กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Epiphone J-45EC เป็นกีต้าร์อะคูสติกที่ออกแบบโดยให้ความสำคัญทั้งเรื่องเสียงและรูปลักษณ์ เหมาะสำหรับคนเล่นกีต้าร์ที่อยากมีกีต้าร์ตัวเดียวไว้ใช้ได้แทบทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเล่นบนเวที ในห้องซ้อม หรือบันทึกเสียงในสตูดิโอ เสน่ห์ของรุ่นนี้ไม่ใช่แค่สไตล์วินเทจที่ดูสวยคลาสสิกเท่านั้น แต่ยังออกแบบให้เป็นทรงคัทอะเวย์ (Cutaway) ซึ่งเป็นกีต้าร์ที่เว้าช่วงล่างของบอดี้ เพื่อให้เอื้อมถึงเฟรตบนได้ง่ายขึ้น ทำให้เล่นเมโลดี้หรือโซโล่ช่วงปลายคอได้อย่างคล่องตัว จึงกลายเป็นรุ่นที่คนที่ชอบตระกูล J-45 ของ Epiphone มักเลือกใช้เป็นกีต้าร์หลักอีกตัวหนึ่ง
ภาพรวมโครงสร้างบอดี้และวัสดุของ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Epiphone J-45EC ที่ช่วยกำหนดโทนเสียง
บอดี้ของรุ่นนี้ใช้ทรงเดรดนอตบ่าเฉียง (Sloped Shoulder Dreadnought) แบบคัทอะเวย์ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของตระกูล J-45 ที่ขึ้นชื่อเรื่องโทนเสียงอุ่น หนา และมีมิติ ไม้หน้าทำจาก Solid Sitka Spruce ช่วยให้ปลายเสียงใส คม และตอบสนองน้ำหนักมือได้ดี ไม่ว่าจะเล่นตีคอร์ดหรือเล่นเกา ส่วนไม้หลังและข้างใช้ Solid Mahogany ให้ย่านเสียงกลางที่อุ่นและแน่น เสียงโดยรวมจึงฟังเต็ม กลมกล่อม และไม่แหลมจัดหรือทุ้มบวมจนเกินไป
การใช้ไม้แท้แบบ Solid ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้าง ทำให้เสียงของกีต้าร์รุ่นนี้ค่อย ๆ “เปิด” มากขึ้นเมื่อใช้งานไปนาน ๆ ยิ่งเล่นบ่อย เสียงก็จะยิ่งนิ่ง มีความชัดและมีมิติมากขึ้น พร้อมโทนหวานฟังสบาย ลักษณะเสียงแบบนี้เป็นสิ่งที่มือกีต้าร์สายวินเทจและคนที่ชอบโทนเสียงธรรมชาติของไม้แท้มักมองหาอยู่เสมอ
โครงสร้างคอและอินเลย์ที่ช่วยให้การเล่นราบรื่นกว่าเดิม
คอทำจาก Mahogany โปรไฟล์ Rounded C จับแล้วรู้สึกโค้งรับกับมือพอดี ไม่หนาหรือบางจนเกินไป เหมาะทั้งสำหรับคนที่เริ่มจริงจังกับการเล่นกีต้าร์ และมืออาชีพที่ต้องเล่นต่อเนื่องเป็นเวลานาน ฟิงเกอร์บอร์ดใช้ไม้ Indian Laurel ให้สัมผัสใกล้เคียง Rosewood คือให้ความรู้สึกเนียนมือ ดูแลง่าย และไม่ลื่นหรือฝืดจนเกินไป
ฟิงเกอร์บอร์ดมีรัศมี 12 นิ้ว จึงช่วยให้การดันสาย (Bending) การเล่นโน้ตเดี่ยว หรือการเล่นคอร์ดแบบจับเต็มมือทำได้สบายขึ้น รุ่นนี้มีเฟรตทั้งหมด 20 เฟรต และติดตั้งอินเลย์ Mother of Pearl Dots ที่มองเห็นตำแหน่งได้ชัด ช่วยให้ทั้งมือใหม่และคนที่เล่นมานานมองตำแหน่งโน้ตได้อย่างมั่นใจ ตัว nut และ saddle ทำจาก Bone ซึ่งเป็นวัสดุที่ช่วยถ่ายทอดแรงสั่นสะเทือนจากสายลงสู่ตัวไม้ได้ดี ทำให้โทนเสียงคมชัดครบทั้งย่านต่ำ กลาง และสูง
ระบบไฟฟ้า Fishman สำหรับมืออาชีพ
จุดเด่นสำคัญสำหรับคนที่ต้องเล่นงานแสดงหรืออัดเสียง คือระบบปิ๊กอัพและพรีแอมป์จาก Fishman ที่ติดมากับตัวกีต้าร์โดยตรง รุ่นนี้ใช้ Under Saddle Pickup รุ่น Sonicore ทำงานคู่กับพรีแอมป์ Presys II ซึ่งมีปุ่มปรับ Volume, Bass และ Treble ให้ปรับโทนเสียงให้เข้ากับห้องหรือระบบเสียงที่ใช้งานจริงได้ง่าย
บนตัวพรีแอมป์ยังมีปุ่ม Phase ช่วยลดอาการฟีดแบคเมื่อต่อเข้าระบบเสียงในห้องที่มีเสียงสะท้อนมาก ๆ และมีเครื่องตั้งสายในตัวพร้อมหน้าจอ LED ทำให้ตั้งสายได้สะดวก แม้อยู่บนเวทีที่แสงน้อย ช่อง Output เป็นแบบ End Pin Jack ติดตั้งมาเรียบร้อยจากโรงงาน จึงไม่ต้องดัดแปลงบอดี้กีต้าร์เพิ่มเติม ช่วยรักษาทั้งโครงสร้างและโทนเสียงดั้งเดิมเอาไว้
จุดเด่นสำคัญของ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Epiphone J-45EC
- งานประกอบได้มาตรฐานตามสไตล์ Epiphone รายละเอียดเรียบร้อย ดูแข็งแรง และมีสไตล์วินเทจที่ดูหรู ใช้ได้นาน
- โทนเสียงสมดุล อุ่น และแน่น เหมาะทั้งการเล่นเดี่ยว ร้องเล่นคนเดียว และเล่นร่วมกับวง
- ทรงคัทอะเวย์ช่วยให้เข้าถึงเฟรตบนได้ง่ายกว่า J-45 แบบปกติ เหมาะกับคนที่ชอบเล่นเมโลดี้หรือโซโล่บ่อย ๆ
- ระบบไฟฟ้า Fishman ให้เสียงที่คมชัด ปรับโทนง่าย เหมาะกับทั้งงานแสดงสดและการอัดเสียงเบื้องต้น
- ใช้ไม้ Solid ทั้งตัว ทำให้เสียงพัฒนาและ “เปิด” มากขึ้นเมื่อเล่นไปนาน ๆ
การตอบสนองต่อการเล่นและความรู้สึกของผู้ใช้งาน
สำหรับคนที่ชอบทั้งการตีคอร์ดและเล่นเกา รุ่นนี้ให้ความรู้สึกสมดุลดีมาก เสียงเบสไม่บวมจนกลบเสียงอื่น และเสียงปลายก็ยังคงคมพอให้เล่นเมโลดี้ได้ชัดเจน โปรไฟล์คอที่จับสบายช่วยให้ควบคุมไดนามิกของมือขวาได้ง่าย จะตีคอร์ดแรง ๆ เพื่อให้ได้พลังเสียงเต็ม ๆ หรือเล่นเบา ๆ เพื่อให้ได้อารมณ์นุ่ม ๆ ก็ยังตอบสนองได้เป็นธรรมชาติ
สำหรับคนที่ต้องเล่นต่อเนื่องหลายเพลง หรือเล่นยาวทั้งเซต จะรู้สึกว่าคอของกีต้าร์ไม่ทำให้เมื่อยมือมากนัก น้ำหนักของกีต้าร์มีความสมดุลดี ไม่ถ่วงให้หัวกีต้าร์ตกลงด้านหน้าหรือเอียงข้างจนรู้สึกล้า ไม่ว่าจะเล่นในท่านั่งหรือยืนบนเวทีก็ยังควบคุมท่าทางได้สบาย
รายละเอียดฮาร์ดแวร์และชิ้นส่วนที่ช่วยยกระดับคุณภาพเสียง
ฮาร์ดแวร์หลักของรุ่นนี้เคลือบสี Nickel ให้ความรู้สึกแข็งแรง ทนทาน และไม่เพิ่มน้ำหนักมากจนเกินไป ส่งผลให้สมดุลโดยรวมของกีต้าร์ดีขึ้น ลูกบิดเป็นแบบ 3 on a plate พร้อมปุ่มสี Ivory ช่วยให้การตั้งสายทำได้ละเอียดและนิ่ง ไม่เพี้ยนง่ายแม้เล่นต่อเนื่องนาน ๆ
สะพานสาย (Bridge) ใช้ทรง Reverse Belly ทำจากไม้ Indian Laurel ช่วยถ่ายทอดแรงสั่นสะเทือนจากสายลงสู่ตัวไม้ได้เต็มที่ หมุดยึดสายสี Ivory ช่วยให้โทนเสียงออกมานุ่มและมีคาแรคเตอร์เฉพาะตัว ส่วน Pickguard ลาย Tortoise Shell นอกจากช่วยกันรอยจากการตีคอร์ดแล้ว ยังเพิ่มความคลาสสิกให้หน้าตากีต้าร์มากขึ้นด้วย
ความเหมาะสมสำหรับการใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ
กีต้าร์รุ่นนี้ออกแบบมาให้ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเล่นในห้องซ้อมเล็ก ๆ ร้านกาแฟ คาเฟ่ ไปจนถึงเวทีขนาดกลาง ด้วยไม้ Solid และระบบไฟฟ้าจาก Fishman ทำให้เมื่อต่อเข้าตู้แอมป์หรือระบบ PA แล้วได้เสียงที่ชัด และคุมโทนได้ไม่ยาก
สำหรับคนที่ชอบอัดเสียงเองที่บ้าน สามารถใช้รุ่นนี้ต่อเข้ากล่องเสียง (Audio Interface) เพื่อบันทึกเป็นแทร็กเสียงกีต้าร์สะอาด ๆ แล้วค่อยปรับแต่งในโปรแกรมภายหลังได้ โทนเสียงพื้นฐานที่สมดุลช่วยให้จัดเสียงรวมได้ง่ายขึ้น เหมาะทั้งกับผู้เริ่มต้นทำเพลงเองและคนที่ต้องการงานตัวอย่างไปเสนอหรือนำไปพัฒนาต่อ
เคสและการดูแลรักษา
ในชุดมาตรฐานจะไม่ได้แถมเคสมาด้วย แต่ผู้เล่นสามารถเลือกซื้อฮาร์ดเคสหรือ EpiLite Case เพิ่มเติมเพื่อช่วยปกป้องกีต้าร์ขณะเดินทางได้ การเก็บกีต้าร์ควรหลีกเลี่ยงทั้งอุณหภูมิที่ร้อนหรือเย็นเกินไป และควบคุมความชื้นให้เหมาะสม โดยเฉพาะถ้าเก็บในห้องปรับอากาศ การใช้ตัวเพิ่มหรือลดความชื้นในเคสจะช่วยยืดอายุไม้และทำให้กีต้าร์คงสภาพเสียงที่ดีได้นาน
การเช็ดสายและฟิงเกอร์บอร์ดหลังเล่นทุกครั้งจะช่วยลดคราบเหงื่อและสิ่งสกปรก ทำให้สายไม่ขึ้นสนิมเร็ว และช่วยยืดอายุการใช้งานของเฟรตและไม้คอได้ในระยะยาว
เหตุผลที่มืออาชีพหลายคนเลือกใช้งาน กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Epiphone J-45EC
มือกีต้าร์จำนวนมากมองว่าตระกูล J-45 เป็นหนึ่งในกีต้าร์ที่ไว้ใจได้ทั้งเรื่องความทนทานและโทนเสียง รุ่น J-45EC จึงถูกพัฒนาต่อยอดให้เล่นง่ายขึ้นด้วยคัทอะเวย์ แต่ยังเก็บคาแรคเตอร์เสียงอุ่น ๆ และโทนหวานแบบดั้งเดิมเอาไว้ ทำให้เหมาะทั้งกับคนที่ชอบเล่นแนวโฟล์ก ป็อป ร็อกเบา ๆ หรือใช้เป็นกีต้าร์หลักสำหรับเล่นประกอบร้อง
คนที่ต้องเล่นเมโลดี้บนเฟรตสูงจะรู้สึกว่าการเข้าถึงตำแหน่งปลายคอทำได้สะดวกขึ้นกว่าทรงเดิมที่ไม่มีคัทอะเวย์ ตัวเลือกสีอย่าง Vintage Sunburst และ Natural ก็ช่วยให้แต่ละคนเลือกโทนภาพลักษณ์ให้เข้ากับสไตล์ของตัวเองได้มากขึ้น
แนวทางการตั้งค่าเสียงให้เหมาะกับแนวดนตรีต่างๆ
- แนวโฟล์กหรืออะคูสติกป็อป: ปรับเบสระดับกลาง ๆ เพิ่มย่านเสียงกลางเล็กน้อย และไม่ดันเสียงแหลมมาก จะได้โทนเสียงนุ่ม อบอุ่น ฟังสบาย เหมาะกับการร้องนำ
- แนวป็อปร็อกหรือร็อกเบา ๆ: เพิ่มเบสและแหลมขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้เสียงคอร์ดชัดและมีเรี่ยวแรงมากขึ้นในเสียงรวมของทั้งวง แต่ยังควรระวังไม่ให้เสียงแหลมจัดเกินไป
- เล่นเดี่ยวในคาเฟ่: ลดเบสลงเล็กน้อย เพิ่มย่านกลางและแหลมให้ชัด เพื่อให้เสียงกีต้าร์ลอยออกมาฟังชัดแม้เล่นในระดับความดังไม่มาก
- ฟิงเกอร์สไตล์: ใช้โทนที่สมดุลทุกย่านเสียง เน้นให้โน้ตแต่ละสายแยกกันชัด อาจเพิ่มแหลมอีกเล็กน้อยเพื่อให้เสียงเกาใสและมีรายละเอียด
- เล่นร่วมกับเครื่องดนตรีหลายชิ้น: ลดเบสลงและเน้นย่านกลาง เพื่อไม่ให้ไปทับกับเสียงเบสหรือกลอง และช่วยให้กีต้าร์ยืนอยู่ในเสียงรวมได้อย่างพอดี
การเลือกสายและอุปกรณ์เสริมให้ตอบโจทย์การใช้งาน
- เลือกเบอร์สายประมาณ $.011\char`\–.052$ เพื่อให้สมดุลระหว่างความนุ่มมือและโทนเสียงที่เต็มกำลัง เหมาะทั้งการตีคอร์ดและเล่นเกา
- ถ้าไม่ชอบเสียงนิ้วเสียดสายหรืออยากให้สายอยู่ได้นานขึ้น การใช้สายเคลือบจะช่วยให้สัมผัสลื่นขึ้นเล็กน้อยและยืดอายุสาย
- เลือกคาโปที่หนีบสายได้สม่ำเสมอทุกสาย จะช่วยลดปัญหาเสียงเพี้ยนเวลาเปลี่ยนคีย์เพลง
- เมื่อต่อเข้าระบบ PA หรือมิกเซอร์ ใช้ DI Box ที่ออกแบบมาสำหรับกีต้าร์อะคูสติก จะช่วยลดสัญญาณรบกวนและรักษารายละเอียดของเสียงได้ดีขึ้น
- ควรเปลี่ยนสายตามความถี่การใช้งาน ถ้าเล่นเกือบทุกวัน เดือนละครั้งถือว่าเหมาะสมเพื่อให้ได้โทนเสียงที่สดใสและนิ่งอยู่เสมอ
สรุปภาพรวมและความคุ้มค่าที่ได้รับจาก กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Epiphone J-45EC
เมื่อพิจารณาจากการใช้ไม้ Solid ทั้งตัว ระบบไฟฟ้า Fishman ที่ติดตั้งมาจากโรงงาน งานประกอบแนววินเทจที่ดูดีในหลากหลายโอกาส และโทนเสียงที่ยิ่งเล่นนานยิ่งเปิด จะเห็นว่าเป็นกีต้าร์อีกรุ่นที่ให้ความคุ้มค่าทั้งสำหรับคนที่เริ่มจริงจังกับการเล่น และมืออาชีพที่ต้องใช้กีต้าร์ทำงานเป็นประจำ
ด้วยจุดเด่นด้านโทนเสียงที่สมดุล เล่นได้หลายแนว ระบบไฟฟ้าที่ใช้งานง่ายบนเวที และวัสดุโดยรวมที่เลือกใช้ในระดับจริงจัง ทำให้รุ่น J-45EC เป็นตัวเลือกที่น่าลองจับและน่ามีติดบ้านสำหรับคนที่กำลังมองหากีต้าร์โปร่งไฟฟ้าระดับกลางถึงสูง ที่พร้อมใช้งานได้ยาว ๆ และให้บุคลิกเสียงชัดเจนเป็นของตัวเอง
สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่
🛒
สั่งซื้อได้ที่นี่
👉 Lazada >
ดูรายละเอียดสินค้าใน Lazada
👉 Shopee >
ดูรายละเอียดสินค้าใน Shopee
🎸🎶 กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Epiphone J-45EC ทางเลือกที่ให้ทั้งโทนเสียงเต็มอิ่มและดีไซน์สไตล์วินเทจ 🎼✨
กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Epiphone J-45EC เป็นกีต้าร์อะคูสติกที่ออกแบบโดยให้ความสำคัญทั้งเรื่องเสียงและรูปลักษณ์ เหมาะสำหรับคนเล่นกีต้าร์ที่อยากมีกีต้าร์ตัวเดียวไว้ใช้ได้แทบทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะเล่นบนเวที ในห้องซ้อม หรือบันทึกเสียงในสตูดิโอ เสน่ห์ของรุ่นนี้ไม่ใช่แค่สไตล์วินเทจที่ดูสวยคลาสสิกเท่านั้น แต่ยังออกแบบให้เป็นทรงคัทอะเวย์ (Cutaway) ซึ่งเป็นกีต้าร์ที่เว้าช่วงล่างของบอดี้ เพื่อให้เอื้อมถึงเฟรตบนได้ง่ายขึ้น ทำให้เล่นเมโลดี้หรือโซโล่ช่วงปลายคอได้อย่างคล่องตัว จึงกลายเป็นรุ่นที่คนที่ชอบตระกูล J-45 ของ Epiphone มักเลือกใช้เป็นกีต้าร์หลักอีกตัวหนึ่ง
ภาพรวมโครงสร้างบอดี้และวัสดุของ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Epiphone J-45EC ที่ช่วยกำหนดโทนเสียง
บอดี้ของรุ่นนี้ใช้ทรงเดรดนอตบ่าเฉียง (Sloped Shoulder Dreadnought) แบบคัทอะเวย์ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของตระกูล J-45 ที่ขึ้นชื่อเรื่องโทนเสียงอุ่น หนา และมีมิติ ไม้หน้าทำจาก Solid Sitka Spruce ช่วยให้ปลายเสียงใส คม และตอบสนองน้ำหนักมือได้ดี ไม่ว่าจะเล่นตีคอร์ดหรือเล่นเกา ส่วนไม้หลังและข้างใช้ Solid Mahogany ให้ย่านเสียงกลางที่อุ่นและแน่น เสียงโดยรวมจึงฟังเต็ม กลมกล่อม และไม่แหลมจัดหรือทุ้มบวมจนเกินไป
การใช้ไม้แท้แบบ Solid ทั้งด้านหน้า ด้านหลัง และด้านข้าง ทำให้เสียงของกีต้าร์รุ่นนี้ค่อย ๆ “เปิด” มากขึ้นเมื่อใช้งานไปนาน ๆ ยิ่งเล่นบ่อย เสียงก็จะยิ่งนิ่ง มีความชัดและมีมิติมากขึ้น พร้อมโทนหวานฟังสบาย ลักษณะเสียงแบบนี้เป็นสิ่งที่มือกีต้าร์สายวินเทจและคนที่ชอบโทนเสียงธรรมชาติของไม้แท้มักมองหาอยู่เสมอ
โครงสร้างคอและอินเลย์ที่ช่วยให้การเล่นราบรื่นกว่าเดิม
คอทำจาก Mahogany โปรไฟล์ Rounded C จับแล้วรู้สึกโค้งรับกับมือพอดี ไม่หนาหรือบางจนเกินไป เหมาะทั้งสำหรับคนที่เริ่มจริงจังกับการเล่นกีต้าร์ และมืออาชีพที่ต้องเล่นต่อเนื่องเป็นเวลานาน ฟิงเกอร์บอร์ดใช้ไม้ Indian Laurel ให้สัมผัสใกล้เคียง Rosewood คือให้ความรู้สึกเนียนมือ ดูแลง่าย และไม่ลื่นหรือฝืดจนเกินไป
ฟิงเกอร์บอร์ดมีรัศมี 12 นิ้ว จึงช่วยให้การดันสาย (Bending) การเล่นโน้ตเดี่ยว หรือการเล่นคอร์ดแบบจับเต็มมือทำได้สบายขึ้น รุ่นนี้มีเฟรตทั้งหมด 20 เฟรต และติดตั้งอินเลย์ Mother of Pearl Dots ที่มองเห็นตำแหน่งได้ชัด ช่วยให้ทั้งมือใหม่และคนที่เล่นมานานมองตำแหน่งโน้ตได้อย่างมั่นใจ ตัว nut และ saddle ทำจาก Bone ซึ่งเป็นวัสดุที่ช่วยถ่ายทอดแรงสั่นสะเทือนจากสายลงสู่ตัวไม้ได้ดี ทำให้โทนเสียงคมชัดครบทั้งย่านต่ำ กลาง และสูง
ระบบไฟฟ้า Fishman สำหรับมืออาชีพ
จุดเด่นสำคัญสำหรับคนที่ต้องเล่นงานแสดงหรืออัดเสียง คือระบบปิ๊กอัพและพรีแอมป์จาก Fishman ที่ติดมากับตัวกีต้าร์โดยตรง รุ่นนี้ใช้ Under Saddle Pickup รุ่น Sonicore ทำงานคู่กับพรีแอมป์ Presys II ซึ่งมีปุ่มปรับ Volume, Bass และ Treble ให้ปรับโทนเสียงให้เข้ากับห้องหรือระบบเสียงที่ใช้งานจริงได้ง่าย
บนตัวพรีแอมป์ยังมีปุ่ม Phase ช่วยลดอาการฟีดแบคเมื่อต่อเข้าระบบเสียงในห้องที่มีเสียงสะท้อนมาก ๆ และมีเครื่องตั้งสายในตัวพร้อมหน้าจอ LED ทำให้ตั้งสายได้สะดวก แม้อยู่บนเวทีที่แสงน้อย ช่อง Output เป็นแบบ End Pin Jack ติดตั้งมาเรียบร้อยจากโรงงาน จึงไม่ต้องดัดแปลงบอดี้กีต้าร์เพิ่มเติม ช่วยรักษาทั้งโครงสร้างและโทนเสียงดั้งเดิมเอาไว้
จุดเด่นสำคัญของ กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Epiphone J-45EC
- งานประกอบได้มาตรฐานตามสไตล์ Epiphone รายละเอียดเรียบร้อย ดูแข็งแรง และมีสไตล์วินเทจที่ดูหรู ใช้ได้นาน
- โทนเสียงสมดุล อุ่น และแน่น เหมาะทั้งการเล่นเดี่ยว ร้องเล่นคนเดียว และเล่นร่วมกับวง
- ทรงคัทอะเวย์ช่วยให้เข้าถึงเฟรตบนได้ง่ายกว่า J-45 แบบปกติ เหมาะกับคนที่ชอบเล่นเมโลดี้หรือโซโล่บ่อย ๆ
- ระบบไฟฟ้า Fishman ให้เสียงที่คมชัด ปรับโทนง่าย เหมาะกับทั้งงานแสดงสดและการอัดเสียงเบื้องต้น
- ใช้ไม้ Solid ทั้งตัว ทำให้เสียงพัฒนาและ “เปิด” มากขึ้นเมื่อเล่นไปนาน ๆ
การตอบสนองต่อการเล่นและความรู้สึกของผู้ใช้งาน
สำหรับคนที่ชอบทั้งการตีคอร์ดและเล่นเกา รุ่นนี้ให้ความรู้สึกสมดุลดีมาก เสียงเบสไม่บวมจนกลบเสียงอื่น และเสียงปลายก็ยังคงคมพอให้เล่นเมโลดี้ได้ชัดเจน โปรไฟล์คอที่จับสบายช่วยให้ควบคุมไดนามิกของมือขวาได้ง่าย จะตีคอร์ดแรง ๆ เพื่อให้ได้พลังเสียงเต็ม ๆ หรือเล่นเบา ๆ เพื่อให้ได้อารมณ์นุ่ม ๆ ก็ยังตอบสนองได้เป็นธรรมชาติ
สำหรับคนที่ต้องเล่นต่อเนื่องหลายเพลง หรือเล่นยาวทั้งเซต จะรู้สึกว่าคอของกีต้าร์ไม่ทำให้เมื่อยมือมากนัก น้ำหนักของกีต้าร์มีความสมดุลดี ไม่ถ่วงให้หัวกีต้าร์ตกลงด้านหน้าหรือเอียงข้างจนรู้สึกล้า ไม่ว่าจะเล่นในท่านั่งหรือยืนบนเวทีก็ยังควบคุมท่าทางได้สบาย
รายละเอียดฮาร์ดแวร์และชิ้นส่วนที่ช่วยยกระดับคุณภาพเสียง
ฮาร์ดแวร์หลักของรุ่นนี้เคลือบสี Nickel ให้ความรู้สึกแข็งแรง ทนทาน และไม่เพิ่มน้ำหนักมากจนเกินไป ส่งผลให้สมดุลโดยรวมของกีต้าร์ดีขึ้น ลูกบิดเป็นแบบ 3 on a plate พร้อมปุ่มสี Ivory ช่วยให้การตั้งสายทำได้ละเอียดและนิ่ง ไม่เพี้ยนง่ายแม้เล่นต่อเนื่องนาน ๆ
สะพานสาย (Bridge) ใช้ทรง Reverse Belly ทำจากไม้ Indian Laurel ช่วยถ่ายทอดแรงสั่นสะเทือนจากสายลงสู่ตัวไม้ได้เต็มที่ หมุดยึดสายสี Ivory ช่วยให้โทนเสียงออกมานุ่มและมีคาแรคเตอร์เฉพาะตัว ส่วน Pickguard ลาย Tortoise Shell นอกจากช่วยกันรอยจากการตีคอร์ดแล้ว ยังเพิ่มความคลาสสิกให้หน้าตากีต้าร์มากขึ้นด้วย
ความเหมาะสมสำหรับการใช้งานในสถานการณ์ต่างๆ
กีต้าร์รุ่นนี้ออกแบบมาให้ใช้งานได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเล่นในห้องซ้อมเล็ก ๆ ร้านกาแฟ คาเฟ่ ไปจนถึงเวทีขนาดกลาง ด้วยไม้ Solid และระบบไฟฟ้าจาก Fishman ทำให้เมื่อต่อเข้าตู้แอมป์หรือระบบ PA แล้วได้เสียงที่ชัด และคุมโทนได้ไม่ยาก
สำหรับคนที่ชอบอัดเสียงเองที่บ้าน สามารถใช้รุ่นนี้ต่อเข้ากล่องเสียง (Audio Interface) เพื่อบันทึกเป็นแทร็กเสียงกีต้าร์สะอาด ๆ แล้วค่อยปรับแต่งในโปรแกรมภายหลังได้ โทนเสียงพื้นฐานที่สมดุลช่วยให้จัดเสียงรวมได้ง่ายขึ้น เหมาะทั้งกับผู้เริ่มต้นทำเพลงเองและคนที่ต้องการงานตัวอย่างไปเสนอหรือนำไปพัฒนาต่อ
เคสและการดูแลรักษา
ในชุดมาตรฐานจะไม่ได้แถมเคสมาด้วย แต่ผู้เล่นสามารถเลือกซื้อฮาร์ดเคสหรือ EpiLite Case เพิ่มเติมเพื่อช่วยปกป้องกีต้าร์ขณะเดินทางได้ การเก็บกีต้าร์ควรหลีกเลี่ยงทั้งอุณหภูมิที่ร้อนหรือเย็นเกินไป และควบคุมความชื้นให้เหมาะสม โดยเฉพาะถ้าเก็บในห้องปรับอากาศ การใช้ตัวเพิ่มหรือลดความชื้นในเคสจะช่วยยืดอายุไม้และทำให้กีต้าร์คงสภาพเสียงที่ดีได้นาน
การเช็ดสายและฟิงเกอร์บอร์ดหลังเล่นทุกครั้งจะช่วยลดคราบเหงื่อและสิ่งสกปรก ทำให้สายไม่ขึ้นสนิมเร็ว และช่วยยืดอายุการใช้งานของเฟรตและไม้คอได้ในระยะยาว
เหตุผลที่มืออาชีพหลายคนเลือกใช้งาน กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Epiphone J-45EC
มือกีต้าร์จำนวนมากมองว่าตระกูล J-45 เป็นหนึ่งในกีต้าร์ที่ไว้ใจได้ทั้งเรื่องความทนทานและโทนเสียง รุ่น J-45EC จึงถูกพัฒนาต่อยอดให้เล่นง่ายขึ้นด้วยคัทอะเวย์ แต่ยังเก็บคาแรคเตอร์เสียงอุ่น ๆ และโทนหวานแบบดั้งเดิมเอาไว้ ทำให้เหมาะทั้งกับคนที่ชอบเล่นแนวโฟล์ก ป็อป ร็อกเบา ๆ หรือใช้เป็นกีต้าร์หลักสำหรับเล่นประกอบร้อง
คนที่ต้องเล่นเมโลดี้บนเฟรตสูงจะรู้สึกว่าการเข้าถึงตำแหน่งปลายคอทำได้สะดวกขึ้นกว่าทรงเดิมที่ไม่มีคัทอะเวย์ ตัวเลือกสีอย่าง Vintage Sunburst และ Natural ก็ช่วยให้แต่ละคนเลือกโทนภาพลักษณ์ให้เข้ากับสไตล์ของตัวเองได้มากขึ้น
แนวทางการตั้งค่าเสียงให้เหมาะกับแนวดนตรีต่างๆ
- แนวโฟล์กหรืออะคูสติกป็อป: ปรับเบสระดับกลาง ๆ เพิ่มย่านเสียงกลางเล็กน้อย และไม่ดันเสียงแหลมมาก จะได้โทนเสียงนุ่ม อบอุ่น ฟังสบาย เหมาะกับการร้องนำ
- แนวป็อปร็อกหรือร็อกเบา ๆ: เพิ่มเบสและแหลมขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้เสียงคอร์ดชัดและมีเรี่ยวแรงมากขึ้นในเสียงรวมของทั้งวง แต่ยังควรระวังไม่ให้เสียงแหลมจัดเกินไป
- เล่นเดี่ยวในคาเฟ่: ลดเบสลงเล็กน้อย เพิ่มย่านกลางและแหลมให้ชัด เพื่อให้เสียงกีต้าร์ลอยออกมาฟังชัดแม้เล่นในระดับความดังไม่มาก
- ฟิงเกอร์สไตล์: ใช้โทนที่สมดุลทุกย่านเสียง เน้นให้โน้ตแต่ละสายแยกกันชัด อาจเพิ่มแหลมอีกเล็กน้อยเพื่อให้เสียงเกาใสและมีรายละเอียด
- เล่นร่วมกับเครื่องดนตรีหลายชิ้น: ลดเบสลงและเน้นย่านกลาง เพื่อไม่ให้ไปทับกับเสียงเบสหรือกลอง และช่วยให้กีต้าร์ยืนอยู่ในเสียงรวมได้อย่างพอดี
การเลือกสายและอุปกรณ์เสริมให้ตอบโจทย์การใช้งาน
- เลือกเบอร์สายประมาณ $.011\char`\–.052$ เพื่อให้สมดุลระหว่างความนุ่มมือและโทนเสียงที่เต็มกำลัง เหมาะทั้งการตีคอร์ดและเล่นเกา
- ถ้าไม่ชอบเสียงนิ้วเสียดสายหรืออยากให้สายอยู่ได้นานขึ้น การใช้สายเคลือบจะช่วยให้สัมผัสลื่นขึ้นเล็กน้อยและยืดอายุสาย
- เลือกคาโปที่หนีบสายได้สม่ำเสมอทุกสาย จะช่วยลดปัญหาเสียงเพี้ยนเวลาเปลี่ยนคีย์เพลง
- เมื่อต่อเข้าระบบ PA หรือมิกเซอร์ ใช้ DI Box ที่ออกแบบมาสำหรับกีต้าร์อะคูสติก จะช่วยลดสัญญาณรบกวนและรักษารายละเอียดของเสียงได้ดีขึ้น
- ควรเปลี่ยนสายตามความถี่การใช้งาน ถ้าเล่นเกือบทุกวัน เดือนละครั้งถือว่าเหมาะสมเพื่อให้ได้โทนเสียงที่สดใสและนิ่งอยู่เสมอ
สรุปภาพรวมและความคุ้มค่าที่ได้รับจาก กีต้าร์โปร่งไฟฟ้า Epiphone J-45EC
เมื่อพิจารณาจากการใช้ไม้ Solid ทั้งตัว ระบบไฟฟ้า Fishman ที่ติดตั้งมาจากโรงงาน งานประกอบแนววินเทจที่ดูดีในหลากหลายโอกาส และโทนเสียงที่ยิ่งเล่นนานยิ่งเปิด จะเห็นว่าเป็นกีต้าร์อีกรุ่นที่ให้ความคุ้มค่าทั้งสำหรับคนที่เริ่มจริงจังกับการเล่น และมืออาชีพที่ต้องใช้กีต้าร์ทำงานเป็นประจำ
ด้วยจุดเด่นด้านโทนเสียงที่สมดุล เล่นได้หลายแนว ระบบไฟฟ้าที่ใช้งานง่ายบนเวที และวัสดุโดยรวมที่เลือกใช้ในระดับจริงจัง ทำให้รุ่น J-45EC เป็นตัวเลือกที่น่าลองจับและน่ามีติดบ้านสำหรับคนที่กำลังมองหากีต้าร์โปร่งไฟฟ้าระดับกลางถึงสูง ที่พร้อมใช้งานได้ยาว ๆ และให้บุคลิกเสียงชัดเจนเป็นของตัวเอง
สนใจสั่งซื้อสินค้าทางออนไลน์ได้ที่ Lazada และ Shopee ได้เลยที่นี่
🛒สั่งซื้อได้ที่นี่
👉 Lazada > ดูรายละเอียดสินค้าใน Lazada
👉 Shopee > ดูรายละเอียดสินค้าใน Shopee