นิทานแห่งเงินเฟ้อ: เมื่อแผนอนาคตเป็นแค่ภาพลวงตา (มุมมองออสเตรียน)

📜 นิทานแห่งเงินเฟ้อ: เมื่อแผนอนาคตเป็นแค่ภาพลวงตา (มุมมองออสเตรียน)

  ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ในอาณาจักรที่มีชื่อว่า 'เศรษฐกิจ' ประชาชนใช้เครื่องมือที่เรียกว่า "เงิน" ในการแลกเปลี่ยนสินค้าและบริการ
  เงินในยุคนั้นเปรียบเสมือน "กระจกสะท้อนการทำงานและเวลาที่ออมไว้" ทุกคนสามารถมองเข้าไปในกระจกนี้และเห็นภาพอนาคตของตัวเองได้อย่างชัดเจน
ถ้าคุณเป็น ช่างไม้ที่ขยันขันแข็ง คุณจะสามารถคำนวณได้ว่า: "ถ้าฉันออมเงิน X ก้อนในวันนี้ อีก 20 ปีข้างหน้า เงินก้อนนี้จะสามารถซื้อไม้มาสร้างบ้านหลังเล็ก ๆ ให้ลูกได้อย่างแน่นอน"
นั่นเป็นเพราะ ปริมาณเงินนั้นมั่นคง เงินทุกบาทที่คุณถืออยู่จึงมีพลังในการซื้อที่สม่ำเสมอ มันเป็นเครื่องมือในการ "สื่อสารความต้องการ" และ "วางแผนระยะยาว" ที่สมบูรณ์แบบที่สุด
  บทที่ 1: เมื่อผู้เฝ้าคลังมีอำนาจวิเศษ
ต่อมา... เหล่า "ผู้เฝ้าคลัง" (ธนาคารกลางและรัฐบาล) ได้รับอำนาจวิเศษในการสร้างเงินขึ้นมาใหม่ได้ตามต้องการ โดยไม่มีการจำกัดด้วยทองคำหรือการผลิตจริง
ผู้เฝ้าคลังบอกประชาชนว่า: "เราจะใช้พลังนี้อย่างระมัดระวัง เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและทำให้ทุกคนมีความสุข!"
ทันทีที่เงินใหม่ถูกสร้างขึ้น มันไม่ได้กระจายไปหาทุกคนพร้อมกัน แต่มันไหลไปสู่กลุ่มคนใกล้ชิดกับผู้เฝ้าคลังก่อน (กลุ่มนี้มักเป็นผู้ลงทุนรายใหญ่หรือผู้ที่ได้รับสัญญากับรัฐ)
💰 สิ่งนี้คือ "เงินเฟ้อ" ในมุมมองออสเตรียน: การเพิ่มปริมาณเงินในระบบ!
  บทที่ 2: กระจกที่บิดเบือน
เมื่อเงินใหม่ไหลเข้าสู่ระบบอย่างต่อเนื่อง มันเริ่มทำลาย "กระจกสะท้อนอนาคต" ที่เคยใสสะอาดให้เริ่มบิดเบือน
ราคา ซึ่งเคยเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าควรออมหรือลงทุนอะไร กลายเป็นสัญญาณหลอก
คุณเห็นราคาสินค้าเกษตรพุ่งสูงขึ้น—คุณไม่รู้ว่าคนต้องการอาหารมากขึ้นจริง ๆ หรือแค่เป็นผลพวงจากเงินเฟ้อที่รัฐพิมพ์ออกมา?
การออม กลายเป็นเรื่องไร้สาระ
คุณย่า ออมเงินอย่างขยันขันแข็งมาตลอดชีวิต แต่เมื่อเปิดกระปุกออมสิน เงิน 1,000,000 ที่เคยฝันว่าจะซื้อที่ดินได้ กลับซื้อได้เพียงรถจักรยานยนต์คันเดียว
เศรษฐีใหม่ ที่กู้เงินเยอะ ๆ และซื้อของแพงทันที กลับกลายเป็นผู้ชนะ เพราะหนี้ของเขาถูกเงินเฟ้อลดค่าลงไปเรื่อย ๆ
ช่างไม้ ที่เคยคำนวณอนาคตของลูกได้อย่างแม่นยำ เริ่มสับสน เขามองเข้าไปในกระจก แต่ภาพ 20 ปีข้างหน้ามันสั่นไหวและพร่าเลือน: "ฉันต้องเก็บเงินเท่าไหร่กันแน่? X หรือ 3X หรือ 5X? ถ้าผู้เฝ้าคลังตัดสินใจพิมพ์เพิ่มอีกพรุ่งนี้ ทุกการคำนวณของฉันก็จะผิดหมด!"
  บทที่ 3: สิ้นสุดการมองการณ์ไกล
เมื่อใดก็ตามที่เงินขาดความมั่นคงและรัฐสามารถเปลี่ยนกติกาการเงินได้ตลอดเวลา ประชาชนก็จะไม่สามารถ "วางแผนและมองการณ์ไกล" ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
พวกเขาถูกผลักดันให้:
บริโภควันนี้: ใช้เงินทันทีเพื่อหนีจากการสูญเสียมูลค่า
ลงทุนแบบฉาบฉวย: ซื้อสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนเร็วที่สุดเพื่อเอาชนะเงินเฟ้อ แทนที่จะสร้างธุรกิจที่มั่นคง
กลัวอนาคต: เพราะการออมในสกุลเงินที่รัฐควบคุมได้ง่ายนั้นเป็นความเสี่ยง
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า: เมื่อใดที่เงินของเราอยู่ภายใต้การควบคุมของใครคนใดคนหนึ่งที่สามารถ "เพิ่ม" มันได้โดยไม่มีต้นทุน การควบคุมนั้นไม่ได้หยุดอยู่แค่ที่ตัวเงิน แต่มันขยายไปถึงความสามารถในการวางแผนชีวิตและกำหนดอนาคตของประชาชนทุกคนด้วยเช่นกัน
ถ้าคุณเป็นคนในอาณาจักรนี้ คุณจะเลือกออมเงินในรูปแบบใด เมื่อรู้ว่าผู้เฝ้าคลังสามารถใช้พลังวิเศษนี้ได้ตลอดเวลา?

#soundmoneyzap #siamstr #bitcoin

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่