ขอแทนตัวเองว่าหนูแล้วกันนะคะ หนูเป็นเด็กจบใหม่ เริ่มงานในฐานะเซลล์ ทำงานไปได้ 3 เดือน โดนแจ้งว่าไม่ผ่านโปร ทางบริษัทแจ้งล่วงหน้า 1 เดือน ยอมรับว่าตกใจมาก ที่โดนแจ้งว่าไม่ผ่านโปร เหตุผลที่ไม่ผ่านโปรคือ ทางบริษัทต้องการคนพร้อมใช้งาน แบบทำงานเป็นเลย ซึ่งทางบริษัทพิจาราณาแล้วว่า น้องไม่พร้อมใช้งาน จะทำงานวันสุดท้ายวันไหนให้แจ้ง ทาง HR ตอนนั้น เราตกใจมาก บวกกับเสียใจ เหมือนฟ้าผ่ากลางหัว คิดอะไรไม่ออก เดินออกจากห้องประชุมมาก็เข้าไปร้องไห้ในห้องน้ำแต่ก็ทำส่งต่องานและได้รับเงินเดือนก้อนสุดท้ายค่ะ หลังจากนั้นกลับบ้าน พร้อมกับ สอบTOEIC ใหม่เอาไปสมัครงานที่ใหม่ (อัพคะแนนค่ะ) แต่ตอนนี้มองย้อนกลับไป ก็คิดว่า น่าจะไม่เหมาะกับฝ่ายขายจริงๆค่ะ ทำงานแล้วเครียดค่ะ ไม่มีความสุข
ที่ทำงานที่สอง เจ้าหน้าที่ long-in สิ่งของทดลอง ออกใบประกาศ แรกๆก็เหมือนจะดีนะคะ แต่ว่า เราทำผิดพลาดบ่อย แต่เราก็พยายามเต็มที่แล้ว มีรุ่นพี่ในที่ทำงาน ขอเรียกว่าพี่เบอร์ 1 แกเป็นคนสอนงานเรา แกไม่ชอบเรามากเลย ด่าเราด้วยคำแรงๆ จนเราร้องไห้ ระบบเอางานเข้าก็จำยาก ทำงานมาได้ 2 สัปดาห์เอง แกก็โมโห สำหรับคนทำมา4-5ปี มันอาจจะง่ายไง แต่สำหรับเราไม่เคยมาจับงานด้านนี้เลย รุ่นพี่อีกคนต้องมาสอนงานเราแทนพี่เบอร์ 2 พี่เค้าบอกว่า พี่ที่สอนเราเค้าชอบเอามาตรฐานตัวเองมาใช้ แกเรียนรู้เร็ว แต่สอนไม่เป็น พอพี่เค้าเข้ามาสอน เราเข้าใจบวกทำงานเองได้แล้ว เราเลยห่างๆจากพี่เบอร์หนึ่งคุยกับนางเท่าที่จำเป็น แต่สุดท้าย นายญี่ปุ่นประเมินไม่ให้ผ่าน เพราะ นายให้เหตุผลว่าการมีเราอยู่ในทีม มันทำให้พี่เบอร์หนึ่งอึดอัด นายเลยไม่เอาเราไว้ (ก็เข้าใจเค้านะคะ เค้ามีสิทธิ์เลือก) นายชอบพี่เบอร์หนึ่งมาก พี่เบอร์หนึ่งทำงานเก่งค่ะ นายไม่อยู่ตัดสินแทนนายได้เลย นายเลยชอบมากก เพราะนายสามารถลาหยุดได้เพราะพี่คนนี้ เราเสียใจมาก แต่ก็ยอมรับเราทำผิดพลาดบ่อย แต่บริษัทแจ้งล่วงหน้า พร้อมให้เงินเดือนเดือนสุดท้าย ระหว่างนั้น หนูจะลาไปสัมภาษณ์งานที่ใหม่ ลาได้เลยไม่หักเงิน เราก็ขอบคุณเค้านะคะ ให้เรามีเวลาเตรียมตัว ทำตั้งแต่ ตุลาคม จนถึง มกราคม เดือนกุมภาเราไปเที่ยวต่างประเทศเพื่อพักใจค่ะ การไม่ผ่านโปร 2 รอบ คือ อะไรที่เรารับไม่ได้มากที่สุด
พอเดือน มีนาไปสัมภาษณ์งาน เริ่มงานเดือน เมษายนค่ะ เราคิดว่าเรามีประสบการณ์มาสองที่แล้ว ที่ที่สามมันจะต้องผ่านให้ได้ แต่เอาเข้าจริงค่ะ ลาออกเองเลยค่ะ สภาพแวดล้อมไม่ได้เลย เรารู้สึกเหมือนโดนบีบให้ออก เป็นงานครูเอกชนค่ะ สอนภาษาเราสนุกมากนะคะ สอนเด็กๆ แต่เพื่อนร่วมงานไม่ไหวเลยค่ะ เราโดนจับผิดทุกอย่าง เรื่องเล็กน้อยๆก็ว่าเราผิด ถามว่าเราก็ยอมขอโทษให้มันจบๆไป ไม่เถียงนั้นแหละค่ะ เราก็เอาตัวออกห่างจากคนที่ค่อยจับผิดเรานะ แต่รู้สึกว่าเค้าหาเรื่องเราตลอดเวลาเลย สุดท้ายก็แจ้งลาออก ค่ะ ก่อนประเมินผ่านไม่ผ่านโปร อย่างน้อยๆที่นี่มันก็ทำให้เรารู้ว่าเราชอบงานสอนมากแค่ไหน
Move on ค่ะ สุดท้ายที่ที่ 4 งานครูสอนภาษา ครูเอกชนเหมือนเดิมค่ะ มีประสบการณ์มา 3 ที่ แล้ว ได้งานใหม่เงินเดือนดีกว่า สังคมดีกว่า สวัสดีการโครตดี มีข้าวกลางวันให้เรากินฟรีดีมาก เรา Happy มาก เราชอบที่นี่ ตอนทำงานเดือนแรก เรา ขอให้เราผ่านโปรด้วยเถอะ สภาพแวดล้อมดีมากๆเลย ฉันอยากอยู่ที่นี้ต่อ
ทุกคนทำงานแบบมืออาชีพมาก ทุกคนเก่งหมด มันทำเรามีไฟ อยากเก่งแบบเค้า เราคิดว่ายังไงก็ต้องผ่านโปรแน่นอน ทางโรงเรียนมีการแจ้งเราว่า จะมีการประเมินเรา 3 ครั้ง ผ่านมา2เดือน ประเมินไป2 ครั้ง เราผ่านมา2 ครั้งนี้ ครั้งที่3 ประเมินก็คือ นิเทศการสอนแหละค่ะ มันไม่มีสัญญาล่วงหน้าเลยนะคะ รุ่นพี่ที่เป็นครูพี่เลี้ยงเราก็ให้คำแนะนำ เราก็ปรับปรุงและทำตามคำแนะนำมาโดยตลอด ขอให้ช่วยอะไรเราทำหมด ประเมินครั้งสุดท้าย รุ่นพี่เค้าแจ้งว่าจะส่งเอกสารให้ฝ่าย HR นะ พร้อมทั้งแจ้งอีกว่า คะแนนไม่ได้มาจากพี่คนเดียว มีจาก หัวหน้ากลุ่มสาระ หัวหน้าระดับ เรามารอดูกันว่าผลจะเป็นยังไง
แต่สุดท้ายเราก็ไม่ผ่านโปรอีกค่ะ แจ้งเราวันสุดท้ายเลย เอาจริงมันเจ็บมาก เหตุผลคือ น้องมีความรู้ไม่พอสอน ซึ่งเราแบบ
อ้าว ตอนเราเข้ามาเราทำแบบทดสอบ เราสอบสอน เรามีผลสอบที่บอกถึงความสามารถของเรา ถ้าเราความรู้ไม่พอจริงคุณจะเอาเข้ามาทำไม แจ้งผลวันสุดท้ายเลย วันจันทร์ไม่ต้องมาทำงานแล้ว เราตกใจมาก คือ เราก็ถามต่อนะว่า มีคนมาสอนแทนแล้วหรอกคะ เค้าบอกมันเป็นเรื่องของโรงเรียนไม่เกี่ยวกับหนูแล้ว ซึ่งเราคิดแล้วว่า น่าจะหาคนมาแทนไว้แล้ว แต่ก็น่าจะแจ้งเราก่อนหน่อย ให้เวลาเราจัดการคะแนนเด็กให้เรียบร้อย ทาง HR แจ้งว่าวันนี้วันสุดท้าย คืนบัตร ส่งไฟล์คะแนน ให้เรียบร้อยภายในวันนี้ เราก็ทำอะไรไม่ได้ค่ะ ก็ทำเท่าที่ทำได้ เค้าบอกเราวันที่ 28 พ.ย.ค่ะ มันสิ้นปีแล้ว ช่วงนี้ไม่ใช้ฤดูกาลที่จะหางานเลยค่ะ ต้องหลังปีใหม่ เราได้มีการสอบถามไปทางกรมแรงงาน กรมแจ้งว่า กฎหมายไม่ได้คุ้มครองในส่วนโรงเรียนเอกชน เท่ากับเราทำอะไรไม่ได้ ไม่ได้ค่าตกใจด้วย
ยอมรับว่า ท้อใจ เหตุผลแต่ละที่ไม่เหมือนกันเลย ถ้าเป็นใน wayเดี่ยวกัน เราคงรู้ว่าต้องแก้ไขอะไร แต่สามที่ เหตุผล คือ 1.อยากได้คนทำงานได้เลย 2.ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง บวกกับพี่ในทีมไม่ happyและเราทำผิดพลาดบ่อย ยอมรับตรงๆเลยค่ะ พัฒนาแล้วไม่ดีขึ้น 3.ความรู้ไม่พอ (อันนี้คือไม่ได้เลย เรามีN3 การจะสอนเด็กมัธยม คือ N4 ) อันนี้ไม่โอเครสุด ไม่แจ้งล่วงหน้าด้วยนะคะ ตอนนี้ก็ออกมาสอนตามที่สอนพิเศษ บวก สอนพิเศษเองหางานเลี้ยงชีพไปก่อนค่ะ (แนว part time ชม.ละ150บาท ยังดีให้มีรายได้เข้ามาบ้าง ) อยากได้คำแนะนำ ด้วยอายุตอนนี้ 25 แล้ว งานสอนพิเศษมันไม่มั่นคงค่ะ ตอนนี้มองเรื่องเรียน ต่อ ป.โทด้านการสอน ไม่ก็ เรียน ป.บัญทิต (บุคคลทั่วไป)
ขอคำแนะนำอะไรก็ได้ค่ะ มันเสียใจ ความมั่นใจหายแทบไม่มี รู้สึกโครตแย่เลยค่ะ ขอร้องละคะ อย่าซ้ำเติมกันเลย คำว่าควรพิจารณาตัวเองได้แล้ว
ขอบอกเลยนะคะ คนที่ไม่ผ่านโปรเค้าพิจารณาตัวเองอยู่แล้วค่ะ ใครๆก็อยากผ่านโปร
ไม่ผ่านโปร 3 ที่ขอคำแนะนำ
ที่ทำงานที่สอง เจ้าหน้าที่ long-in สิ่งของทดลอง ออกใบประกาศ แรกๆก็เหมือนจะดีนะคะ แต่ว่า เราทำผิดพลาดบ่อย แต่เราก็พยายามเต็มที่แล้ว มีรุ่นพี่ในที่ทำงาน ขอเรียกว่าพี่เบอร์ 1 แกเป็นคนสอนงานเรา แกไม่ชอบเรามากเลย ด่าเราด้วยคำแรงๆ จนเราร้องไห้ ระบบเอางานเข้าก็จำยาก ทำงานมาได้ 2 สัปดาห์เอง แกก็โมโห สำหรับคนทำมา4-5ปี มันอาจจะง่ายไง แต่สำหรับเราไม่เคยมาจับงานด้านนี้เลย รุ่นพี่อีกคนต้องมาสอนงานเราแทนพี่เบอร์ 2 พี่เค้าบอกว่า พี่ที่สอนเราเค้าชอบเอามาตรฐานตัวเองมาใช้ แกเรียนรู้เร็ว แต่สอนไม่เป็น พอพี่เค้าเข้ามาสอน เราเข้าใจบวกทำงานเองได้แล้ว เราเลยห่างๆจากพี่เบอร์หนึ่งคุยกับนางเท่าที่จำเป็น แต่สุดท้าย นายญี่ปุ่นประเมินไม่ให้ผ่าน เพราะ นายให้เหตุผลว่าการมีเราอยู่ในทีม มันทำให้พี่เบอร์หนึ่งอึดอัด นายเลยไม่เอาเราไว้ (ก็เข้าใจเค้านะคะ เค้ามีสิทธิ์เลือก) นายชอบพี่เบอร์หนึ่งมาก พี่เบอร์หนึ่งทำงานเก่งค่ะ นายไม่อยู่ตัดสินแทนนายได้เลย นายเลยชอบมากก เพราะนายสามารถลาหยุดได้เพราะพี่คนนี้ เราเสียใจมาก แต่ก็ยอมรับเราทำผิดพลาดบ่อย แต่บริษัทแจ้งล่วงหน้า พร้อมให้เงินเดือนเดือนสุดท้าย ระหว่างนั้น หนูจะลาไปสัมภาษณ์งานที่ใหม่ ลาได้เลยไม่หักเงิน เราก็ขอบคุณเค้านะคะ ให้เรามีเวลาเตรียมตัว ทำตั้งแต่ ตุลาคม จนถึง มกราคม เดือนกุมภาเราไปเที่ยวต่างประเทศเพื่อพักใจค่ะ การไม่ผ่านโปร 2 รอบ คือ อะไรที่เรารับไม่ได้มากที่สุด
พอเดือน มีนาไปสัมภาษณ์งาน เริ่มงานเดือน เมษายนค่ะ เราคิดว่าเรามีประสบการณ์มาสองที่แล้ว ที่ที่สามมันจะต้องผ่านให้ได้ แต่เอาเข้าจริงค่ะ ลาออกเองเลยค่ะ สภาพแวดล้อมไม่ได้เลย เรารู้สึกเหมือนโดนบีบให้ออก เป็นงานครูเอกชนค่ะ สอนภาษาเราสนุกมากนะคะ สอนเด็กๆ แต่เพื่อนร่วมงานไม่ไหวเลยค่ะ เราโดนจับผิดทุกอย่าง เรื่องเล็กน้อยๆก็ว่าเราผิด ถามว่าเราก็ยอมขอโทษให้มันจบๆไป ไม่เถียงนั้นแหละค่ะ เราก็เอาตัวออกห่างจากคนที่ค่อยจับผิดเรานะ แต่รู้สึกว่าเค้าหาเรื่องเราตลอดเวลาเลย สุดท้ายก็แจ้งลาออก ค่ะ ก่อนประเมินผ่านไม่ผ่านโปร อย่างน้อยๆที่นี่มันก็ทำให้เรารู้ว่าเราชอบงานสอนมากแค่ไหน
Move on ค่ะ สุดท้ายที่ที่ 4 งานครูสอนภาษา ครูเอกชนเหมือนเดิมค่ะ มีประสบการณ์มา 3 ที่ แล้ว ได้งานใหม่เงินเดือนดีกว่า สังคมดีกว่า สวัสดีการโครตดี มีข้าวกลางวันให้เรากินฟรีดีมาก เรา Happy มาก เราชอบที่นี่ ตอนทำงานเดือนแรก เรา ขอให้เราผ่านโปรด้วยเถอะ สภาพแวดล้อมดีมากๆเลย ฉันอยากอยู่ที่นี้ต่อ
ทุกคนทำงานแบบมืออาชีพมาก ทุกคนเก่งหมด มันทำเรามีไฟ อยากเก่งแบบเค้า เราคิดว่ายังไงก็ต้องผ่านโปรแน่นอน ทางโรงเรียนมีการแจ้งเราว่า จะมีการประเมินเรา 3 ครั้ง ผ่านมา2เดือน ประเมินไป2 ครั้ง เราผ่านมา2 ครั้งนี้ ครั้งที่3 ประเมินก็คือ นิเทศการสอนแหละค่ะ มันไม่มีสัญญาล่วงหน้าเลยนะคะ รุ่นพี่ที่เป็นครูพี่เลี้ยงเราก็ให้คำแนะนำ เราก็ปรับปรุงและทำตามคำแนะนำมาโดยตลอด ขอให้ช่วยอะไรเราทำหมด ประเมินครั้งสุดท้าย รุ่นพี่เค้าแจ้งว่าจะส่งเอกสารให้ฝ่าย HR นะ พร้อมทั้งแจ้งอีกว่า คะแนนไม่ได้มาจากพี่คนเดียว มีจาก หัวหน้ากลุ่มสาระ หัวหน้าระดับ เรามารอดูกันว่าผลจะเป็นยังไง
แต่สุดท้ายเราก็ไม่ผ่านโปรอีกค่ะ แจ้งเราวันสุดท้ายเลย เอาจริงมันเจ็บมาก เหตุผลคือ น้องมีความรู้ไม่พอสอน ซึ่งเราแบบ
อ้าว ตอนเราเข้ามาเราทำแบบทดสอบ เราสอบสอน เรามีผลสอบที่บอกถึงความสามารถของเรา ถ้าเราความรู้ไม่พอจริงคุณจะเอาเข้ามาทำไม แจ้งผลวันสุดท้ายเลย วันจันทร์ไม่ต้องมาทำงานแล้ว เราตกใจมาก คือ เราก็ถามต่อนะว่า มีคนมาสอนแทนแล้วหรอกคะ เค้าบอกมันเป็นเรื่องของโรงเรียนไม่เกี่ยวกับหนูแล้ว ซึ่งเราคิดแล้วว่า น่าจะหาคนมาแทนไว้แล้ว แต่ก็น่าจะแจ้งเราก่อนหน่อย ให้เวลาเราจัดการคะแนนเด็กให้เรียบร้อย ทาง HR แจ้งว่าวันนี้วันสุดท้าย คืนบัตร ส่งไฟล์คะแนน ให้เรียบร้อยภายในวันนี้ เราก็ทำอะไรไม่ได้ค่ะ ก็ทำเท่าที่ทำได้ เค้าบอกเราวันที่ 28 พ.ย.ค่ะ มันสิ้นปีแล้ว ช่วงนี้ไม่ใช้ฤดูกาลที่จะหางานเลยค่ะ ต้องหลังปีใหม่ เราได้มีการสอบถามไปทางกรมแรงงาน กรมแจ้งว่า กฎหมายไม่ได้คุ้มครองในส่วนโรงเรียนเอกชน เท่ากับเราทำอะไรไม่ได้ ไม่ได้ค่าตกใจด้วย
ยอมรับว่า ท้อใจ เหตุผลแต่ละที่ไม่เหมือนกันเลย ถ้าเป็นใน wayเดี่ยวกัน เราคงรู้ว่าต้องแก้ไขอะไร แต่สามที่ เหตุผล คือ 1.อยากได้คนทำงานได้เลย 2.ไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง บวกกับพี่ในทีมไม่ happyและเราทำผิดพลาดบ่อย ยอมรับตรงๆเลยค่ะ พัฒนาแล้วไม่ดีขึ้น 3.ความรู้ไม่พอ (อันนี้คือไม่ได้เลย เรามีN3 การจะสอนเด็กมัธยม คือ N4 ) อันนี้ไม่โอเครสุด ไม่แจ้งล่วงหน้าด้วยนะคะ ตอนนี้ก็ออกมาสอนตามที่สอนพิเศษ บวก สอนพิเศษเองหางานเลี้ยงชีพไปก่อนค่ะ (แนว part time ชม.ละ150บาท ยังดีให้มีรายได้เข้ามาบ้าง ) อยากได้คำแนะนำ ด้วยอายุตอนนี้ 25 แล้ว งานสอนพิเศษมันไม่มั่นคงค่ะ ตอนนี้มองเรื่องเรียน ต่อ ป.โทด้านการสอน ไม่ก็ เรียน ป.บัญทิต (บุคคลทั่วไป)
ขอคำแนะนำอะไรก็ได้ค่ะ มันเสียใจ ความมั่นใจหายแทบไม่มี รู้สึกโครตแย่เลยค่ะ ขอร้องละคะ อย่าซ้ำเติมกันเลย คำว่าควรพิจารณาตัวเองได้แล้ว
ขอบอกเลยนะคะ คนที่ไม่ผ่านโปรเค้าพิจารณาตัวเองอยู่แล้วค่ะ ใครๆก็อยากผ่านโปร