หลังจากกลับจากวังน้ำเขียว ผมกับแฟนก็คิดว่าทุกอย่างจะจบแล้ว
แต่จริง ๆ แล้ว…
มันเพิ่งเริ่ม
คืนแรกหลังกลับถึงกรุงเทพ เรานอนกันปกติ
ผมวางกระเป๋าเดินทางไว้มุมห้อง ยังไม่ได้แกะ
สเปรย์ที่พกติดรถก็โยนไว้บนโต๊ะเหมือนทุกที (ขวดเดิมที่ได้มาจากหมอจัดเส้นนั่นแหละ ใช้มานานจนชินมือ ไม่ได้คิดอะไร)
ตอนประมาณตีสอง
แฟนผมสะกิดเบา ๆ
“เธอ… ได้ยินไหม?”
ผมงัวเงียตอบว่า
“เสียงอะไร…”
แฟนเอานิ้วแตะแขนผมเบา ๆ
แล้วกระซิบว่า
“เสียงหายใจอยู่ตรงกระเป๋า…”
ตอนแรกผมคิดว่าหูฟาด เลยตั้งใจฟัง
แล้วมันก็มีจริง ๆ
เสียงหายใจเบา ๆ
ถี่… แล้วก็ยาว
เหมือนคนซ่อนตัวอยู่ ข้างในกระเป๋าเดินทาง
ผมจุดไฟจากมือถือส่อง
ไม่มีอะไร
แต่ที่ปลายผ้าม่าน ผมสาบานได้เลยว่าเห็น “อะไรบางอย่าง” ขยับหนีเข้าไปในเงา
กลิ่นอ่อน ๆ จากสเปรย์ที่ติดอยู่ในกระเป๋า…
มันยังลอยออกมาอยู่เล็กน้อย
และนั่นคือช่วงที่ผมเริ่มรู้สึกว่า กลิ่นมันเหมือนล่อใครสักคนเข้ามา
🕯️ คืนถัดมา – มันเริ่มชัดขึ้น
หลังจากเหตุการณ์นั้น ผมพยายามไม่คิดมาก
แต่คืนที่สองคือของจริง
ผมวางสเปรย์ไว้บนโต๊ะ
แล้วไปอาบน้ำ
ตอนออกมา ผมเห็นแฟน “ยืนนิ่ง” อยู่กลางห้อง
ไม่ได้หันมามองผม
เหมือนกำลังฟังบางอย่าง
ผมถามว่า
“เป็นอะไร?”
แฟนตอบเบา ๆ แบบไม่หันหน้า
“มีคนกระซิบว่าให้เปิดขวดสเปรย์…”
ผมขนลุกจนชา
เพราะผมเองก็ได้ยินเสียงกระซิบเบา ๆ ตอนปิดประตูห้องน้ำเหมือนกัน
แต่คิดว่าเป็นเสียงลม
เสียงนั้นเหมือนคนพูดซ้อนกันหลายคน
ช้า
แผ่ว
และใกล้มาก
เหมือนยืนอยู่หลังเรา
💨 กลิ่นไม่ได้ดึงดูดยุง… แต่ดึงดูด “เธอ”
ช่วงดึกผมลองเอาสเปรย์ใส่กล่อง แล้วเอาไปวางไว้ตรงระเบียง
ตั้งใจจะดูว่าเกิดอะไรขึ้น
เวลาประมาณตีหนึ่งกว่า ๆ
เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นตรงระเบียง
ทั้งที่ห้องผมอยู่ชั้น 5
ผมกับแฟนยืนดูจากในห้อง เงียบไม่กล้าหายใจ
แล้ว “เงา” บางอย่างก็ปรากฏตรงกระจก
สูง
ผอม
คอเอียงเหมือนตอนที่เราเห็นในหมอกวังน้ำเขียว
มันยื่นมือยาวผิดรูป…
เลื่อนเข้ามาช้า ๆ
เหมือน “ดมกลิ่น” บางอย่าง
ไม่ใช่คนแน่นอน
แต่ที่ทำให้ผมขนลุกหนักที่สุดคือ
มันยืนตรงกับตำแหน่งที่ผมวางสเปรย์พอดี
ยกมือแตะกล่อง
แล้วกระจกเกิด “ฝ้าขาว” เป็นรอยฝ่ามือซีด ๆ แบบเดียวกับคืนนั้นในวังน้ำเขียว
รอยมือค่อย ๆ ลากลง
ช้า…
เหมือนกำลังบอกว่า
“ฉันตามกลิ่นเจอแล้ว”
🕳️ เช้าวันต่อมา – ร่องรอยที่พิสูจน์ว่ามันไม่ใช่เรื่องฝัน
ผมรีบเปิดประตูออกไปดูตรงระเบียง
กล่องยังอยู่
ขวดสเปรย์ยังไม่เปิด
แต่รอบกล่องมี “ดินโคลน” เป็นรอยรูปเท้าเล็ก ๆ คล้ายวัดเด็ก…
แต่มีทั้งหมด ห้าหรือหกนิ้ว ผสมปนกันไปหมด
ราวกับยืนเบียดกันหลายร่าง
ทั้งที่ระเบียงของผม ไม่มีทางมีใครปีนขึ้นมาได้
และที่ชัดที่สุดคือ
“รอยนิ้วลากเป็นทางยาวบนกระจก”
เหมือนเมื่อคืนตามหากลิ่นแล้วเจอจริง ๆ
กลิ่นสเปรย์ที่ดึงดูด “สิ่งที่เราไม่เห็น
แต่จริง ๆ แล้ว…
มันเพิ่งเริ่ม
คืนแรกหลังกลับถึงกรุงเทพ เรานอนกันปกติ
ผมวางกระเป๋าเดินทางไว้มุมห้อง ยังไม่ได้แกะ
สเปรย์ที่พกติดรถก็โยนไว้บนโต๊ะเหมือนทุกที (ขวดเดิมที่ได้มาจากหมอจัดเส้นนั่นแหละ ใช้มานานจนชินมือ ไม่ได้คิดอะไร)
ตอนประมาณตีสอง
แฟนผมสะกิดเบา ๆ
“เธอ… ได้ยินไหม?”
ผมงัวเงียตอบว่า
“เสียงอะไร…”
แฟนเอานิ้วแตะแขนผมเบา ๆ
แล้วกระซิบว่า
“เสียงหายใจอยู่ตรงกระเป๋า…”
ตอนแรกผมคิดว่าหูฟาด เลยตั้งใจฟัง
แล้วมันก็มีจริง ๆ
เสียงหายใจเบา ๆ
ถี่… แล้วก็ยาว
เหมือนคนซ่อนตัวอยู่ ข้างในกระเป๋าเดินทาง
ผมจุดไฟจากมือถือส่อง
ไม่มีอะไร
แต่ที่ปลายผ้าม่าน ผมสาบานได้เลยว่าเห็น “อะไรบางอย่าง” ขยับหนีเข้าไปในเงา
กลิ่นอ่อน ๆ จากสเปรย์ที่ติดอยู่ในกระเป๋า…
มันยังลอยออกมาอยู่เล็กน้อย
และนั่นคือช่วงที่ผมเริ่มรู้สึกว่า กลิ่นมันเหมือนล่อใครสักคนเข้ามา
🕯️ คืนถัดมา – มันเริ่มชัดขึ้น
หลังจากเหตุการณ์นั้น ผมพยายามไม่คิดมาก
แต่คืนที่สองคือของจริง
ผมวางสเปรย์ไว้บนโต๊ะ
แล้วไปอาบน้ำ
ตอนออกมา ผมเห็นแฟน “ยืนนิ่ง” อยู่กลางห้อง
ไม่ได้หันมามองผม
เหมือนกำลังฟังบางอย่าง
ผมถามว่า
“เป็นอะไร?”
แฟนตอบเบา ๆ แบบไม่หันหน้า
“มีคนกระซิบว่าให้เปิดขวดสเปรย์…”
ผมขนลุกจนชา
เพราะผมเองก็ได้ยินเสียงกระซิบเบา ๆ ตอนปิดประตูห้องน้ำเหมือนกัน
แต่คิดว่าเป็นเสียงลม
เสียงนั้นเหมือนคนพูดซ้อนกันหลายคน
ช้า
แผ่ว
และใกล้มาก
เหมือนยืนอยู่หลังเรา
💨 กลิ่นไม่ได้ดึงดูดยุง… แต่ดึงดูด “เธอ”
ช่วงดึกผมลองเอาสเปรย์ใส่กล่อง แล้วเอาไปวางไว้ตรงระเบียง
ตั้งใจจะดูว่าเกิดอะไรขึ้น
เวลาประมาณตีหนึ่งกว่า ๆ
เสียงฝีเท้าเบา ๆ ดังขึ้นตรงระเบียง
ทั้งที่ห้องผมอยู่ชั้น 5
ผมกับแฟนยืนดูจากในห้อง เงียบไม่กล้าหายใจ
แล้ว “เงา” บางอย่างก็ปรากฏตรงกระจก
สูง
ผอม
คอเอียงเหมือนตอนที่เราเห็นในหมอกวังน้ำเขียว
มันยื่นมือยาวผิดรูป…
เลื่อนเข้ามาช้า ๆ
เหมือน “ดมกลิ่น” บางอย่าง
ไม่ใช่คนแน่นอน
แต่ที่ทำให้ผมขนลุกหนักที่สุดคือ
มันยืนตรงกับตำแหน่งที่ผมวางสเปรย์พอดี
ยกมือแตะกล่อง
แล้วกระจกเกิด “ฝ้าขาว” เป็นรอยฝ่ามือซีด ๆ แบบเดียวกับคืนนั้นในวังน้ำเขียว
รอยมือค่อย ๆ ลากลง
ช้า…
เหมือนกำลังบอกว่า
“ฉันตามกลิ่นเจอแล้ว”
🕳️ เช้าวันต่อมา – ร่องรอยที่พิสูจน์ว่ามันไม่ใช่เรื่องฝัน
ผมรีบเปิดประตูออกไปดูตรงระเบียง
กล่องยังอยู่
ขวดสเปรย์ยังไม่เปิด
แต่รอบกล่องมี “ดินโคลน” เป็นรอยรูปเท้าเล็ก ๆ คล้ายวัดเด็ก…
แต่มีทั้งหมด ห้าหรือหกนิ้ว ผสมปนกันไปหมด
ราวกับยืนเบียดกันหลายร่าง
ทั้งที่ระเบียงของผม ไม่มีทางมีใครปีนขึ้นมาได้
และที่ชัดที่สุดคือ
“รอยนิ้วลากเป็นทางยาวบนกระจก”
เหมือนเมื่อคืนตามหากลิ่นแล้วเจอจริง ๆ