประมาณเนี้ยแต่เค้าเห็นเค้ารีบเดินไปรีบพูดเลยว่าแบบตรงนี้ยืนไม่ได้นะครับ เห็นป้ายไหมครับเค้าบอกว่าห้ามถ่ายไปยื่นที่อื่นเลยครับไปไปไปไปตรงโน้นเลยครับคำพูดอ่ะอาจดูโอเคถ้าอ่านในนี้ แต่น้ำเสียงอ่ะคือไม่โอเคมากๆถ้าสมมุติตัดคำว่าครับออกไปที่เขาพูดอะมันไม่ดีเลยอ่ะมันไม่โอเคเลยอ่ะคือบอกดีดีก็ได้จริงๆอ่ะ พี่เราก็ไม่โอเคเลยไม่พูดขอโทษพี่เราก็เลยพูดแค่ว่าอ๋อหรอกวนประสาทอ่ะพี่เราอ่ะ แล้วมาครั้งที่สองคือตอนที่เค้าเรียกทุกคนมารวมกันเพื่อที่จะอธิบายกฎพอเค้าถามว่ามีใครมาซ่อมบ้างมีคนยกมือค่อนข้างเยอะก็หลัก 10 คนได้บอกก่อนว่าที่เนี่ยคนมาน้อยมากแบบว่าไม่เยอะเท่าบางขุนเทียนตอนเค้าถามอ่ะว่ามีใครมาซ่อมบ้างอ่ะมีคนยกมืออยู่ค่อนข้างเยอะแล้วคนที่มาเพิ่งจะมาขับครั้งแรกอ่ะก็นิดเดียวน้อยมากส่วนใหญ่คือมาซ่อมหมดเลยแล้วเค้าขำ และเค้าหันไปพูดกับเพื่อนว่าโอ้ยคนไทยเป็นอะไรกันไปหมดเนาะ ตอนนั้นเราไม่โอเคแล้วแต่เราก็ยังไม่ได้พูดอะไรแล้วเขาก็พูดขึ้นมาอีกว่าอันนี้ผมขอพูดหน่อยนะแบบขอโทษจริงๆ(พูดเหมือนไม่ได้อยากจะขอโทษแต่อยากแซะ)ตั้งแต่ผมทำงานมาตั้งแต่ปี 2543 ไม่เคยมีใครตกขับขี่ไซค์นะง่ายง่ายแค่นี้พวกคุณยังทำไม่ได้กันอีก ถ้าด่านง่ายง่ายแค่นี้แค่สองด่านพวกคุณยังทำไม่ได้ผมว่าพวกคุณควรพิจารณาตัวเองดูนะมันควรจะผ่านได้แล้ว แล้วคือเราไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงพูดตัดกำลังใจคนมาสอบแบบนี้ตัวเองเป็นผู้คุมสอบแท้แท้ควรจะรู้สิว่าอะไรควรพูดไม่ควรพูดพอถึงตอนที่เราต้องสอบเราก็ขับเปลี่ยนจากรอบแรกครั้งแรกขับขับไปเลยขับแบบบิดเลยไม่ได้เบรกอะไรเลย เราเลยเปลี่ยนกลยุทธ์มอไซค์ตัวเองมาแล้วก็ขับช้าช้าให้ตัวเองอยู่ในเส้น พี่เรามองไกลๆแบบอยู่ตรงโรงอาหารน่ะมันมองเข้ามาเห็นใช่ไหมพี่เราก็มองว่ามันตรงเราขับตรงแล้วนิ่งแล้วเราเห็นเค้าเอาใบของเราอ่ะใบเอกสารเราอ่ะไปให้ครูอีกคนแล้วพอเราขับซิกแซ็กเสร็จครูคนนั้นก็บอกว่าเราไม่ผ่านนะเราตกตรงเส้นอีกแล้ว แล้วเค้าก็ให้ใบนัดใหม่มาเป็นอีกสามวันซึ่งเราอ่ะยอมรับแบบถึงใจลึกลึกลึกก็ไม่อยากจะยอมรับเพราะว่ารู้สึกว่าตัวเองอ่ะขับตรงแล้ว โอเคแล้วอ่ะ แต่คือเค้าเป็นคนมองมองว่ามันไม่ตรงมันตก เราก็โอเคไม่ได้อะไร อันเนี่ยเป็นเราเองที่ผิดเราคงขับไม่ตรงเองเราอาจจะระแวงกลวย ซึ่งถามจริงๆว่าใครเค้าจะไปขับตรงนั้นในถนนจริงๆอ่ะถ้าไม่ใช่พวกที่แบบอยากจะแซงรถยนต์หรืออยากจะแบบรีบไปอะไรเงี้ยแล้วพวกมันไปแซงกันน่ะใครเค้าจะไปขับแบบนั้น บนสะพานหรอแบบขับชิดซ้ายแบบอยู่ตรงเส้นหรอหรือว่าตรงไหนถ้าอันนี้คือสอนให้มอไซค์แซงรถใหญ่หรือว่าอะไรกันแน่หรือว่าสอนให้ถูกกฎหมายไม่เข้าใจหรือเราอาจจะมีประสบการณ์บนถนนใหญ่ไม่พอไม่รู้ว่าไอ้จุดเนี่ยมันใช้ประโยชน์อะไรไอ้เรื่องทรงตัวเราเข้าใจนะแต่ไอ้กลวยข้างข้างเนี่ยคือมีทำไม เรามองว่าถ้าไม่มีกลงวยอ่ะมันอาจจะทำได้ดีกว่านี้นะมันอาจจะไม่ต้องมานั่งแบบระแวงขนาดนั้นน่ะสัญชาตญาณคนน่ะไอ้เรื่องการสอบอ่ะเราไม่กังวลเลยนะสอบข้อเขียนเราผ่านสอบปฏิบัติแล้วก็ผ่าน แต่เราอ่ะเหนื่อยต้องมามาอย่างเนี่ยทุกๆวันทุกวันเสียเวลามาอยู่อย่างเงี้ยเราไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นเลยอ่ะแทนที่เราจะได้เอาเวลาไปนอนต้องตื่นมาไปไปคิวไปอะไรอย่างเงี้ยแต่เราก็จะไม่โทษเจ้าหน้าที่ในเรื่องนี้ถึงแม้ว่าเราจะไม่ค่อยโอเค แต่ละเราเข้าใจคนที่เขาขับได้เค้าก็ขับได้เราอาจจะขับไม่ได้เองอาจจะเป็นเราที่ยังไม่มีความสามารถมากพอเองในตรงนี้แต่ด้วยคำพูดของผู้คุมสอบของเจ้าหน้าที่เราก็จะไม่ไปเป็นครั้งที่สี่ เราจะเปลี่ยนไปบางขุนเทียนแทนแล้วเดี๋ยวเราจะมารีวิวอีกรอบว่าจะเป็นยังไงว่าเราจะผ่านไหมทั้งนี้ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ของเราคนเดียวและเป็นการรีวิวของเราที่เราไม่โอเคเราจะไม่ขอใช้คำพูดเราโจมตีใครทั้งสิ้นถือว่าเป็นการเล่าประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่เป็นความผิดพลาดในชีวิตเราที่เสียเวลาไปกับการทำใบขับขี่นานขนาดนี้
สามวันที่เสียเวลาไปกับการทำใบขับขี่มอเตอร์ไซค์ ที่ขนส่งตัวย่อขึ้นด้วยส.
บ้านเราทำใบขับขี่ที่ขนส่งบ.มาทุกรุ่นจนมาถึงเรา ตอนแรกจะทำใบขับขี่ที่ขนส่งบ.แต่ว่าพ่อเราบอกว่าที่ส.มันใกล้กว่า ซึ่งเป็นครั้งแรกของบ้านเราแล้วก็ของเรา ส่วนตัวเราเคยทำใบขับขี่รถยนต์มาแล้วอันนี้เป็นครั้งแรกที่ทำใบขับขี่มอไซ ซึ่งเราขับมอไซค์มาได้ห้าปีแล้ว เราค่อนข้างมั่นใจในระดับนึงเพราะว่าเราก็ขับออกไปไกลเคยออกถนนใหญ่แล้ว มั่นใจในการขับขี่มาก ซึ่งประเด็นหลักมันอยู่ตรงที่ว่า วันแรกเราไปทำข้อเขียนก่อนแล้วเค้าส่งเรากลับบ้านบอกว่าแบ่งเป็นสองวัน มาปฏิบัติอีกวันนึงก็คือนัดมาตอนเช้าตอน 8 โมงครึ่ง ก็คือมาสอบปฏิบัติมารอตั้งแต่เช้า 6 โมง 7 โมง พอ 8 โมงครึ่งเค้าเรียกรอเสร็จปุ๊บไปเช่ารถซึ่งที่เนี่ยเค้ามีให้เช่าสองแบบเป็นรถออโต้กับรถเกียร์ก็คือสกูปปี้กับเวฟ เรามั่นใจมากว่าเราจะผ่านภายในครั้งเดียวเราแต่งหน้าไปจัดเต็มสุดสุดเพราะว่ารู้ว่าต้องถ่ายรูป แต่ที่เนี่ยสนามเค้ากำลังสร้างใหม่อยู่ วันแรกอ่ะเราไม่รู้เราคิดว่าตรงนั้นน่ะเป็นสนามสอบจริงมาตั้งแต่แรก แต่พึ่งมารู้วันที่สองว่าตรงนั้นน่ะไม่ใช่สนามจริงๆเค้ากำลังซ่อมอยู่ ซึ่งสนามสอบของใหม่เนี่ยเป็นแบบไม่มีเนินเป็นเส้นขาวที่ไม่ถึงสองเท้าเราเลยด้วยซ้ำและข้างซ้ายมีกลวันยตั้งอยู่แบบชิดมากเราก็ขับไปเลยด้วยรถสกูปปี้ที่เราเช่าในราคา 50 บาทแล้วขับไปในใจเราก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะว่าเราก็มั่นใจว่าเออเราทรงตัวได้ แต่เรามารู้ว่าเราไม่ผ่านตอนที่ขับมอไซค์ไปจอดแล้วกลับมาก็เลยรู้ตัวว่าไม่ผ่าน เค้าบอกว่าเราไม่ผ่านเพราะเราตกเส้นขาว เราอ่ะไม่ได้เอาขาลงเลยแล้วซิกแซ็กก็ไม่ได้ชนกลวยเลย ครั้งแรกไม่ผ่านเราก็เออมันผิดที่เราเองอาจจะมอไซค์เราไม่ชินเราอาจจะดูไม่ดีเอง ครั้งต่อไปนัดอีกสามวันเราก็เลยเอารถของบ้านเราอ่ะไป ให้พี่สาวเราเป็นคนขับมาส่งแล้ววันเนี่ยมันมีสองครั้งที่เจ้าหน้าที่พูดจาไม่โอเคมากสำหรับเรากับพี่เราถึงแม้อาจจะเป็นคำที่ดูแบบเบาเบาสำหรับคนอื่นแต่สำหรับบ้านเราคือเรื่องคำพูดคือมันไม่โอเคเลย ครั้งแรกเลยคือพี่เราเค้ามายืนมองเราเฉยเฉยมองไกลๆไม่ได้แบบถ่ายรูปไม่ได้อะไรเลยมาดูเราแค่แป๊บเดียวยังไม่ได้กะจะยืนดูแค่มายืนแบบว่าบอกเราว่าแบบเออคุยในแชทประมาณเนี้ยแต่เค้าเห็นเค้ารีบเดินไปรีบพูดเลยว่าแบบตรงนี้ยืนไม่ได้นะครับ เห็นป้ายไหมครับเค้าบอกว่าห้ามถ่ายไปยื่นที่อื่นเลยครับไปไปไปไปตรงโน้นเลยครับคำพูดอ่ะอาจดูโอเคถ้าอ่านในนี้ แต่น้ำเสียงอ่ะคือไม่โอเคมากๆถ้าสมมุติตัดคำว่าครับออกไปที่เขาพูดอะมันไม่ดีเลยอ่ะมันไม่โอเคเลยอ่ะคือบอกดีดีก็ได้จริงๆอ่ะ พี่เราก็ไม่โอเคเลยไม่พูดขอโทษพี่เราก็เลยพูดแค่ว่าอ๋อหรอกวนประสาทอ่ะพี่เราอ่ะ แล้วมาครั้งที่สองคือตอนที่เค้าเรียกทุกคนมารวมกันเพื่อที่จะอธิบายกฎพอเค้าถามว่ามีใครมาซ่อมบ้างมีคนยกมือค่อนข้างเยอะก็หลัก 10 คนได้บอกก่อนว่าที่เนี่ยคนมาน้อยมากแบบว่าไม่เยอะเท่าบางขุนเทียนตอนเค้าถามอ่ะว่ามีใครมาซ่อมบ้างอ่ะมีคนยกมืออยู่ค่อนข้างเยอะแล้วคนที่มาเพิ่งจะมาขับครั้งแรกอ่ะก็นิดเดียวน้อยมากส่วนใหญ่คือมาซ่อมหมดเลยแล้วเค้าขำ และเค้าหันไปพูดกับเพื่อนว่าโอ้ยคนไทยเป็นอะไรกันไปหมดเนาะ ตอนนั้นเราไม่โอเคแล้วแต่เราก็ยังไม่ได้พูดอะไรแล้วเขาก็พูดขึ้นมาอีกว่าอันนี้ผมขอพูดหน่อยนะแบบขอโทษจริงๆ(พูดเหมือนไม่ได้อยากจะขอโทษแต่อยากแซะ)ตั้งแต่ผมทำงานมาตั้งแต่ปี 2543 ไม่เคยมีใครตกขับขี่ไซค์นะง่ายง่ายแค่นี้พวกคุณยังทำไม่ได้กันอีก ถ้าด่านง่ายง่ายแค่นี้แค่สองด่านพวกคุณยังทำไม่ได้ผมว่าพวกคุณควรพิจารณาตัวเองดูนะมันควรจะผ่านได้แล้ว แล้วคือเราไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงพูดตัดกำลังใจคนมาสอบแบบนี้ตัวเองเป็นผู้คุมสอบแท้แท้ควรจะรู้สิว่าอะไรควรพูดไม่ควรพูดพอถึงตอนที่เราต้องสอบเราก็ขับเปลี่ยนจากรอบแรกครั้งแรกขับขับไปเลยขับแบบบิดเลยไม่ได้เบรกอะไรเลย เราเลยเปลี่ยนกลยุทธ์มอไซค์ตัวเองมาแล้วก็ขับช้าช้าให้ตัวเองอยู่ในเส้น พี่เรามองไกลๆแบบอยู่ตรงโรงอาหารน่ะมันมองเข้ามาเห็นใช่ไหมพี่เราก็มองว่ามันตรงเราขับตรงแล้วนิ่งแล้วเราเห็นเค้าเอาใบของเราอ่ะใบเอกสารเราอ่ะไปให้ครูอีกคนแล้วพอเราขับซิกแซ็กเสร็จครูคนนั้นก็บอกว่าเราไม่ผ่านนะเราตกตรงเส้นอีกแล้ว แล้วเค้าก็ให้ใบนัดใหม่มาเป็นอีกสามวันซึ่งเราอ่ะยอมรับแบบถึงใจลึกลึกลึกก็ไม่อยากจะยอมรับเพราะว่ารู้สึกว่าตัวเองอ่ะขับตรงแล้ว โอเคแล้วอ่ะ แต่คือเค้าเป็นคนมองมองว่ามันไม่ตรงมันตก เราก็โอเคไม่ได้อะไร อันเนี่ยเป็นเราเองที่ผิดเราคงขับไม่ตรงเองเราอาจจะระแวงกลวย ซึ่งถามจริงๆว่าใครเค้าจะไปขับตรงนั้นในถนนจริงๆอ่ะถ้าไม่ใช่พวกที่แบบอยากจะแซงรถยนต์หรืออยากจะแบบรีบไปอะไรเงี้ยแล้วพวกมันไปแซงกันน่ะใครเค้าจะไปขับแบบนั้น บนสะพานหรอแบบขับชิดซ้ายแบบอยู่ตรงเส้นหรอหรือว่าตรงไหนถ้าอันนี้คือสอนให้มอไซค์แซงรถใหญ่หรือว่าอะไรกันแน่หรือว่าสอนให้ถูกกฎหมายไม่เข้าใจหรือเราอาจจะมีประสบการณ์บนถนนใหญ่ไม่พอไม่รู้ว่าไอ้จุดเนี่ยมันใช้ประโยชน์อะไรไอ้เรื่องทรงตัวเราเข้าใจนะแต่ไอ้กลวยข้างข้างเนี่ยคือมีทำไม เรามองว่าถ้าไม่มีกลงวยอ่ะมันอาจจะทำได้ดีกว่านี้นะมันอาจจะไม่ต้องมานั่งแบบระแวงขนาดนั้นน่ะสัญชาตญาณคนน่ะไอ้เรื่องการสอบอ่ะเราไม่กังวลเลยนะสอบข้อเขียนเราผ่านสอบปฏิบัติแล้วก็ผ่าน แต่เราอ่ะเหนื่อยต้องมามาอย่างเนี่ยทุกๆวันทุกวันเสียเวลามาอยู่อย่างเงี้ยเราไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่นเลยอ่ะแทนที่เราจะได้เอาเวลาไปนอนต้องตื่นมาไปไปคิวไปอะไรอย่างเงี้ยแต่เราก็จะไม่โทษเจ้าหน้าที่ในเรื่องนี้ถึงแม้ว่าเราจะไม่ค่อยโอเค แต่ละเราเข้าใจคนที่เขาขับได้เค้าก็ขับได้เราอาจจะขับไม่ได้เองอาจจะเป็นเราที่ยังไม่มีความสามารถมากพอเองในตรงนี้แต่ด้วยคำพูดของผู้คุมสอบของเจ้าหน้าที่เราก็จะไม่ไปเป็นครั้งที่สี่ เราจะเปลี่ยนไปบางขุนเทียนแทนแล้วเดี๋ยวเราจะมารีวิวอีกรอบว่าจะเป็นยังไงว่าเราจะผ่านไหมทั้งนี้ทั้งหมดนี้เป็นประสบการณ์ของเราคนเดียวและเป็นการรีวิวของเราที่เราไม่โอเคเราจะไม่ขอใช้คำพูดเราโจมตีใครทั้งสิ้นถือว่าเป็นการเล่าประสบการณ์ครั้งหนึ่งที่เป็นความผิดพลาดในชีวิตเราที่เสียเวลาไปกับการทำใบขับขี่นานขนาดนี้