คืนที่ผมเจอผียุง–ผีแมลงวัน–ผีมด–ผีไก่–ผีเป็ด–ผีหมู–ผีวัว ในคืนเดียว…

ผมกลับบ้านต่างจังหวัดแค่ตั้งใจจะไปนอนพัก
แต่ไม่คิดเลยว่าคืนนั้นจะเป็นคืนที่ทำให้ผม ไม่กล้าปิดไฟ มาจนถึงทุกวันนี้

🌑 ตีหนึ่ง – เรื่องเริ่มต้นจาก “กลิ่นบางอย่าง”
ผมนอนเล่นมือถือในห้องมืด ๆ
ตอนนั้นเพิ่งฉีดสเปรย์กันยุงที่ผมพกติดตัวอยู่ทุกที (อะไรที่ผมใช้จนคุ้นมือมันก็หยิบแบบไม่คิดอะนะ)
กลิ่นเย็น ๆ มันโชยอยู่ในห้อง
ยังไม่ทันจะทำอะไร เสียง “หืนนนนนน…” ดังแหวกหูทันที
ยุงตัวนั้นบินผ่านแสงจากหน้าจอ…
ปีกมันกว้างเท่านิ้วก้อย
ท้องมันยาวเหมือนมีกระดูกเพิ่ม
เหมือนมันกำลัง “มอง” ผมในแสงจอมือถือ
และมันหายไปแบบปิดสวิตช์
ผมนิ่งไปหลายวินาที…

🌑 ตีหนึ่งครึ่ง – ผีแมลงวันเคาะกระจก
เสียง ตึง…ตึง…ตึง ดังจากหน้าต่าง
พอเดินไปดู มีแมลงวันตัวใหญ่ผิดปกติ เท่าหัวนิ้วโป้ง กระแทกกระจกจนสั่น
ดวงตาแดงเข้ม เหมือนสะท้อนแสงไฟเดียวในห้อง
ผมได้ยินเหมือนเสียงกระซิบในหัวว่า
“ให้…เข้า…ไป…”
ผมนั่งตัวแข็ง เหงื่อเริ่มซึม ทั้งที่อากาศเย็น
กลิ่นสเปรย์กันยุงยังลอยอ่อน ๆ อยู่ในห้อง
แต่กลับยิ่งทำให้บรรยากาศรู้สึกแปลกหนักขึ้น เหมือนกลิ่นมันขัดกับ “สิ่งที่อยู่ข้างนอก”

🌑 ตีสอง – ผีมดที่เห็นเฉพาะในความมืด
ผมล้มตัวลงนอนแบบหมดแรง
พอปิดไฟ…
มดดำเป็นร้อยตัว ไต่ขึ้นขาเตียงพร้อมกัน
เปิดไฟ…หาย
ปิดไฟ…มาอีก
มดตัวหนึ่ง ยืนตั้งตรงปลายเตียง เหมือนจ้องผม
ผมรู้สึกเหมือนมันกำลัง “ดม” กลิ่นจากตัวผม
กลิ่นเดียวกับสเปรย์กันยุงที่ผมเพิ่งใช้ไปเมื่อกี้นั่นแหละ
ตอนนั้นรู้สึกขนลุกแบบอธิบายไม่ถูก
เหมือนสิ่งที่อยู่ในห้อง “ไม่ชอบกลิ่นนี้” เอาเสียเลย

🌑 ตีสาม – ผีไก่ที่ร้องผิดเสียง
ผมได้ยินเสียงไก่ร้องจากเล้าเก่านอกบ้าน
แต่เสียงมันไม่ใช่เสียงไก่
มันเหมือนเสียงคนพยายามทำเสียงไก่แบบผิดจังหวะ
“เอ้ก…อี้…กกกก…”
ผมมองลงไป
เห็นไก่ที่คอยาวกว่าปกติสองเท่า หัวเอียงเกือบแตะพื้น
มันเดินเหมือนขาหัก
แล้วกระตุกหัวเหมือนหักคอซ้ำ ๆ
ในหัวผมมีแค่ความคิดเดียว
“ไม่น่าฉีดสเปรย์นี่เลยว่ะ…”
มันเหมือนทุกอย่างเริ่มหลังจากผมฉีดกลิ่นนั้นไม่นานด้วยซ้ำ

🌑 ตีสามครึ่ง – ผีเป็ดในบ่อน้ำ
เสียงน้ำดัง ป๊าบ ผมส่องไฟไป
เห็นเป็ดขาวว่ายวนเป็นวง
หัวมันจุ่มน้ำช้า ๆ
ทุกครั้งที่มันจุ่มลงจะมีเสียงคนร้องไห้ออกมาเบา ๆ
ผมยืนนิ่งจนขาเกร็ง
สายลมพัดมาหนึ่งเฮือก เฮือกเดียว…
กลิ่นสเปรย์กันยุงจากตัวผมลอยออกไป
และเป็ดนั่นก็หันขวับมาทางผมทันที
ทั้งที่ผมไม่ได้ขยับเลย

🌑 ตีสี่ – ผีหมูใต้ถุน
เสียง ครืด…ครืด…ครืด ดังใต้พื้น
เหมือนมีอะไรไม่มีขา ใช้ท้องลากพื้นเข้ามา
ผมก้มดูช้า ๆ
เห็นหมูไม่มีขา เนื้อถลกเป็นปื้น ๆ
ยิ้มกว้าง เหมือนเจอของที่มันอยากเจอ
และกลิ่นเดียวที่อยู่รอบตัวผมตอนนั้น
คือกลิ่นสเปรย์ที่เริ่มจางลง
หมูนั้นชะงักเหมือน “ดมอากาศ”
ก่อนมันจะยิ้มกว้างกว่าเดิม…
ราวกับกลิ่นอ่อน ๆ นั่น ดึงดูดมันมากกว่าไล่
ผมวิ่งกลับขึ้นบ้านแทบล้ม

🌑 ตีสี่ครึ่ง – ผีวัวตัวสุดท้าย
เสียงกระดิ่งวัวดัง กริ๊ง…กริ๊ง… จากทุ่งนา
ทั้งที่บ้านไม่ได้เลี้ยงวัวมาเป็นสิบปีแล้ว
วัวผอมจนเห็นกระดูกทะลุเนื้อ ดวงตาว่างเปล่าแต่กระพริบได้
มันเดินเข้ามาทีละก้าว
พื้นสั่นเหมือนมีคนเดินมาร้อยคนพร้อมกัน
กลิ่นสเปรย์จางลงจนแทบไม่เหลือ
วัวหยุดแล้วเงยหน้า
เหมือนมันรอให้กลิ่นหายสนิทก่อนจะ “เริ่ม”
และมันพูด…
“กลับมา…เลี้ยง…เรา…”
เสียงเหมือนคนแก่กระซิบติดหู
แต่ยานยาวแบบไม่ใช่เสียงคน
ผมรีบปิดประตู ขังตัวเองจนเช้า

🌕 เช้า – ทุกอย่างหาย ยกเว้นสิ่งเดียว…
พอเช้า ไม่มีร่องรอยสัตว์ใด ๆ
ไม่มีเสียง ไม่มีคราบ ไม่มีอะไรทั้งนั้น
แต่สิ่งหนึ่ง…ที่ผมจำได้แม่นคือ
ตอนผมเก็บของกลับกรุงเทพ
ฉีดสเปรย์ตัวเดิมที่ผมใช้เมื่อคืน
ปรากฏว่า…
มันไม่มีกลิ่นอะไรออกมาเลย
ทั้งที่กระป๋องยังหนักเหมือนมีของอยู่เต็ม
ผมไม่รู้ว่ากลิ่นเมื่อคืนมันคืออะไร
และทำไมมันทำให้ “ทุกสิ่ง” เข้ามาเจอผมพร้อมกันแบบนั้น
แต่ตั้งแต่วันนั้น…ผมไม่เคยใช้มันอีกเลยจริง ๆ

ถ้าใครเคยเจอสัตว์ที่ “เหมือนไม่ใช่สัตว์” แบบผม
อยากฟังประสบการณ์มากครับ
ผมยังรู้สึกว่ากลิ่นบางอย่างในคืนนั้น…มันไม่ใช่ของที่มนุษย์ควรจะได้เจอเลยจริง ๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่