ปีนี้ได้ลุ้นรายชื่อเข้าชิงรางวัลดารานำหญิงกันอย่างสนุก โดยเฉพาะคนที่ 4, 5 ที่ยังมีโอกาสเปลี่ยนหน้ากันเข้าชิงได้ตลอดจากความนิยมและผลตอบรับของตัวภาพยนตร์
ก่อนอื่นเราไปดูรางวัลที่ประกาศมาจนถึงตอนนี้กันก่อนว่ามีใครได้รางวัลอะไรกันไปแล้วบ้าง
New York Film Critics Circle
Rose Bryne – If I Had Legs I’d Kick You
Atlanta Film Critics Circle
Jessie Buckley – Hamnet
Runner-up: Rose Bryne – If I Had Legs I’d Kick You
National Borad of Review
Rose Bryne – If I Had Legs I’d Kick You
Toronto Film Critics Association
Rose Bryne – If I Had Legs I’d Kick You
Runner-up: Jessie Buckley – Hamnet
Los Angeles Film Critics Association
Rose Bryne – If I Had Legs I’d Kick You
Washing DC Area Film Critics Association
Jessie Buckley – Hamnet
Rose Bryne – If I Had Legs I’d Kick You
Cynthia Erivo – Wicked for Good
Chase Infiniti – One Battle After Another
Renate Reinsve – Sentimental Value
Michigan Movie Critics Guild
Jessie Buckley – Hamnet
Rose Bryne – If I Had Legs I’d Kick You
Cynthia Erivo – Wicked for Good
Chase Infiniti – One Battle After Another
Emma Stone – Bugonia
African-American Film Critics Association
Tessa Thompson – Hedda
ถ้าไม่นับรางวัลของ AAFCA ที่ค่อนข้างเฉพาะตัวเน้นแจกให้คนผิวสีแล้วจะเห็นว่าอีก 7 เวทีที่เหลือนั้นได้กันอยู่แค่ 2 คนคือ Rose Bryne และ Jessie Buckley ซึ่งรางวัลรองชนะเลิศก็ไม่พ้น 1 ใน 2 คนนี้เหมือนเดิม
ทีนี้ลองไปดูรายชื่อผู้เข้าชิงรางวัลดารานำหญิงของ Golden Globe ที่ประกาศออกมาแล้วกันบ้าง
Best Actress in a Motion Picture – Drama
Jessie Buckley – Hamnet
Jennifer Lawrence – Die My Love
Renate Reinsve – Sentimental Value
Julia Roberts – After the Hunt
Tessa Thompson – Hedda
Eva Victor – Sorry, Baby
Best Actress in a Motion Picture – Musical or Comedy
Rose Byrne – If I Had Legs I'd Kick You
Cynthia Erivo – Wicked: For Good
Kate Hudson – Song Sung Blue
Chase Infiniti – One Battle After Another
Amanda Seyfried – The Testament of Ann Lee
Emma Stone – Bugonia
จากทั้งผลรางวัลต่างๆที่ประกาศออกมาแล้ว รายชื่อผู้เข้าชิง Golden Globe และความนิยมเทียบกับความคาดหวังของตัวภาพยนตร์แต่ละเรื่องแล้วคาดว่า Nomination List ของ Best Actress in a Leading Role น่าจะเป็นดังนี้
Jessie Buckley – Hamnet
โอกาสเข้าชิง 100%
จากผลรางวัลที่ประกาศออกมาแล้วนั้น Jessie Buckley แย่งรางวัลกันกับ Rose Bryne แค่ 2 คน บวกกับ Hamnet เพิ่งจะเข้าโรงฉายแบบ Semi-Nationwide และทำรายได้เฉลี่ยต่อโรงได้ดีมากเป็นรองเพียงหนังลำดับต้นๆใน Top 5 เท่านั้น แสดงถึงการยอมรับจากคนดูทั่วไปด้วยเช่นกัน ทำให้โอกาสที่จะเข้าชิง Oscars ของเธอแทบจะนอนมาติด 1 ใน 5 คนแน่ๆ
Renate Reinsve – Sentimental Value
โอกาสเข้าชิง 90%
กำลังไต่ระดับขึ้นมาเป็นผู้ท้าชิงที่แข็งแกร่งสำหรับ Renate Reinsve แม้ว่าจะยังไม่ได้รับรางวัลใดๆในสหรัฐ แต่กระแสตอบรับในตัวหนัง Sentimental Value นั้นดีมากๆ อีกทั้งบรรดานักวิจารณ์ก็ชื่นชมในตัวนักแสดงทั้ง Rentae Reinsve เอง Inga Ibsdotter Lilleaas, Elle Fanning และ Stellan Skarsgard โดย ณ เวลานี้ Sentimental Value ยังคงฉายแบบ Limited อยู่และมีกำหนดจะฉายแบบ Nationwide ในวันที่ 26 ธันวาคม เมื่อถึงตอนนั้นเธออาจจะก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งตัวจริงของ Jessie Buckley ก็ได้
Rose Byrne – If I Had Legs I'd Kick You
โอกาสเข้าชิง 70%
ว่ากันตามเนื้อผ้าแล้ว Rose Bryne ได้รางวัลมามากที่สุดในบรรดาเวทีที่แจกกันไปแล้ว ปัญหาอย่างเดียวคือ If I Had Legs I’d Kick You ไม่เคยฉายแบบ Nationwide ตั้งแต่เข้าโรงในวันที่ 10 ตุลาคมจนกระทั่งโดนถอดออกจากโปรแกรมไปก่อนวันขอบคุณพระเจ้า แต่อย่างไรก็ตามจากคุณภาพและรางวัลอื่นๆที่ได้มาก็น่าจะดันให้เธอผ่านเข้าไปถึงรอบ 5 คนสุดท้ายของ Oscars ได้ แต่จะมีลุ้นรางวัลเท่า Jessie Buckley และ Renate Reinsve หรือไม่นั้นต้องมารอดูกัน
Emma Stone – Bugonia
โอกาสเข้าชิง 50%
Emma เคยอยู่ในลำดับต้นๆถึงระดับ Top 3 ของตัวเต็งผู้เข้าชิงจากชื่อชั้นของหนังและบทที่ให้โอกาสได้แสดงฝีมืออย่างมาก แต่หลังจาก Bugonia ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไหร่นัก ความเต็งของ Emma Stone ก็ลดระดับลงมาตามไปด้วย
Cynthia Erivo – Wicked: For Good
โอกาสเข้าชิง 50%
ก่อน Wicked for Good เข้าฉายชื่อของ Cynthia Erivo เคยขึ้นไปสูงถึงเต็ง 1-2 ของรางวัล Oscars จากผลงานและบทใน Wicked ภาคแรกที่น่าจะคาดหวังคุณภาพในภาคต่อได้ แต่หลังจาก Wicked for Good ออกฉายแล้ว แม้ว่ามันจะทำเงินได้มาก แม้จะได้กำไร แต่เมื่อเทียบกับความคาดหวังแล้วต้องบอกว่า Wicked for Good นั้นล้มเหลว เพราะแม้หนังจะทำเงินได้หลายร้อยล้านเหรียญ แต่จากเดิมที่คาดกันว่าจะจบที่ 750-800 ล้านทั่วโลกพอๆกับภาคแรก กลับกลายเป็นจะจบที่ไม่เกิน 550 ล้านเหรียญ ไม่ติด Top 10 หนังทำเงินสูงสุดทั่วโลกประจำปีนี้ และอาจจะทำเงินน้อยกว่า Fantastic Four ด้วยซ้ำไป ซึ่งสาเหตุของความไม่ปังตามคาดนั้นมันมีอยู่หลายอย่าง และนักแสดงก็ต้องมีส่วนรับตรงนี้ไปด้วย อันดับความเต็งของ Cynthia Erivo บนเวที Oscars จึงร่วงลงอย่างรวดเร็วจาก 1 ใน 2 ตัวเต็งกลายเป็นต้องลุ้นให้มีรายชื่อเข้าชิงเท่านั้นในตอนนี้
Amanda Seyfried – The Testament of Ann Lee
โอกาสเข้าชิง 40%
อย่าเพิ่งเบื่อหน้า Amanda Seyfried เพราะในเดือนธันวาคมนี้นอกจากเธอจะมีผลงานในหนังสุดแซ่บแห่งปีอย่าง The Housemaid แล้ว ยังมี The Testament of Ann Lee เข้าฉายในวันคริสต์มาสอีกด้วย ซึ่งเธอจะพลิกมาได้เข้าชิง Oscars หรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับกระแสในตอนเข้าฉายด้วยเช่นกัน
Chase Infiniti – One Battle After Another
โอกาสเข้าชิง 40%
กลับกันกับ Emma Stone และ Cynthia Erivo กระแสของ Chase Infiniti ที่เพิ่งจะแสดงภาพยนตร์จอเงินเป็นเรื่องแรกพุ่งขึ้นมาจากศูนย์กลายเป็นหนึ่งในนักแสดงที่ลุ้นเข้าชิงรางวัลดารานำหญิง Oscars ปีนี้ หลังจากที่ One Battle After Another เข้าฉาย แม้ว่าหนังจะขาดทุนแต่มันเป็นเพราะ Production Budget ที่สูงปรี๊ดเกินไปเมื่อเทียบกับแนวหนัง และหนังก็ยังทำเงินไปถึง 200 ล้านเหรียญทั่วโลก แสดงถึงการยอมรับจากคนดูทั่วไปแม้ว่ามันจะดูยากกว่าหนังตลาดธรรมดาๆ ขณะที่ผลงานการแสดงของเพื่อนร่วมกองทั้ง LDC, Sean Penn, Benicio Del Toro, Teyana Taylor ต่างพุ่งขึ้นถึงจุดสูงสุดทุกคนมันก็ช่วยดันให้การแสดงของ Chase Infiniti เข้าตากรรมการมากขึ้นเรื่อยๆ
The Race to Oscars Nomination 2026 : Best Actress in a Leading Role