“จารึกไว้ที่หัวเตียงว่า แด่ลัดดาภรรยายอดที่รักของฉัน เพื่อว่าเจ็บไข้ได้ป่วยจะได้อาศัยนอนตายบนเตียงนั้นพอเป็นเครื่องระลึกว่า ถึงแม้เมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ฉันมิสู้ไยดีสักเท่าใดก็จริง แต่ภายหลังที่เธอต้องลาโลกไปแล้วนั้น ความรักความอาลัยกลับงอกงามขึ้นในหัวใจฉัน และได้ฝังแน่นอยู่จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย”
ท่อนนี้แหละที่มันทำให้อยากเขียนรีวิวขึ้นมา5555
ในที่สุดเจ้าของกระทู้ก็ได้กลายเป็นแฟนนิยายของศรีบูรพาไปแล้วจริงๆ😆 จากที่ได้อ่านและเคยเขียนรีวิวเรื่องสงครามชีวิตไปแล้วในช่อง เอาละวันนี้จะมาเขียนรีวิว “มารมนุษย์” กันอีกสักเรื่อง พูดได้ไหมว่าเรื่องนี้ไม่ค่อยจะเป็นกระแสหรือโด่งดังเหมือนกับข้างหลังภาพและสงครามชีวิต แต่บอกได้เลยว่าเนื้อในเรื่องนี้ก็ไม่ได้แพ้เรื่องดังๆพวกนั้นเลย คือมันดีมากบางคนอาจจะมองว่าเป็นนิยายน้ำเน่าแต่คิดว่าถ้าเทียบกับข้างหลังภาพอันนั้นเน่ากว่าอีก เจ้าของกระทู้คิดว่าเรื่องนี้ควรแมสกว่านะ มันสอดแทรกอะไรได้หลายอย่างเลยทั้งสอนในเรื่องความอดทนอดกลั้น มิตรภาพ และค่านิยมแห่งความเสมอภาคของสตรี ควรค่าแก่การอ่านอย่างยิ่ง
(ต่อจากนี้จะสปอยแล้วนะอาจจะยาวสักหน่อยแต่สนุกมากๆ🤭😆)
ตัวละหลักๆฝ่ายชายมีด้วยกัน 3 คน คือ คุณพระอารี หลวงโกศล และขุนศรี ทั้งสามเป็นเพื่อที่รักใคร่กันมาเป็นเวลานานร่วม 10 ปี ส่วนฝ่ายหญิงก็มี ลัดดาเมียพระอารี เรณู และอำนวยเมียขุนศรีและเป็นน้องของหลวงโกศล
หลวงโกศลชายหนุ่มอายุ 28 ปี โสด หน้าตาจัดว่าสวยที่เดียว แต่ด้วยความที่เคยช้ำรักมาแล้วหัวใจเลยด้านชามาเป็นเวลานานไม่ค่อยจะสนใจในเรื่องผู้หญิง ทำให้เพื่อนอย่างขุนศรีและน้องสาวอย่างอำนวยเกิดความคิดที่จะหาเมียให้พี่เขย จึงคิดที่จะให้เรณูหญิงสาวที่สวยหาตัวจำได้อยากคนหนึ่งในพระนครเป็นญาติห่างๆของขุนศรีมาเป็นเมีย จึงคิดวิธีที่จะให้สองคนได้เจอกันและทำความรู้จักกัน หลังจากที่ทั้งสองได้ทำความรู้จักกันและเห็นหน้าข้าตากันแล้ว หลวงโกศลเกิดความรักเรณูขึ้นมาจริงๆ ดังที่ขุนศรีและเมียได้ตั้งใจไว้ หัวใจชายหนุ่มอย่างหลวงโกศลก็ได้กลับมาเบ่งบานอีกครั้งจนเก็บไว้ไม่อยู่ จึงได้นำเรื่องไปเล่าให้เพื่อรักอย่างพระอารีฟัง หนุ่มวัย 34 ปี รูปร่างสง่างามกริยาท่าทางน่ารักดูเป็นคนดีมีศรีเหมาะสมกับตำแหน่งคุณพระและมีทรัพย์สินมากมาย โกศลได้พรรณาถึงความงามของแม่เรณูว่าไม่มีสิ่งใดที่จะบรรยายความงามของหล่อนออกมาได้ จนทำให้พระอารีและลัดดาผู้เป็นเมียเกิดความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที จึงได้นัดกันที่โรงละครโดยหลวงโกศลนัดให้พระอารีและลัดลามาดูละครเพื่อทำความรู้จักกับเรณู
หลังจากนั้นความรักที่เกิดขึ้นในใจของหลวงโกศลที่มีต่อเรณูก็เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งทั้งสองได้มีโอกาสไปเที่ยวต่างอากาศ หลวงโกศลจึงได้โอกาสบอกความในใจของตนให้เรณูฟัง จนพบว่าเรณูก็มีความรู้สึกเดียวกันกับหลวงโกศล และในเวลาต่อมาก็ได้เป็นที่รู้กันในวงเพื่อนพ้องว่าทั้งสองนั้นเป็นคู่รักกัน จนกระทั่งอุปสรรคได้ก้าวเข้ามาในรูปแบบของงาน เมื่อหลวงโกศลได้รับราชการให้ไปทำงานที่ต่างประเทศเป็นเวลา 12 เดือนหรือ1ปีนั้นและ หลวงโกศลพยายามที่จะบอกเรื่องนี้ให้แก่เรณูแต่สุดท้ายก็ไม่ได้บอก ถึงอังกฤษแล้วจึงได้เขียนจดหมายมาลาแทน เอาตรงๆนะพระเอกเรื่องรู้สึกจะขี้ขลาดไปหน่อยอะไรๆก็กล้วไปหมด แต่ก่อนจะไปต่างประเทศหลวงโกศลได้ฝากเพื่อนๆให้หมั่นไปดูแลเรณูบ้างอะไรบ้างเพื่อไม่ให้เธอเงา แต่ใครจะคิดละเมื่อไฟราคะมันบังเกิดก็เท่ากับได้ฝากเหยื่อไว้กับเสือ ส่วนตัวเสือนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากคุณพระอารีเพื่อรักของหลวงโกศลนั้นเอง
คุณพระอารีได้หมั่นไปเยี่ยมเยือนเรณูอยู่เป็นนิด จนกระทั่งขุนศรีก็ได้งานให้ไปราชการที่หัวเมือง เลยเปิดช่องทางให้ง่ายไปกันใหญ่ กระทั่งลัดดาออกสงสัยในการไปมาหาสู่ของสามีจนคิดว่าสามีอาจะรักคู่รักของเพื่อนสนิทเสียแล้วจึงได้เกิดปากเสียงทะเลาะกัน จริงๆแล้วลัดดาก็แอบระแคะระคายนิสัยเจ้าชู้ของสามีมาสักพักแล้วตอนที่คุณพระแอบแต๊ะอั๋งนางแม้วสาวใช้คนสนิทของนางเอง จริงๆแล้วคุณพระอารีกับลัดดาแต่งานกันมาเข้าปีที่5-6แล้วและทั้งสองยังไม่มีบุตร คุณพระทำหน้าที่สามีที่ดีมาตลอดไม่เคยมีเล็กมีน้อยมาก่อนพูดได้ว่าเป็นคนดีพร้อมจริงๆ ส่วนลัดดาก็ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีในสายของสามีเธอเป็นคนสวยพอตัว และในสายตาของเรณูมองว่าลัดดาเรียบร้อยอยู่ในโอวาทของสามี แต่ในความเห็นเจ้าของกระทู้ลัดดาถือว่าเป็นคนที่กล้าคนหนึ่งถ้าเทียบกับหญิงยุคนั้นเธอกล้าต่อปากต่อคำกล้าพูดความรู้สึกจริงๆและกล้าเถียงสามีซึ่งผู้หญิงในยุคนั้นน้อยนักที่จะทำ พักหลังๆจากที่คุณพระอารีได้เจอเรณูเหมือนนิสัยใจคอจะเริ่มเปลี่ยนไป คุณพระอารีเริ่มมีความเสน่หาในตัวเรณูเอามากๆ เริ่มอยากได้และเอาชัยชนะจนต้องทะเลาะกับลัดดาเป็นการใหญ่ โดยลัดดาได้เตือนสามีให้คิดดีๆการที่จะไปแย่งของรักของเพื่อนสนิทอาจทำให้มิตรภาพของเพื่อนกับตนต้องจบกันในที่สุด แต่คุณพระก็หาฟังภรรยาไม่ ทำให้ภรรยาต้องตรอมใจและดับชีวิตไปในที่สุด โดยคำอาลัยสุดท้ายที่เธอให้แก่สามีคือ “ขออโหสิ—ไม่เอาเวรเอากรรมแก่กัน—ดิฉันยังรักคุณอยู่เสมอ“ ถือได้ว่าพระอารีได้ฆ่าหญิงผู้รักตนดังดวงใจได้อย่างเลือดเย็น ทำให้เกิดตราบาปแรกที่ประทับหัวใจของพระอารี
หลังจากภรรยาเสียชีวิตไม่กี่เดือนไฟราคะที่กำลังลุกโหมได้สำแดงให้คุณพระอารีกระทำสิ่งที่ชั่วช้าโดยการปลอมจดหมายหลวงโกศลที่มีมาถึงเรณู ทำให้เกิดความเข้าใจผิดคิดว่าหลวงโกศกได้ตัดใจจากเรณูและปล่อยให้เธอเป็นอิสระเสีย ความเข้าใจผิดอันนี้ทำให้เรณูน้อยอกน้อยใจมากเลยประชัดโดยการตอบตลกแต่งานกับพระอารี ภายหลังที่ขุนศรีได้กลับจากราชการมาแล้วและได้รับรู้เรื่องราวจากอำนวย จึงได้บุกไปเคลียร์กับพระอารีจนเกิดปากเสียงแต่พระอารีเหมือนจะหน้ามืดตามั่วเสียแล้ว ขุนศรีได้พยายามส่งข่าวให้หลวงโกศลรับรู้ จดหมายหลวงโกศลฉบับจริงได้ส่งมาถึงเรณูในช้าววันเดียวกับวันแต่งงานของเธอแต่ไม่ได้ทันเอาไปถึงมือเรณูเพราะตอนนั้นขุนศรีและอำนวยไม่ได้อยู่บ้านพอขุนศรีทราบเรื่องในตอนบ่ายก็สายเสียงแล้ว วันรุ่งขึ้นทั้งคุณพระอารีและเรณูก็ได้ออกเดินทางไปฮันนีมูน คุณพระได้ปฏิบัติดูแลเรณูอย่างดีแต่อย่างว่าในใจเธอไม่เคยลืมหลวงโกศลเลย ความรู้สึกของเธอที่มีต่อพระอารีนั้นออกจะเป็นในเชิงของความเคารพในทำนองพี่ชายมากกว่า แต่เธอก็พยายามที่จะทำตนให้รักพระอารีให้ได้แม้จะต้องใช้เวลาซึ่งไม่รู้ว่านานเท่าไร
หลังกลับมาจากฮันนีมูนเรณูก็ได้รับจดหมายฉบับจริงเมื่อเธอรู้ความจริงจึงเกิดความโศกเศร้าในโชคชะตาของตนและหลวงโกศล เกิดความขับแค้นใจในการกระทำของสามี หลังจากงานแต่งงานเรณูได้เดือนเศษโกศลก็ได้กลับมายังเมืองไทยทั้งสองได้เจอกัน หลวงโกศลได้บอกขุนศรีและเรณูว่าคุณพระอารีได้สารภาพในการกระทำของตนแล้ว และหลวงโกศลก็ได้ให้อภัยแก่เพื่อนที่รักยิ่งของตน แต่ก็อย่างว่ามันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เมื่อเรณูได้ตกไปเป็นของคนอื่นแล้วโกศลจึงได้ออกเดินทางไปตามหัวเมืองต่างๆ
ความสัมพันธ์ระหว่างเรณูกับคุณพระอารีก็แย่ลงเรื่อยๆ พูดง่ายๆคือตั้งแต่เรณูรู้เรื่องเธอแถบไม่ได้พูดคุยกับคุณพระเลยนอกจากเรื่องจำเป็นจริงๆและปฏิบัติตัวไปตามหน้าที่เพียงเท่านั้น คุณพระอารีเริ่มเห็นผลของการกระทำของตน ว่าตนได้แต่ตัวของเธอมาแต่ใจของเธอนั้นยังอยู่ที่หลวงโกศล เมื่อเห็นว่าไม่มีใครรักตนจริงคุณพระจึงหาหลักที่พึ่งใหม่ เลยคิดจะหาเมียใหม่โดยเอาคนที่ต่ำกว่าฐานะของตนจึงเลือกเอานางแม้วสาวใช้ของลัดดา อายุเพียง19 ปี นางสาวแม้วนั้นเดิมรักกันอยู่กับประยูร แต่ด้วยฐานะของประยูรที่จน จึงทำให้ประยูรต้องออกเดินทางไปหางานทำที่หัวเมืองเพื่อยกฐานะของตนเองทั้งสองจึงได้ให้สัญญากันว่าจะรออีกฝ่ายจนกว่าอีกฝ่ายตั้งตัวได้จึงจะกลับมารับไปอยู่ด้วยกัน แต่นั้นแหละนางสาวแม้วเธอไม่ได้มีน้ำอดน้ำทนอะไรมากหนักเมื่อคุณพระเสนอมาเธอหรือจะไม่รับไว้
ในที่สุดข่าวการหย่าร้างของคุณพระอารีและเรณู และข่าวการแต่งงานของคุณพระอารีและนางสาวแม้ว ก็ได้ตีข่าวลงหน้าหนังสือพิมพ์ในวันนั้นเอง เมื่อหลวงโกศลและประยูรได้ทราบข่าวจึงรีบขึ้นมายังพระนครโดยด่วน ประยูรได้เจอนางสาวแม้วก่อนวันแต่งงาน 1 วัน และได้ทวงสัญญาที่ให้ไว้แก่กัน นางสาวแม้วได้ให้เงิน 500 บาทสำหรับเป็นการซื้อสัญญาคืนจากประยูร จนทั้งสองเกิดปากเสียงกันและสุดท้ายประยูรจึงให้คำขาดเพื่อให้นางสาวแม้วเลือกคือ 1. ยกเลิกการแต่งงานและหนีไปกับเขา 2. ถ้านางสาวแม้วตัดสินใจแต่งงานต่อไปก็จะไม่มีชีวิตใช้ต่อหลังจากนี้ จากคำที่เป็นดังเหมือนคำท้าทายดังนี้ นางสาวแม้วเลยตัดสินใจแต่งงานกับคุณพระอารีในที่สุด ในวันแต่งงานวันเดียวกันนั้นเองประยูรได้ลั่นไกปืนใส่นางสาวแม้วและในเวลาต่อมาก็ได้ลั่นไกใส่ตัวเองตามไปติดๆ
ฝั่งหลวงโกศลและเรณูเมื่อเรื่องเลวร้ายได้ผ่านพ้นไปคุณหลวงจึงตัดสินใจขอเรณูแต่งงานใหม่ ตอนแรกเรณูเหมือนจะปฏิเสธแต่ไม่ได้ปฏิเสธเพราะความไม่รัก แต่ปฏิเสธเพราะเธอรู้สึกว่าตัวเธอนั้นเป็นหญิงไม่บริสุทธิ์เสียแล้ว ได้เคยเสียตัวให้ชายอื่นไปแล้วไม่ควรค่าแก่หลวงโกศล แต่คุณหลวงก็หาสนใจสิ่งนั้นเขาสนใจหัวใจหล่อนต่างหาก ซึ่งในหนังสือเขียนไว้ดีมากๆ ดังความต่อไปนี้
“ทำไมเล่ายอดรัก? เราไม่ได้คิดจะเอาความบริสุทธิ์มาแต่งงานกันเลย เราจะเอาหัวใจ-เอาความรัก-ความซื่อสัตย์มาแต่งงานกันต่างหาก” โอยยยพ่อพระเอก😝555 เรณูเธอโชคดีมากๆ หลังแต่งงานทั้งสองก็ได้ให้กำเนิดบุตรชายหน้าตาหน้ารักคนหนึ่ง
ในส่วนของพระอารีพูดได้ว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนั้นทำให้พระอารีรู้สึกอนาจใจเอามากๆ เกิดคิดถึงผลของการกระทำของตนที่แล้วๆมา คิดถึงลัดดาภรรยาผู้ภักดี ปลงตกในวิถีแห่งชีวิตจึงตัดสินใจละทางโลกออกบวช และได้เขียนจดหมายถึงเพื่อนรักอย่างหลวงโกศล โดยให้คุณหลวงรับจัดการมรดก
“โดยบ้านพระอารีจะมอบให้แก่ขุนศรีและลูกๆ เงินในธนาคารส่วนหนึ่งจะให้เป็นของขวัญแก่ลูกชายหลวงโกศลและอีกส่วนแบ่งบริจาคโรงพยาบาลจุฬาลงกรณและแสดงความประสงให้ทำเตียงคนเจ็บหนึ่งเตียงและจารึกไว้ที่หัวเตียงว่า แด่ลัดดาภรรยายอดที่รักของฉัน เพื่อว่าเจ็บไข้ได้ป่วยจะได้อาศัยนอนตายบนเตียงนั้นพอเป็นเครื่องระลึกว่า ถึงแม้เมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ฉันมิสู้ไยดีสักเท่าใดก็จริง แต่ภายหลังที่เธอต้องลาโลกไปแล้วนั้น ความรักความอาลัยกลับงอกงามขึ้นในหัวใจฉัน และได้ฝังแน่นอยู่จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย” อี

โดน็อตนี้กูตาย!!!😭😭😭เขียนดีมากเคารพท่านนักเขียนสุดๆมันตรึงใจมันซาบซึ้งในตัวละครนี้จริงๆ
เอาละพอ555 นี้ก็สปอยเกิน80% ของเรื่องเข้าไปแล้วแต่ขอเถอะใครที่ชอบอ่านงานของศรีบูรพาเรื่องนี้ก็ไม่ควรจะพลาดอย่างแรงเลยโดยรวมสนุกจริง ขอบคุณที่ตั้งใจอ่านจนจบ😘😘
รีวิว มารมนุษย์ ศรีบูรพา
ท่อนนี้แหละที่มันทำให้อยากเขียนรีวิวขึ้นมา5555
ในที่สุดเจ้าของกระทู้ก็ได้กลายเป็นแฟนนิยายของศรีบูรพาไปแล้วจริงๆ😆 จากที่ได้อ่านและเคยเขียนรีวิวเรื่องสงครามชีวิตไปแล้วในช่อง เอาละวันนี้จะมาเขียนรีวิว “มารมนุษย์” กันอีกสักเรื่อง พูดได้ไหมว่าเรื่องนี้ไม่ค่อยจะเป็นกระแสหรือโด่งดังเหมือนกับข้างหลังภาพและสงครามชีวิต แต่บอกได้เลยว่าเนื้อในเรื่องนี้ก็ไม่ได้แพ้เรื่องดังๆพวกนั้นเลย คือมันดีมากบางคนอาจจะมองว่าเป็นนิยายน้ำเน่าแต่คิดว่าถ้าเทียบกับข้างหลังภาพอันนั้นเน่ากว่าอีก เจ้าของกระทู้คิดว่าเรื่องนี้ควรแมสกว่านะ มันสอดแทรกอะไรได้หลายอย่างเลยทั้งสอนในเรื่องความอดทนอดกลั้น มิตรภาพ และค่านิยมแห่งความเสมอภาคของสตรี ควรค่าแก่การอ่านอย่างยิ่ง
(ต่อจากนี้จะสปอยแล้วนะอาจจะยาวสักหน่อยแต่สนุกมากๆ🤭😆)
ตัวละหลักๆฝ่ายชายมีด้วยกัน 3 คน คือ คุณพระอารี หลวงโกศล และขุนศรี ทั้งสามเป็นเพื่อที่รักใคร่กันมาเป็นเวลานานร่วม 10 ปี ส่วนฝ่ายหญิงก็มี ลัดดาเมียพระอารี เรณู และอำนวยเมียขุนศรีและเป็นน้องของหลวงโกศล
หลวงโกศลชายหนุ่มอายุ 28 ปี โสด หน้าตาจัดว่าสวยที่เดียว แต่ด้วยความที่เคยช้ำรักมาแล้วหัวใจเลยด้านชามาเป็นเวลานานไม่ค่อยจะสนใจในเรื่องผู้หญิง ทำให้เพื่อนอย่างขุนศรีและน้องสาวอย่างอำนวยเกิดความคิดที่จะหาเมียให้พี่เขย จึงคิดที่จะให้เรณูหญิงสาวที่สวยหาตัวจำได้อยากคนหนึ่งในพระนครเป็นญาติห่างๆของขุนศรีมาเป็นเมีย จึงคิดวิธีที่จะให้สองคนได้เจอกันและทำความรู้จักกัน หลังจากที่ทั้งสองได้ทำความรู้จักกันและเห็นหน้าข้าตากันแล้ว หลวงโกศลเกิดความรักเรณูขึ้นมาจริงๆ ดังที่ขุนศรีและเมียได้ตั้งใจไว้ หัวใจชายหนุ่มอย่างหลวงโกศลก็ได้กลับมาเบ่งบานอีกครั้งจนเก็บไว้ไม่อยู่ จึงได้นำเรื่องไปเล่าให้เพื่อรักอย่างพระอารีฟัง หนุ่มวัย 34 ปี รูปร่างสง่างามกริยาท่าทางน่ารักดูเป็นคนดีมีศรีเหมาะสมกับตำแหน่งคุณพระและมีทรัพย์สินมากมาย โกศลได้พรรณาถึงความงามของแม่เรณูว่าไม่มีสิ่งใดที่จะบรรยายความงามของหล่อนออกมาได้ จนทำให้พระอารีและลัดดาผู้เป็นเมียเกิดความอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาทันที จึงได้นัดกันที่โรงละครโดยหลวงโกศลนัดให้พระอารีและลัดลามาดูละครเพื่อทำความรู้จักกับเรณู
หลังจากนั้นความรักที่เกิดขึ้นในใจของหลวงโกศลที่มีต่อเรณูก็เพิ่มพูนขึ้นเรื่อยๆจนกระทั่งทั้งสองได้มีโอกาสไปเที่ยวต่างอากาศ หลวงโกศลจึงได้โอกาสบอกความในใจของตนให้เรณูฟัง จนพบว่าเรณูก็มีความรู้สึกเดียวกันกับหลวงโกศล และในเวลาต่อมาก็ได้เป็นที่รู้กันในวงเพื่อนพ้องว่าทั้งสองนั้นเป็นคู่รักกัน จนกระทั่งอุปสรรคได้ก้าวเข้ามาในรูปแบบของงาน เมื่อหลวงโกศลได้รับราชการให้ไปทำงานที่ต่างประเทศเป็นเวลา 12 เดือนหรือ1ปีนั้นและ หลวงโกศลพยายามที่จะบอกเรื่องนี้ให้แก่เรณูแต่สุดท้ายก็ไม่ได้บอก ถึงอังกฤษแล้วจึงได้เขียนจดหมายมาลาแทน เอาตรงๆนะพระเอกเรื่องรู้สึกจะขี้ขลาดไปหน่อยอะไรๆก็กล้วไปหมด แต่ก่อนจะไปต่างประเทศหลวงโกศลได้ฝากเพื่อนๆให้หมั่นไปดูแลเรณูบ้างอะไรบ้างเพื่อไม่ให้เธอเงา แต่ใครจะคิดละเมื่อไฟราคะมันบังเกิดก็เท่ากับได้ฝากเหยื่อไว้กับเสือ ส่วนตัวเสือนั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกเสียจากคุณพระอารีเพื่อรักของหลวงโกศลนั้นเอง
คุณพระอารีได้หมั่นไปเยี่ยมเยือนเรณูอยู่เป็นนิด จนกระทั่งขุนศรีก็ได้งานให้ไปราชการที่หัวเมือง เลยเปิดช่องทางให้ง่ายไปกันใหญ่ กระทั่งลัดดาออกสงสัยในการไปมาหาสู่ของสามีจนคิดว่าสามีอาจะรักคู่รักของเพื่อนสนิทเสียแล้วจึงได้เกิดปากเสียงทะเลาะกัน จริงๆแล้วลัดดาก็แอบระแคะระคายนิสัยเจ้าชู้ของสามีมาสักพักแล้วตอนที่คุณพระแอบแต๊ะอั๋งนางแม้วสาวใช้คนสนิทของนางเอง จริงๆแล้วคุณพระอารีกับลัดดาแต่งานกันมาเข้าปีที่5-6แล้วและทั้งสองยังไม่มีบุตร คุณพระทำหน้าที่สามีที่ดีมาตลอดไม่เคยมีเล็กมีน้อยมาก่อนพูดได้ว่าเป็นคนดีพร้อมจริงๆ ส่วนลัดดาก็ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีในสายของสามีเธอเป็นคนสวยพอตัว และในสายตาของเรณูมองว่าลัดดาเรียบร้อยอยู่ในโอวาทของสามี แต่ในความเห็นเจ้าของกระทู้ลัดดาถือว่าเป็นคนที่กล้าคนหนึ่งถ้าเทียบกับหญิงยุคนั้นเธอกล้าต่อปากต่อคำกล้าพูดความรู้สึกจริงๆและกล้าเถียงสามีซึ่งผู้หญิงในยุคนั้นน้อยนักที่จะทำ พักหลังๆจากที่คุณพระอารีได้เจอเรณูเหมือนนิสัยใจคอจะเริ่มเปลี่ยนไป คุณพระอารีเริ่มมีความเสน่หาในตัวเรณูเอามากๆ เริ่มอยากได้และเอาชัยชนะจนต้องทะเลาะกับลัดดาเป็นการใหญ่ โดยลัดดาได้เตือนสามีให้คิดดีๆการที่จะไปแย่งของรักของเพื่อนสนิทอาจทำให้มิตรภาพของเพื่อนกับตนต้องจบกันในที่สุด แต่คุณพระก็หาฟังภรรยาไม่ ทำให้ภรรยาต้องตรอมใจและดับชีวิตไปในที่สุด โดยคำอาลัยสุดท้ายที่เธอให้แก่สามีคือ “ขออโหสิ—ไม่เอาเวรเอากรรมแก่กัน—ดิฉันยังรักคุณอยู่เสมอ“ ถือได้ว่าพระอารีได้ฆ่าหญิงผู้รักตนดังดวงใจได้อย่างเลือดเย็น ทำให้เกิดตราบาปแรกที่ประทับหัวใจของพระอารี
หลังจากภรรยาเสียชีวิตไม่กี่เดือนไฟราคะที่กำลังลุกโหมได้สำแดงให้คุณพระอารีกระทำสิ่งที่ชั่วช้าโดยการปลอมจดหมายหลวงโกศลที่มีมาถึงเรณู ทำให้เกิดความเข้าใจผิดคิดว่าหลวงโกศกได้ตัดใจจากเรณูและปล่อยให้เธอเป็นอิสระเสีย ความเข้าใจผิดอันนี้ทำให้เรณูน้อยอกน้อยใจมากเลยประชัดโดยการตอบตลกแต่งานกับพระอารี ภายหลังที่ขุนศรีได้กลับจากราชการมาแล้วและได้รับรู้เรื่องราวจากอำนวย จึงได้บุกไปเคลียร์กับพระอารีจนเกิดปากเสียงแต่พระอารีเหมือนจะหน้ามืดตามั่วเสียแล้ว ขุนศรีได้พยายามส่งข่าวให้หลวงโกศลรับรู้ จดหมายหลวงโกศลฉบับจริงได้ส่งมาถึงเรณูในช้าววันเดียวกับวันแต่งงานของเธอแต่ไม่ได้ทันเอาไปถึงมือเรณูเพราะตอนนั้นขุนศรีและอำนวยไม่ได้อยู่บ้านพอขุนศรีทราบเรื่องในตอนบ่ายก็สายเสียงแล้ว วันรุ่งขึ้นทั้งคุณพระอารีและเรณูก็ได้ออกเดินทางไปฮันนีมูน คุณพระได้ปฏิบัติดูแลเรณูอย่างดีแต่อย่างว่าในใจเธอไม่เคยลืมหลวงโกศลเลย ความรู้สึกของเธอที่มีต่อพระอารีนั้นออกจะเป็นในเชิงของความเคารพในทำนองพี่ชายมากกว่า แต่เธอก็พยายามที่จะทำตนให้รักพระอารีให้ได้แม้จะต้องใช้เวลาซึ่งไม่รู้ว่านานเท่าไร
หลังกลับมาจากฮันนีมูนเรณูก็ได้รับจดหมายฉบับจริงเมื่อเธอรู้ความจริงจึงเกิดความโศกเศร้าในโชคชะตาของตนและหลวงโกศล เกิดความขับแค้นใจในการกระทำของสามี หลังจากงานแต่งงานเรณูได้เดือนเศษโกศลก็ได้กลับมายังเมืองไทยทั้งสองได้เจอกัน หลวงโกศลได้บอกขุนศรีและเรณูว่าคุณพระอารีได้สารภาพในการกระทำของตนแล้ว และหลวงโกศลก็ได้ให้อภัยแก่เพื่อนที่รักยิ่งของตน แต่ก็อย่างว่ามันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว เมื่อเรณูได้ตกไปเป็นของคนอื่นแล้วโกศลจึงได้ออกเดินทางไปตามหัวเมืองต่างๆ
ความสัมพันธ์ระหว่างเรณูกับคุณพระอารีก็แย่ลงเรื่อยๆ พูดง่ายๆคือตั้งแต่เรณูรู้เรื่องเธอแถบไม่ได้พูดคุยกับคุณพระเลยนอกจากเรื่องจำเป็นจริงๆและปฏิบัติตัวไปตามหน้าที่เพียงเท่านั้น คุณพระอารีเริ่มเห็นผลของการกระทำของตน ว่าตนได้แต่ตัวของเธอมาแต่ใจของเธอนั้นยังอยู่ที่หลวงโกศล เมื่อเห็นว่าไม่มีใครรักตนจริงคุณพระจึงหาหลักที่พึ่งใหม่ เลยคิดจะหาเมียใหม่โดยเอาคนที่ต่ำกว่าฐานะของตนจึงเลือกเอานางแม้วสาวใช้ของลัดดา อายุเพียง19 ปี นางสาวแม้วนั้นเดิมรักกันอยู่กับประยูร แต่ด้วยฐานะของประยูรที่จน จึงทำให้ประยูรต้องออกเดินทางไปหางานทำที่หัวเมืองเพื่อยกฐานะของตนเองทั้งสองจึงได้ให้สัญญากันว่าจะรออีกฝ่ายจนกว่าอีกฝ่ายตั้งตัวได้จึงจะกลับมารับไปอยู่ด้วยกัน แต่นั้นแหละนางสาวแม้วเธอไม่ได้มีน้ำอดน้ำทนอะไรมากหนักเมื่อคุณพระเสนอมาเธอหรือจะไม่รับไว้
ในที่สุดข่าวการหย่าร้างของคุณพระอารีและเรณู และข่าวการแต่งงานของคุณพระอารีและนางสาวแม้ว ก็ได้ตีข่าวลงหน้าหนังสือพิมพ์ในวันนั้นเอง เมื่อหลวงโกศลและประยูรได้ทราบข่าวจึงรีบขึ้นมายังพระนครโดยด่วน ประยูรได้เจอนางสาวแม้วก่อนวันแต่งงาน 1 วัน และได้ทวงสัญญาที่ให้ไว้แก่กัน นางสาวแม้วได้ให้เงิน 500 บาทสำหรับเป็นการซื้อสัญญาคืนจากประยูร จนทั้งสองเกิดปากเสียงกันและสุดท้ายประยูรจึงให้คำขาดเพื่อให้นางสาวแม้วเลือกคือ 1. ยกเลิกการแต่งงานและหนีไปกับเขา 2. ถ้านางสาวแม้วตัดสินใจแต่งงานต่อไปก็จะไม่มีชีวิตใช้ต่อหลังจากนี้ จากคำที่เป็นดังเหมือนคำท้าทายดังนี้ นางสาวแม้วเลยตัดสินใจแต่งงานกับคุณพระอารีในที่สุด ในวันแต่งงานวันเดียวกันนั้นเองประยูรได้ลั่นไกปืนใส่นางสาวแม้วและในเวลาต่อมาก็ได้ลั่นไกใส่ตัวเองตามไปติดๆ
ฝั่งหลวงโกศลและเรณูเมื่อเรื่องเลวร้ายได้ผ่านพ้นไปคุณหลวงจึงตัดสินใจขอเรณูแต่งงานใหม่ ตอนแรกเรณูเหมือนจะปฏิเสธแต่ไม่ได้ปฏิเสธเพราะความไม่รัก แต่ปฏิเสธเพราะเธอรู้สึกว่าตัวเธอนั้นเป็นหญิงไม่บริสุทธิ์เสียแล้ว ได้เคยเสียตัวให้ชายอื่นไปแล้วไม่ควรค่าแก่หลวงโกศล แต่คุณหลวงก็หาสนใจสิ่งนั้นเขาสนใจหัวใจหล่อนต่างหาก ซึ่งในหนังสือเขียนไว้ดีมากๆ ดังความต่อไปนี้ “ทำไมเล่ายอดรัก? เราไม่ได้คิดจะเอาความบริสุทธิ์มาแต่งงานกันเลย เราจะเอาหัวใจ-เอาความรัก-ความซื่อสัตย์มาแต่งงานกันต่างหาก” โอยยยพ่อพระเอก😝555 เรณูเธอโชคดีมากๆ หลังแต่งงานทั้งสองก็ได้ให้กำเนิดบุตรชายหน้าตาหน้ารักคนหนึ่ง
ในส่วนของพระอารีพูดได้ว่าจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนั้นทำให้พระอารีรู้สึกอนาจใจเอามากๆ เกิดคิดถึงผลของการกระทำของตนที่แล้วๆมา คิดถึงลัดดาภรรยาผู้ภักดี ปลงตกในวิถีแห่งชีวิตจึงตัดสินใจละทางโลกออกบวช และได้เขียนจดหมายถึงเพื่อนรักอย่างหลวงโกศล โดยให้คุณหลวงรับจัดการมรดก “โดยบ้านพระอารีจะมอบให้แก่ขุนศรีและลูกๆ เงินในธนาคารส่วนหนึ่งจะให้เป็นของขวัญแก่ลูกชายหลวงโกศลและอีกส่วนแบ่งบริจาคโรงพยาบาลจุฬาลงกรณและแสดงความประสงให้ทำเตียงคนเจ็บหนึ่งเตียงและจารึกไว้ที่หัวเตียงว่า แด่ลัดดาภรรยายอดที่รักของฉัน เพื่อว่าเจ็บไข้ได้ป่วยจะได้อาศัยนอนตายบนเตียงนั้นพอเป็นเครื่องระลึกว่า ถึงแม้เมื่อเธอยังมีชีวิตอยู่ฉันมิสู้ไยดีสักเท่าใดก็จริง แต่ภายหลังที่เธอต้องลาโลกไปแล้วนั้น ความรักความอาลัยกลับงอกงามขึ้นในหัวใจฉัน และได้ฝังแน่นอยู่จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย” อี
เอาละพอ555 นี้ก็สปอยเกิน80% ของเรื่องเข้าไปแล้วแต่ขอเถอะใครที่ชอบอ่านงานของศรีบูรพาเรื่องนี้ก็ไม่ควรจะพลาดอย่างแรงเลยโดยรวมสนุกจริง ขอบคุณที่ตั้งใจอ่านจนจบ😘😘