มะเร็งใกล้ตัวกว่าที่คิด เมื่อเพื่อนฉันเป็นมะเร็งปอด ตอน3

:  เริ่มการรักษามะเร็งที่โรงพยาบาลมะเร็งชีวามิตรา
หลังจากที่เราเล่าไปก่อนหน้านี้ เพื่อนสนิทของเราที่ตรวจพบว่าตัวเองเป็น “มะเร็งปอด” ก็ตัดสินใจแล้วว่าจะมารักษาที่โรงพยาบาลมะเร็งชีวามิตรา จังหวัดอุบลราชธานี จริง ๆ กว่ามาถึงจุดนี้ เพื่อนใช้เวลาเปรียบเทียบข้อมูลโรงพยาบาลต่าง ๆ อยู่พักใหญ่ จนมั่นใจว่า ที่นี่แหละ “ใช่” เพราะก่อนมาก็มีโอกาสวิดีโอคุยกับคุณหมอมาก่อนแล้ว ทำให้เพื่อนเราอุ่นใจขึ้นเยอะ


 

 

 

 


เราเดินทางด้วยไฟลท์เช้า AirAsia ไปอุบลฯ ทันทีที่ก้าวออกจากสนามบิน รถตู้โรงพยาบาลก็มารอรับอยู่แล้วตอนนั่งเครื่องมาก็ยังแซวเพื่อนเลยว่า “ไม่รู้รถที่มารับจะเป็นยังไงนะ” สุดท้ายกลายเป็นว่ารถตู้ของที่นี่ดูดี นั่งสบายกว่าที่คิด จนเรารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคุณนายไปเลย ที่สำคัญนี่คือบริการฟรีของโรงพยาบาล สำหรับผู้ป่วยที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด—ใส่ใจตั้งแต่ก้าวแรกจริง 



 
 


นั่งรถไม่ถึง 15 นาทีก็มาถึงโรงพยาบาล รู้สึกได้เลยว่านี่ไม่ใช่แค่ “สถานที่รักษา” แต่มันเหมือนพื้นที่ปลอดภัยสำหรับคนไข้ บรรยากาศสงบ มีสวน มีต้นไม้ แถมสะอาดมาก เหมาะกับการพักฟื้นทั้งกายทั้งใจจริงๆ







ก่อนมา คุณหมอกำชับว่าให้งดน้ำงดอาหารไว้  6  ชั่วโมง เผื่อถ้าดูผลแล้วต้องตรวจเพิ่ม จะได้ตรวจได้เลย จะได้ไม่เสียเวลา
พอถึง รพ. ก็แจ้งชื่อที่เวชระเบียน ไม่นานคุณหมอก็เรียกเข้าพบเลย เป็นคุณหมอธนุตม์ ก้วยเจริญพานิชก์หรือ “คุณหมอก๊วย” ซึ่งก็เป็นคุณหมอท่านเดียวกับที่คุยผ่านวิดีโอก่อนหน้านี้  ความรู้สึกเหมือนเจอคนคุ้นเคย ทำให้เพื่อนมั่นใจขึ้นอีกขั้น




 

 

 


และก็ตามคาด…คุณหมอก๊วยแนะนำให้ทำ CT Scan ซ้ำ เพราะผลตรวจเดิมผ่านมาสักพักแล้ว อาจมีการเปลี่ยนแปลง การตรวจใหม่จะช่วยให้วางแผนรักษาได้แม่นยำขึ้น และที่ประทับใจมากคือ ผลออกภายในวันเดียว รวดเร็วทันใจมากๆ  ไม่ต้องมานั่งเครียดรอข้ามวันข้ามคืน นอนไม่หลับ เผลอๆ จิตตกยิ่งกว่าเดิมอีก เมื่อผลออกแล้ว คุณหมอก๊วยก็อธิบายแผนการรักษาอย่างละเอียด ใจเย็น และตอบทุกคำถามแบบเคลียร์ และชัดเจนมากๆ และให้เริ่มการรักษาวันพรุ่งนี้เลย  คุณหมอบอกว่า  ยิ่งรักษาเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี  ไม่ควรทิ้งเวลาไว้นาน  ที่สำคัญรพ.นี้ไม่ต้องรอคิวในการรักษา เริ่มการรักษาได้ทันทีเลย 
....อีกนิดระหว่างรอผลตรวจ ด้วยความที่เพื่อนเรากังวลมากๆ เลยขอให้คุณหมอพาพวกเราดูอุปกรณ์เทคโนโลยีของรพ.  ที่จะใช้ในการวินิจฉัยและรักษาเพื่อนของเราเพื่อความสบายใจ เราจึงขออนุญาคคุณหมอถ่ายรูปมาฝากเพื่อนๆ 
อย่างอุปกรณ์แรกที่เพื่อนเพิ่งเข้าตรวจ  ก็คือ เครื่อง CT SCAN ตอนเห็นครั้งแรกนี่แอบรู้สึกเหมือนกำลังอยู่ในฉากหนังวิทยาศาสตร์เลย ทั้งตัวเครื่องที่ล้ำสมัย เรางี้แบบตื่นตาตื่นใจมาก





2. เครื่องฉายแสง ของจริงนี่ใหญ่กว่าที่เราคิดไว้เยอะมาก พอเดินเข้าไปในห้องก็เจออากาศเย็นเฉียบจนต้องกอดแขนตัวเองไว้แน่น คุณหมอเล่าให้ฟังว่าทุกเครื่องต้องเปิดแอร์แรง ๆ ตลอดเวลาเพื่อให้ระบบทำงานได้อย่างเสถียร และที่น่าสนใจก็คือ เวลาฉายแสงให้คนไข้แต่ละคน โรงพยาบาลจะทำ “บล็อกเฉพาะบุคคล” ขึ้นมา เพื่อใช้กำหนดทิศทางของลำแสงให้ตรงเป๊ะที่สุด ไม่โดนส่วนอื่น ๆ ของร่างกายที่ไม่เกี่ยวข้องเพื่อนเราก็กำลังจะได้บล็อกเป็นของตัวเองเหมือนกัน เพื่อใช้ในขั้นตอนการรักษาต่อไป
 

 

 

 
 

 

 

3. แล้วก็ยังมีอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่น่าสนใจมากคือ เครื่อง Hyperthermia ซึ่งใช้อุณหภูมิที่สูงในการสู้กับเซลล์มะเร็ง ตัวเครื่องรูปร่างคล้ายจานบิน ดูล้ำจนเราหัวเราะเบา ๆ ว่าเหมือนอยู่ในหนังไซไฟ






พอวันต่อมา รถตู้ของโรงพยาบาลก็มารับที่โรงแรม (คืนแรกเราตั้งใจพักที่โรงแรม เพราะไม่อยากให้เพื่อนกดดันเกินไป) พอถึง รพ. พยาบาลก็ดูแลตั้งแต่เริ่มฉีดยาแก้แพ้ ก่อนให้คีโมเข็มแรก ทุกขั้นตอนถูกอธิบายอย่างนุ่มนวล ไม่รีบ ไม่เร่ง จนเพื่อนรู้สึกผ่อนคลายมาก สิ่งที่ติดใจเราคือคำพูดพยาบาลคนหนึ่งว่า  “หมอจะใช้เวลาคุยกับคุณอย่างเต็มที่นะคะ ถ้ามีอะไรอยากถาม อย่าเก็บไว้ ถามได้ทุกเรื่องเลยค่ะ”  แค่ประโยคนี้ก็ทำให้รู้เลยว่า การเลือกโรงพยาบาลครั้งนี้ไม่ผิดเลยจริงๆ
แล้วห้องที่ให้คีโม  มีทั้งเตียงพักและโซฟานุ่มๆ ที่ระบบไฮโดรลิคให้คนไข้ยืนได้อย่างมั่นคง มีพาทิชั่นกั้นเป็นสัดส่วนไม่ต้องนั่งมองหน้าไปมา มีที่ชาร์ตแบตและมองออกไปเป็นวิวสวน  วิวดีมากกก  รพ.เขาคิดมาเพื่อผู้ป่วยจริงๆ





 

 


ระหว่างเพื่อนให้คีโม เราแอบออกมาเดินเล่น และไปเจอร้านกาแฟชื่อเก๋มาก “กระทิงเขียว” ฟังครั้งแรกก็งงว่าทำไมต้องชื่อแบบนี้ พนักงานเล่าให้ฟังว่าได้แรงบันดาลใจจากคำว่า “Green Bull” ในตลาดหุ้น หมายถึงหุ้นที่กำลังวิ่งขึ้น ฟังแล้วรู้สึกฮึกเหิมแปลก ๆ กาแฟก็อร่อย บรรยากาศก็ดี จนกลายเป็นมุมสงบของเราไปเลย




 


และหลังจากนี้ คุณหมอจะเริ่มขั้นตอนการฉายแสง ซึ่งเข้มข้นขึ้นอีก   เรากำลังมองหาที่พักระยะสั้นใกล้โรงพยาบาล เพราะไม่อยากให้เพื่อนต้องบินบ่อยๆ ประหยัดค่าเดินทาง และให้ร่ายกายเขาได้พักฟื้นจริงๆ  โรงพยาบาลเองก็มีลิสต์ที่พักที่แนะนำมาให้เลือกด้วย ใส่ใจในรายละเอียดมาก ๆ
นี่คือก้าวแรกของเส้นทางการรักษามะเร็งปอดของเพื่อนเรา ไม่มีใครรู้ว่าจะจบยังไง แต่สิ่งที่มั่นใจแน่นอนคือ... ถ้าวันหนึ่งคุณหรือคนที่คุณรักต้องเผชิญกับโรคนี้ และกำลังมองหาสถานที่ที่ “เข้าใจหัวใจคนไข้” มีเทคโนโลยีที่ทันสมัย และทีมแพทย์ที่พร้อมให้เวลาอย่างจริงใจ — โรงพยาบาลชีวามิตรา คือตัวเลือกที่ดีของผู้ป่วยโรคมะเร็ง
 

สุดท้าย… “มะเร็งไม่ใช่จุดจบเสมอไป” แค่เราเจอทีมแพทย์ที่ใช่ และรู้ว่า...เราไม่ได้สู้เพียงลำพัง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่