ไทยประกันชีวิต สั่งพ้นสภาพพนักงาน ตัวแทนประกันชีวิต ฉ้อโกงเบี้ยประกันกว่า 100 ล้านบาท เผย ตำรวจเตรียมออกหมายจับ พร้อมพิจารณารับผิดชอบผู้เสียหาย
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เผยแพร่ข่าวการเพิกถอนใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิตราย น.ส.จันเกตุ (ขอสงวนนามสกุล) เนื่องจากพบการกระทำความผิดฉ้อฉลประกันภัยนั้น
คปภ. ฟัน ตัวแทนประกันชีวิต ‘ระดับท็อป’ โกงเบี้ยประกัน 100 ล้านบาท
บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ขอเรียนชี้แจงว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงทันทีที่ได้รับการร้องเรียนจากผู้เอาประกันภัย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่านางสาวจันเกตุมีพฤติกรรมทุจริตโดยการฉ้อโกงผู้เอาประกันภัยด้วยการเสนอผลประโยชน์ที่ไม่ได้มีกำหนดในเงื่อนไขกรมธรรม์เพื่อหลอกลวงให้ผู้เอาประกันภัยโอนเงินให้แก่ตนเองและคนใกล้เคียง โดยอ้างว่าเป็นการชำระเบี้ยประกันภัย
และจากการตรวจสอบไม่พบว่านางสาวจันเกตุมีการนำส่งเงินดังกล่าวเข้าบริษัทฯ บริษัทฯ จึงมีคำสั่งให้นางสาวจันเกตุพ้นสภาพการเป็นตัวแทนประกันชีวิต ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2568 พร้อมทั้งได้ส่ง SMS แจ้งผู้เอาประกันภัยที่นางสาวจันเกตุดูแลทันทีที่มีคำสั่งพ้นสภาพ
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้ดำเนินคดีนางสาวจันเกตุข้อหายักยอกทรัพย์ และข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียก แต่นางสาวจันเกตุมิได้มาพบตามหมายเรียก ปัจจุบันพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการพิจารณาออกหมายจับ อีกทั้งได้ดำเนินคดีกับผู้ร่วมกระทำความผิดที่ได้ใช้เอกสารของบริษัทฯ ไปหลอกลวงด้วยอีกส่วนหนึ่ง
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อให้ดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตนางสาวจันเกตุเรียบร้อยแล้ว รวมถึงชี้แจงการดำเนินการต่าง ๆ ตามที่ คปภ.ร้องขอ
สำหรับการดูแลผู้เอาประกันภัยที่ร้องเรียนนั้น บริษัทฯ ได้พิจารณารับผิดชอบความเสียหายในรายที่มีหลักฐานการโอนเงิน และหลักฐานประกอบอื่นที่สอดคล้องกับลักษณะการทำประกันชีวิตและข้อเท็จจริงที่ร้องเรียน พร้อมทั้งจัดตั้งทีมกฎหมายช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยที่มีความประสงค์ร้องทุกข์ดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงกับนางสาวจันเกตุ
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จำเป็นต้องตรวจสอบและพิจารณาเรื่องดังกล่าวอย่างรอบคอบรัดกุม เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้พบความไม่ปกติของข้อมูลการร้องเรียนบางส่วน
โดยจากการตรวจสอบพบว่า ผู้เอาประกันภัยที่ร้องเรียนบางส่วนเป็นตัวแทนฯ หรือเคยเป็นตัวแทนฯ ในสังกัดของนางสาวจันเกตุ ซึ่งได้สอบผ่านใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิต มีความรู้และความเข้าใจในการเสนอขายและการทำประกันชีวิตเป็นอย่างดี รวมถึงผู้ร้องเรียนบางส่วนเป็นบุคคลใกล้ชิดนางสาวจันเกตุและทีมงาน
ขณะเดียวกันยังตรวจสอบพบวิธีการทำประกันชีวิต การชำระเบี้ยฯ รวมไปถึงหลักฐานการรับชำระเบี้ยฯ ที่ขาดความสอดคล้องกับข้อเท็จจริง หรือไม่เข้าลักษณะการทำประกันชีวิต หรือมีการโอนเงินเข้าบัญชีบุคคลอื่นที่มิใช่บัญชีของบริษัทฯ
บริษัทฯ ขอเรียนย้ำว่า บริษัทฯ มิได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน ซึ่งขั้นตอนการเสนอขายกรมธรรม์ของบริษัทฯ มีการควบคุมให้ตรวจสอบเงื่อนไขกรมธรรม์ และมีการออกหลักฐานการรับเงินระหว่างการนำเสนอขาย
รวมถึงมีข้อความ SMS แจ้งผู้เอาประกันภัยกรณีที่บริษัทฯ ได้รับชำระเบี้ยฯ ปีแรกเรียบร้อยแล้ว นอกจากนั้นผู้เอาประกันภัยสามารถใช้แอrพลิเคชันไทยประกันชีวิตในการติดตามธุรกรรมต่างๆ ได้ทันที และจากการตรวจสอบพบว่าผู้ร้องเรียนหลายรายมีการดาวน์โหลดแอrพลิเคชันและเข้าใช้งาน
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ได้กำหนดมาตรการดำเนินการเพื่อป้องกันความเสี่ยงมิให้เกิดเหตุในลักษณะดังกล่าว รวมถึงเหตุทุจริตอื่นๆ ประกอบด้วย การเปลี่ยนวิธีการออกใบเสร็จรับเงินชั่วคราวเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ การยกเลิกการชำระเบี้ยฯ ด้วยเงินสดสำหรับผู้เอาประกันภัยรายใหม่ และการสื่อสารผ่านสื่อต่างๆ ของบริษัทฯ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับผู้เอาประกันภัยเกี่ยวกับวิธีการชำระเบี้ยประกันภัยอย่างต่อเนื่อง
ข่าวต้นฉบับได้ที่ :
https://www.matichon.co.th/economy/news_5499043
ไทยประกันชีวิต ลงดาบ ตัวแทนโกงเบี้ยประกัน 100 ล้าน
ไทยประกันชีวิต สั่งพ้นสภาพพนักงาน ตัวแทนประกันชีวิต ฉ้อโกงเบี้ยประกันกว่า 100 ล้านบาท เผย ตำรวจเตรียมออกหมายจับ พร้อมพิจารณารับผิดชอบผู้เสียหาย
เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เผยแพร่ข่าวการเพิกถอนใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิตราย น.ส.จันเกตุ (ขอสงวนนามสกุล) เนื่องจากพบการกระทำความผิดฉ้อฉลประกันภัยนั้น
คปภ. ฟัน ตัวแทนประกันชีวิต ‘ระดับท็อป’ โกงเบี้ยประกัน 100 ล้านบาท
บริษัท ไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) ขอเรียนชี้แจงว่า บริษัทฯ ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงทันทีที่ได้รับการร้องเรียนจากผู้เอาประกันภัย ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่านางสาวจันเกตุมีพฤติกรรมทุจริตโดยการฉ้อโกงผู้เอาประกันภัยด้วยการเสนอผลประโยชน์ที่ไม่ได้มีกำหนดในเงื่อนไขกรมธรรม์เพื่อหลอกลวงให้ผู้เอาประกันภัยโอนเงินให้แก่ตนเองและคนใกล้เคียง โดยอ้างว่าเป็นการชำระเบี้ยประกันภัย
และจากการตรวจสอบไม่พบว่านางสาวจันเกตุมีการนำส่งเงินดังกล่าวเข้าบริษัทฯ บริษัทฯ จึงมีคำสั่งให้นางสาวจันเกตุพ้นสภาพการเป็นตัวแทนประกันชีวิต ตั้งแต่วันที่ 3 ตุลาคม 2568 พร้อมทั้งได้ส่ง SMS แจ้งผู้เอาประกันภัยที่นางสาวจันเกตุดูแลทันทีที่มีคำสั่งพ้นสภาพ
ขณะเดียวกัน บริษัทฯ ได้ดำเนินคดีนางสาวจันเกตุข้อหายักยอกทรัพย์ และข้อหาอื่นที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ออกหมายเรียก แต่นางสาวจันเกตุมิได้มาพบตามหมายเรียก ปัจจุบันพนักงานสอบสวนอยู่ระหว่างการพิจารณาออกหมายจับ อีกทั้งได้ดำเนินคดีกับผู้ร่วมกระทำความผิดที่ได้ใช้เอกสารของบริษัทฯ ไปหลอกลวงด้วยอีกส่วนหนึ่ง
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ชี้แจงเรื่องดังกล่าวต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เพื่อให้ดำเนินการเพิกถอนใบอนุญาตนางสาวจันเกตุเรียบร้อยแล้ว รวมถึงชี้แจงการดำเนินการต่าง ๆ ตามที่ คปภ.ร้องขอ
สำหรับการดูแลผู้เอาประกันภัยที่ร้องเรียนนั้น บริษัทฯ ได้พิจารณารับผิดชอบความเสียหายในรายที่มีหลักฐานการโอนเงิน และหลักฐานประกอบอื่นที่สอดคล้องกับลักษณะการทำประกันชีวิตและข้อเท็จจริงที่ร้องเรียน พร้อมทั้งจัดตั้งทีมกฎหมายช่วยเหลือผู้เอาประกันภัยที่มีความประสงค์ร้องทุกข์ดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงกับนางสาวจันเกตุ
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ จำเป็นต้องตรวจสอบและพิจารณาเรื่องดังกล่าวอย่างรอบคอบรัดกุม เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้พบความไม่ปกติของข้อมูลการร้องเรียนบางส่วน
โดยจากการตรวจสอบพบว่า ผู้เอาประกันภัยที่ร้องเรียนบางส่วนเป็นตัวแทนฯ หรือเคยเป็นตัวแทนฯ ในสังกัดของนางสาวจันเกตุ ซึ่งได้สอบผ่านใบอนุญาตตัวแทนประกันชีวิต มีความรู้และความเข้าใจในการเสนอขายและการทำประกันชีวิตเป็นอย่างดี รวมถึงผู้ร้องเรียนบางส่วนเป็นบุคคลใกล้ชิดนางสาวจันเกตุและทีมงาน
ขณะเดียวกันยังตรวจสอบพบวิธีการทำประกันชีวิต การชำระเบี้ยฯ รวมไปถึงหลักฐานการรับชำระเบี้ยฯ ที่ขาดความสอดคล้องกับข้อเท็จจริง หรือไม่เข้าลักษณะการทำประกันชีวิต หรือมีการโอนเงินเข้าบัญชีบุคคลอื่นที่มิใช่บัญชีของบริษัทฯ
บริษัทฯ ขอเรียนย้ำว่า บริษัทฯ มิได้นิ่งนอนใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างเร่งด่วน ซึ่งขั้นตอนการเสนอขายกรมธรรม์ของบริษัทฯ มีการควบคุมให้ตรวจสอบเงื่อนไขกรมธรรม์ และมีการออกหลักฐานการรับเงินระหว่างการนำเสนอขาย
รวมถึงมีข้อความ SMS แจ้งผู้เอาประกันภัยกรณีที่บริษัทฯ ได้รับชำระเบี้ยฯ ปีแรกเรียบร้อยแล้ว นอกจากนั้นผู้เอาประกันภัยสามารถใช้แอrพลิเคชันไทยประกันชีวิตในการติดตามธุรกรรมต่างๆ ได้ทันที และจากการตรวจสอบพบว่าผู้ร้องเรียนหลายรายมีการดาวน์โหลดแอrพลิเคชันและเข้าใช้งาน
อย่างไรก็ดี บริษัทฯ ได้กำหนดมาตรการดำเนินการเพื่อป้องกันความเสี่ยงมิให้เกิดเหตุในลักษณะดังกล่าว รวมถึงเหตุทุจริตอื่นๆ ประกอบด้วย การเปลี่ยนวิธีการออกใบเสร็จรับเงินชั่วคราวเป็นแบบอิเล็กทรอนิกส์ การยกเลิกการชำระเบี้ยฯ ด้วยเงินสดสำหรับผู้เอาประกันภัยรายใหม่ และการสื่อสารผ่านสื่อต่างๆ ของบริษัทฯ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับผู้เอาประกันภัยเกี่ยวกับวิธีการชำระเบี้ยประกันภัยอย่างต่อเนื่อง
ข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.matichon.co.th/economy/news_5499043