หนังปี 2010 แต่โคตรคลาสสิก! "The Book of Eli" นี่มันงานระดับตำนานจริงๆ ครับ


TITLE: หนังปี 2010 แต่โคตรคลาสสิก! "The Book of Eli" นี่มันงานระดับตำนานจริงๆ ครับ

สวัสดีครับเพื่อนสมาชิกชาว Pantip ทุกท่าน วันนี้ผมมีหนังเก่าเรื่องนึงที่ผมเพิ่งมีโอกาสได้กลับมาดูอีกครั้ง แล้วก็ต้องยอมรับเลยว่ามันยังคงความเจ๋ง ความขลัง และความทรงพลังเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน นั่นก็คือ "The Book of Eli" หนังปี 2010 ที่นำแสดงโดย Denzel Washington นี่แหละครับ ใครที่ยังไม่เคยดู หรือเคยดูแล้วแต่ลืมไปแล้ว ผมอยากให้กลับไปหามาดูกันอีกรอบจริงๆ ครับ มันเป็นหนังที่ดูแล้วไม่เสียดายเวลาแน่นอน

ถ้าให้พูดถึงภาพรวมของหนังเรื่องนี้ก่อนเลยนะครับ "The Book of Eli" เป็นหนังแนว Post-apocalyptic หรือหลังวันสิ้นโลก ที่เล่าเรื่องราวของชายตาบอดคนหนึ่งชื่อว่า อีไล (Eli) ซึ่งรับบทโดย Denzel Washington นี่แหละครับ อีไลเป็นนักเดินทางผู้โดดเดี่ยว เดินทางข้ามทวีปอเมริกาเหนือที่ล่มสลายไปแล้ว หลังเกิดมหาวิบัติครั้งใหญ่ที่ไม่มีใครรู้สาเหตุแน่ชัด สภาพบ้านเมืองคือเละเทะ ฝุ่นคลุ้ง ผู้คนกระหายน้ำ กระหายอำนาจ และเต็มไปด้วยความรุนแรง ชีวิตในโลกแบบนี้มันโหดร้ายจริงๆ ครับ

แต่สิ่งที่ทำให้อีไลแตกต่างจากคนอื่น ก็คือเขาถือ "หนังสือ" เล่มหนึ่งที่เขาปกป้องเอาไว้เป็นอย่างดี และมีความเชื่อมั่นในสิ่งที่อยู่ในหนังสือเล่มนั้นอย่างแรงกล้า เขาเดินทางไปพร้อมกับหนังสือเล่มนี้มานานกว่า 30 ปี โดยไม่เคยสูญเสียมันไปเลย การเดินทางของอีไลก็คือการเดินทางเพื่อนำพาหนังสือเล่มนี้ไปยังสถานที่ที่เขาเชื่อว่าจะสามารถนำพามันไปเปลี่ยนแปลงโลกที่กำลังจะแตกสลายนี้ได้

สิ่งที่ผมชอบมากๆ ในหนังเรื่องนี้คือบรรยากาศครับ ผู้กำกับ Albert Hughes และ Allen Hughes สร้างโลกหลังวันสิ้นโลกออกมาได้สมจริงมากๆ ครับ ทุกอย่างดูแห้งแล้ง สิ้นหวัง สีสันของหนังจะออกโทนหม่นๆ ขาว ดำ เทา ทราย ทำให้เรารู้สึกได้ถึงความยากลำบากของผู้คนที่ต้องเอาชีวิตรอดในสภาพแวดล้อมแบบนี้ การออกแบบฉากต่างๆ การแต่งกายของผู้คน หรือแม้แต่ยานพาหนะที่ดูเก่าๆ ผุๆ มันเสริมสร้างอารมณ์ของหนังได้ดีเยี่ยมเลยครับ

Denzel Washington นี่คือสุดยอดจริงๆ ครับ ในบท อีไล เขาถ่ายทอดความเป็นชายตาบอดที่แข็งแกร่ง เด็ดเดี่ยว และมีความมุ่งมั่นอย่างเหลือเชื่อออกมาได้อย่างไร้ที่ติ แม้จะตาบอด แต่การเคลื่อนไหว การต่อสู้ การรับรู้สิ่งรอบตัวของเขามันน่าทึ่งมากครับ เราจะเห็นฉากแอ็คชั่นที่เขาต้องใช้ประสาทสัมผัสอื่นมาทดแทนการมองเห็น ซึ่งทำออกมาได้น่าตื่นเต้นมากๆ การแสดงของเขามันมีพลังดึงดูดให้เราเอาใจช่วยตัวละครนี้ตลอดทั้งเรื่อง

นอกจาก Denzel แล้ว นักแสดงสมทบก็ดีไม่แพ้กันครับ Gary Oldman ในบท คาร์เนกี (Carnegie) ผู้ร้ายหลักของเรื่อง ก็เล่นได้แบบร้ายกาจ สมจริง เป็นนักล่าอำนาจที่น่ากลัวและน่ารังเกียจมากๆ เขามองเห็นคุณค่าของหนังสือเล่มที่อีไลถืออยู่ และต้องการมันมาเป็นเครื่องมือในการควบคุมผู้คนในอาณาเขตของเขา การปะทะกันทางความคิดและทางกายภาพระหว่างอีไลกับคาร์เนกีคือหัวใจสำคัญของเรื่องเลยครับ

อีกหนึ่งนักแสดงที่ผมชอบคือ Mila Kunis ในบท โซลารา (Solara) หญิงสาวที่เข้ามาพัวพันกับการเดินทางของอีไล เธอเป็นตัวแทนของความหวังและความต้องการที่จะหลุดพ้นจากสภาพสังคมที่โหดร้าย การพัฒนาตัวละครของโซลาราที่ค่อยๆ เรียนรู้และศรัทธาในสิ่งที่อีไลทำก็น่าติดตามครับ

ประเด็นของ "หนังสือ" ในเรื่องนี้ก็เป็นอะไรที่น่าสนใจมากๆ ครับ มันไม่ได้เป็นแค่หนังสือธรรมดา แต่มันคือ "พระคัมภีร์" ซึ่งความหมายของมันจะถูกเปิดเผยออกมาเรื่อยๆ ในช่วงท้ายของหนัง ผมว่าประเด็นเรื่องศรัทธา ความหวัง และการรักษาไว้ซึ่งความรู้ หรือสิ่งที่สำคัญต่อมนุษยชาติ เป็นแก่นหลักที่หนังเรื่องนี้ต้องการจะสื่อจริงๆ ครับ ในโลกที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง การมีบางสิ่งที่จะยึดเหนี่ยวจิตใจ หรือเป็นแสงสว่างนำทาง มันมีความหมายมากแค่ไหน

ฉากแอ็คชั่นในหนังเรื่องนี้ก็ทำออกมาได้ดิบๆ เถื่อนๆ ครับ ไม่ได้หวือหวาแบบหนังฮีโร่ แต่เน้นความสมจริง ความรุนแรงที่สะท้อนถึงความสิ้นหวังของยุคสมัย อีไลต้องต่อสู้กับกลุ่มโจรที่น่ากลัว และแต่ละครั้งที่เขาต้องลงมือ มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลยครับ การใช้ทักษะการต่อสู้ที่ผ่านการฝึกฝนมาอย่างหนัก ประกอบกับความสามารถพิเศษของคนตาบอด ทำให้ฉากต่อสู้มันดูน่าลุ้นและเอาใจช่วยมากๆ

สิ่งที่ผมประทับใจอีกอย่างคือ "จุดหักมุม" ของหนังครับ คือตอนจบที่เฉลยเรื่องราวทั้งหมดออกมา มันทำเอาผมอึ้งไปเลยจริงๆ ครับ มันไม่ใช่แค่จุดหักมุมธรรมดา แต่เป็นการหักมุมที่ทำให้เราเข้าใจความหมายทั้งหมดของเรื่องราวที่ผ่านมาทั้งหมด และยิ่งทำให้เรารู้ซึ้งถึงความสำคัญของสิ่งที่อีไลพยายามจะปกป้องมาตลอดทั้งเรื่อง มันเป็นตอนจบที่ทรงพลังและน่าจดจำมากๆ ครับ

ถ้าให้สรุป "The Book of Eli" มันไม่ใช่แค่หนังแอ็คชั่นเอาตัวรอดธรรมดาๆ นะครับ แต่มันเป็นหนังที่มีสาระ มีข้อคิด มีประเด็นที่ชวนให้คิดตามเกี่ยวกับศรัทธา ความหวัง การรักษาคุณค่าของอารยธรรม และความหมายของการมีชีวิตอยู่รอดในโลกที่เลวร้าย ถึงแม้จะเป็นหนังเก่าแล้ว แต่ผมว่ามันยังมีความคลาสสิกและน่าดูมากๆ ครับ ใครที่กำลังมองหาหนังดีๆ สักเรื่องที่ดูแล้วได้ทั้งความบันเทิงและข้อคิด ผมแนะนำ "The Book of Eli" เลยครับ ไม่ผิดหวังแน่นอน

สุดท้ายนี้ ผมอยากจะบอกว่าใครที่ดูแล้วมีความคิดเห็นยังไง หรือมีประเด็นไหนที่อยากจะแลกเปลี่ยนเพิ่มเติม ก็มาคุยกันในกระทู้นี้ได้เลยนะครับ ผมยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นครับ ขอบคุณที่เข้ามาอ่านรีวิวของผมนะครับ แล้วเจอกันใหม่กระทู้หน้าครับ สวัสดีครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่