เด็กหญิง 1 ขวบ หัวใหญ่มาก แพทย์ทำ CT พบ “ทารกอีกคน” ฝังอยู่ในสมอง อยู่กับเธอมาตั้งแต่เกิด ทารกที่ควรจะเกิดออกมาเป็นพี่น้องฝาแฝดของเธอ
ฟังไม่ผิดค่ะ
ไม่ใช่ก้อนเนื้อ
ไม่ใช่เนื้องอก
แต่เป็น ทารกอีกคนจริงๆ
ภาวะนี้เรียกว่า
ทารกเจริญในทารกอีกคน
(Fetus in fetu: FIF)
ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากแฝดที่แยกตัวไม่สมบูรณ์
คล้ายกลไกของแฝดไข่ใบเดียวกันหรือแฝดสยาม
ย้อนกลับไปตอนตั้งครรภ์
มีการทำ ultrasound ตอนอายุครรภ์ 33 สัปดาห์
แพทย์พบเพียงว่า “ศีรษะทารกโตผิดปกติ”
แต่ยังไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่าเกิดจากอะไร
สุดท้ายจึงผ่าคลอดตอนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์
.
หลังคลอด
เด็กหญิงเติบโตมาอย่างช้าๆ
พัฒนาการช้ากว่าปกติมาก
จนเมื่ออายุ 1 ขวบ
จึงถูกส่งมาตรวจ CT สมอง
พบว่า
ในสมองของเด็ก
มี “ถุงขนาดใหญ่มาก”
ลักษณะคล้ายน้ำคร่ำ
และภายในถุงนั้น
มีโครงสร้างที่เห็นเป็น กระดูกแขนขาชัดเจน
ขนาดก้อนโดยประมาณ
15 × 13 × 12.5 มิลลิเมตร
ฝังตัวอยู่ในสมอง
และเบียดอัดเนื้อสมองรอบข้างอย่างรุนแรง
ทีมแพทย์จึงตัดสินใจผ่าตัดนำก้อนนั้นออก
เมื่อเปิดถุงออก
พบว่าเป็น “ทารกระยะตัวอ่อน (embryo)”
ความยาวประมาณ 18 มิลลิเมตร
มีแขน มีขา มีกระดูกครบ
แน่นอนว่า
ในระยะนี้ตัวอ่อนยังไม่สามารถดำรงชีวิตได้เอง
และไม่สามารถอยู่รอดต่อได้อยู่แล้ว
น่าเศร้าใจที่สุดคือ
หลังการผ่าตัด
เด็กหญิงวัย 1 ขวบ
อยู่ได้เพียง 12 วัน
แล้วก็เสียชีวิตลงค่ะ
เพราะสมองเสียหายไปมากแล้ว
กลไกของ Fetus in fetu (FIF)
เชื่อว่าเกิดขึ้นในช่วงการพัฒนาในครรภ์ระยะแรกมาก
ปกติแฝดจะต้องแยกตัวสมบูรณ์
ตั้งแต่ก่อนเข้าสู่ระยะสร้างอวัยวะ
แต่ในกรณีนี้
การแยกตัวของเนื้อเยื่อ
เกิด “ช้าเกินไป”
เกิดในช่วงที่ตัวอ่อนเริ่มเข้าสู่การสร้างชั้นเนื้อเยื่อ
(Gastrulation)
ผลคือ
การแยกไม่สมบูรณ์
ทารกที่พัฒนาเร็วกว่า
จะ “ม้วน” อีกคนหนึ่งเข้าไปอยู่ในร่างของตนเอง
และกลายเป็น Parasitic fetus
หรือทารกที่เติบโตอยู่ในร่างของอีกคน
ตำแหน่งที่พบบ่อยที่สุดของ FIF
คือบริเวณหลังช่องท้อง
(Retroperitoneum)
ซึ่งตำแหน่งนี้
พยากรณ์โรคมักจะค่อนข้างดี
หากผ่าตัดออกได้ทัน
แต่กรณีที่ไปฝังอยู่ใน “ตำแหน่งอันตรายมาก”
เช่น สมอง โอกาสเสียชีวิตจะสูงมากค่ะ
นี่คือหนึ่งในปรากฏการณ์ทางชีววิทยา
ที่ทั้งหายาก
ทั้งโหดร้าย
และทั้งสะเทือนใจที่สุดกรณีหนึ่ง
เพราะมันไม่ใช่แค่โรค
แต่คือ “ชีวิตหนึ่งที่ซ้อนอยู่ในชีวิตอีกชีวิตหนึ่ง”
CR
https://www.facebook.com/share/1A4k8GJyQE/?mibextid=wwXIfr
ทารกแฝดน้อง ถือกำเนิดในกะโหลกของแฝดพี่
ฟังไม่ผิดค่ะ
ไม่ใช่ก้อนเนื้อ
ไม่ใช่เนื้องอก
แต่เป็น ทารกอีกคนจริงๆ
ภาวะนี้เรียกว่า
ทารกเจริญในทารกอีกคน
(Fetus in fetu: FIF)
ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากแฝดที่แยกตัวไม่สมบูรณ์
คล้ายกลไกของแฝดไข่ใบเดียวกันหรือแฝดสยาม
ย้อนกลับไปตอนตั้งครรภ์
มีการทำ ultrasound ตอนอายุครรภ์ 33 สัปดาห์
แพทย์พบเพียงว่า “ศีรษะทารกโตผิดปกติ”
แต่ยังไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่าเกิดจากอะไร
สุดท้ายจึงผ่าคลอดตอนอายุครรภ์ 37 สัปดาห์
.
หลังคลอด
เด็กหญิงเติบโตมาอย่างช้าๆ
พัฒนาการช้ากว่าปกติมาก
จนเมื่ออายุ 1 ขวบ
จึงถูกส่งมาตรวจ CT สมอง
พบว่า
ในสมองของเด็ก
มี “ถุงขนาดใหญ่มาก”
ลักษณะคล้ายน้ำคร่ำ
และภายในถุงนั้น
มีโครงสร้างที่เห็นเป็น กระดูกแขนขาชัดเจน
ขนาดก้อนโดยประมาณ
15 × 13 × 12.5 มิลลิเมตร
ฝังตัวอยู่ในสมอง
และเบียดอัดเนื้อสมองรอบข้างอย่างรุนแรง
ทีมแพทย์จึงตัดสินใจผ่าตัดนำก้อนนั้นออก
เมื่อเปิดถุงออก
พบว่าเป็น “ทารกระยะตัวอ่อน (embryo)”
ความยาวประมาณ 18 มิลลิเมตร
มีแขน มีขา มีกระดูกครบ
แน่นอนว่า
ในระยะนี้ตัวอ่อนยังไม่สามารถดำรงชีวิตได้เอง
และไม่สามารถอยู่รอดต่อได้อยู่แล้ว
น่าเศร้าใจที่สุดคือ
หลังการผ่าตัด
เด็กหญิงวัย 1 ขวบ
อยู่ได้เพียง 12 วัน
แล้วก็เสียชีวิตลงค่ะ
เพราะสมองเสียหายไปมากแล้ว
กลไกของ Fetus in fetu (FIF)
เชื่อว่าเกิดขึ้นในช่วงการพัฒนาในครรภ์ระยะแรกมาก
ปกติแฝดจะต้องแยกตัวสมบูรณ์
ตั้งแต่ก่อนเข้าสู่ระยะสร้างอวัยวะ
แต่ในกรณีนี้
การแยกตัวของเนื้อเยื่อ
เกิด “ช้าเกินไป”
เกิดในช่วงที่ตัวอ่อนเริ่มเข้าสู่การสร้างชั้นเนื้อเยื่อ
(Gastrulation)
ผลคือ
การแยกไม่สมบูรณ์
ทารกที่พัฒนาเร็วกว่า
จะ “ม้วน” อีกคนหนึ่งเข้าไปอยู่ในร่างของตนเอง
และกลายเป็น Parasitic fetus
หรือทารกที่เติบโตอยู่ในร่างของอีกคน
ตำแหน่งที่พบบ่อยที่สุดของ FIF
คือบริเวณหลังช่องท้อง
(Retroperitoneum)
ซึ่งตำแหน่งนี้
พยากรณ์โรคมักจะค่อนข้างดี
หากผ่าตัดออกได้ทัน
แต่กรณีที่ไปฝังอยู่ใน “ตำแหน่งอันตรายมาก”
เช่น สมอง โอกาสเสียชีวิตจะสูงมากค่ะ
นี่คือหนึ่งในปรากฏการณ์ทางชีววิทยา
ที่ทั้งหายาก
ทั้งโหดร้าย
และทั้งสะเทือนใจที่สุดกรณีหนึ่ง
เพราะมันไม่ใช่แค่โรค
แต่คือ “ชีวิตหนึ่งที่ซ้อนอยู่ในชีวิตอีกชีวิตหนึ่ง”
CR https://www.facebook.com/share/1A4k8GJyQE/?mibextid=wwXIfr