บทสรุปมหากาพย์ True จากวันที่ยกมือไหว้ขอบคุณหน้าสาขา... สู่วันที่ "ผิดนัด" เส้นตาย 11.00 น. (หลักฐานครบ) พอกันทีกับการเจรจา!
อัปเดตสถานะล่าสุด เวลา 11.00 น. (13 ธ.ค. 2568)
ตามที่ทาง Call Center ได้ติดต่อเข้ามาเมื่อคืน รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะดำเนินการแก้ไขปัญหาทั้งหมดให้จบภายในเวลา 11.00 น. ของวันนี้...
ผลปรากฏว่า: "ความเงียบ" คือคำตอบครับ
จนถึงวินาทีนี้ ไม่มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงติดต่อมา และเมื่อตรวจสอบผ่านแอป iService (ตามภาพหลักฐานที่แนบ) ยอดหนี้ที่ผมไม่ได้ก่อก็ยังอยู่ สถานะรายเดือนก็ยังอยู่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น
ขออนุญาตสรุปไทม์ไลน์ความเจ็บปวดที่ลูกค้าคนหนึ่งได้รับ ให้สังคมได้เห็นการทำงานของค่ายนี้ครับ:
จุดเริ่มต้น: ผมเดินทางไปดำเนินการเปลี่ยนระบบที่สาขาด้วยตัวเอง จ่ายชำระยอดค้างทั้งหมดจนเป็น 0 บาท เซ็นเอกสารครบถ้วน และก่อนกลับผมยัง "ยกมือไหว้" ขอบคุณพนักงานท่านนั้น (ซึ่งเป็นผู้ใหญ่) ด้วยความเคารพและเชื่อใจว่าเขาจะจัดการให้
ความจริงเปิดเผย: มารู้ทีหลังว่าพนักงานท่านนั้น "ไม่คีย์งานเข้าระบบ" ปล่อยให้บิลเดินต่อจนเกิดหนี้ใหม่ แถมมีประเด็นที่ยอมรับไม่ได้ที่สุดคือคำพูดที่ผมถามว่าหากผมไม่เอาซิมกลับจะเป็นอะไรไหม เจ้าหน้าที่ตอบ"ไม่เป็นไรค่ะทางนี้ก็จะโยนทิ้งเหมือนกัน" (ซึ่งตอนนั้นผมนึกว่าเป็นแค่ซิม แต่หนึ่งในนั้นคือเอกสารที่ผมเซ็นแล้วด้วยซึ่งเข้าข่ายผิด พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล PDPA อย่างร้ายแรง)
โอกาสครั้งสุดท้าย: เมื่อเรื่องแดงขึ้นมา ทาง Call Center รีบติดต่อมาขอโอกาสแก้ไข แต่ผมไม่ได้รับเพราะติดร่วมงานสวดอภิธรรมศพ ผมจึงนัดหมายเส้นตายเวลา 09:00- 11.00 น. วันนี้ เพื่อล้างหนี้และคืนสถานะเดิม (รวมถึงอายุการใช้งาน 9 ปีที่หายไป)
จุดจบ (ปัจจุบัน): ผมนั่งรอจนครบกำหนดเวลา... สิ่งที่ได้คือการ "ผิดสัญญา" ซ้ำสอง ไม่มีการแก้ไข ไม่มีการติดต่อ มีแต่ความเพิกเฉย
ในเมื่อ "สัจจะ" ไม่มีอยู่จริงในองค์กรของท่าน
ผมขอประกาศยุติการเจรจาหลังไมค์ทุกช่องทาง และจะขอดำเนินการเพื่อทวงคืนความยุติธรรมตามสิทธิ์ของผู้บริโภค ดังนี้ครับ:
ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ กสทช. (1200): อย่างเป็นทางการ เพื่อบังคับใช้กฎหมายเรื่องการคิดค่าบริการโดยไม่สมัครใจ
ร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.): ในประเด็นความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy) ที่พนักงานสาขามีพฤติกรรมส่อเจตนาละเลยการทำลายเอกสารอย่างถูกวิธี
ลงบันทึกประจำวัน: ไว้เป็นหลักฐานทางกฎหมาย
ถึงทีมงาน Intelligence: ไม่ต้องส่งข้อความมาขออภัย หรือขอโอกาสหลังไมค์แล้วนะครับ เวลาของคุณหมดแล้วตั้งแต่นาฬิกาบอกเวลา 11.00 น. ครับ
ขอให้เคสของผมเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้บริโภคทุกท่าน... "อย่าไว้ใจแค่รอยยิ้ม หรือคำพูดปากเปล่า เก็บหลักฐานไว้เสมอ เพราะวันดีคืนดี คุณอาจกลายเป็นลูกหนี้โดยไม่รู้ตัว"
[บทสรุปมหากาพย์ True] จากวันที่ยกมือไหว้ขอบคุณหน้าสาขา... สู่วันที่ "ผิดนัด" เส้นตาย 11.00 น. (หลักฐานครบ) พอกันทีกับการ
อัปเดตสถานะล่าสุด เวลา 11.00 น. (13 ธ.ค. 2568)
ตามที่ทาง Call Center ได้ติดต่อเข้ามาเมื่อคืน รับปากเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะดำเนินการแก้ไขปัญหาทั้งหมดให้จบภายในเวลา 11.00 น. ของวันนี้...
ผลปรากฏว่า: "ความเงียบ" คือคำตอบครับ
จนถึงวินาทีนี้ ไม่มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงติดต่อมา และเมื่อตรวจสอบผ่านแอป iService (ตามภาพหลักฐานที่แนบ) ยอดหนี้ที่ผมไม่ได้ก่อก็ยังอยู่ สถานะรายเดือนก็ยังอยู่ ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น
ขออนุญาตสรุปไทม์ไลน์ความเจ็บปวดที่ลูกค้าคนหนึ่งได้รับ ให้สังคมได้เห็นการทำงานของค่ายนี้ครับ:
จุดเริ่มต้น: ผมเดินทางไปดำเนินการเปลี่ยนระบบที่สาขาด้วยตัวเอง จ่ายชำระยอดค้างทั้งหมดจนเป็น 0 บาท เซ็นเอกสารครบถ้วน และก่อนกลับผมยัง "ยกมือไหว้" ขอบคุณพนักงานท่านนั้น (ซึ่งเป็นผู้ใหญ่) ด้วยความเคารพและเชื่อใจว่าเขาจะจัดการให้
ความจริงเปิดเผย: มารู้ทีหลังว่าพนักงานท่านนั้น "ไม่คีย์งานเข้าระบบ" ปล่อยให้บิลเดินต่อจนเกิดหนี้ใหม่ แถมมีประเด็นที่ยอมรับไม่ได้ที่สุดคือคำพูดที่ผมถามว่าหากผมไม่เอาซิมกลับจะเป็นอะไรไหม เจ้าหน้าที่ตอบ"ไม่เป็นไรค่ะทางนี้ก็จะโยนทิ้งเหมือนกัน" (ซึ่งตอนนั้นผมนึกว่าเป็นแค่ซิม แต่หนึ่งในนั้นคือเอกสารที่ผมเซ็นแล้วด้วยซึ่งเข้าข่ายผิด พ.ร.บ. คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล PDPA อย่างร้ายแรง)
โอกาสครั้งสุดท้าย: เมื่อเรื่องแดงขึ้นมา ทาง Call Center รีบติดต่อมาขอโอกาสแก้ไข แต่ผมไม่ได้รับเพราะติดร่วมงานสวดอภิธรรมศพ ผมจึงนัดหมายเส้นตายเวลา 09:00- 11.00 น. วันนี้ เพื่อล้างหนี้และคืนสถานะเดิม (รวมถึงอายุการใช้งาน 9 ปีที่หายไป)
จุดจบ (ปัจจุบัน): ผมนั่งรอจนครบกำหนดเวลา... สิ่งที่ได้คือการ "ผิดสัญญา" ซ้ำสอง ไม่มีการแก้ไข ไม่มีการติดต่อ มีแต่ความเพิกเฉย
ในเมื่อ "สัจจะ" ไม่มีอยู่จริงในองค์กรของท่าน
ผมขอประกาศยุติการเจรจาหลังไมค์ทุกช่องทาง และจะขอดำเนินการเพื่อทวงคืนความยุติธรรมตามสิทธิ์ของผู้บริโภค ดังนี้ครับ:
ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อ กสทช. (1200): อย่างเป็นทางการ เพื่อบังคับใช้กฎหมายเรื่องการคิดค่าบริการโดยไม่สมัครใจ
ร้องเรียนต่อคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (สคส.): ในประเด็นความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Privacy) ที่พนักงานสาขามีพฤติกรรมส่อเจตนาละเลยการทำลายเอกสารอย่างถูกวิธี
ลงบันทึกประจำวัน: ไว้เป็นหลักฐานทางกฎหมาย
ถึงทีมงาน Intelligence: ไม่ต้องส่งข้อความมาขออภัย หรือขอโอกาสหลังไมค์แล้วนะครับ เวลาของคุณหมดแล้วตั้งแต่นาฬิกาบอกเวลา 11.00 น. ครับ
ขอให้เคสของผมเป็นอุทาหรณ์ให้ผู้บริโภคทุกท่าน... "อย่าไว้ใจแค่รอยยิ้ม หรือคำพูดปากเปล่า เก็บหลักฐานไว้เสมอ เพราะวันดีคืนดี คุณอาจกลายเป็นลูกหนี้โดยไม่รู้ตัว"