การยื่นฟ้องศาลแพ่ง จังหวัดเชียงใหม่

สอบถามและปรึกษา ใครเคยมีประสบการณ์เกี่ยวกับการเคีร์ยหนี้ที่ค่อนข้างสับซ้อนเหมือนละครบ้าง ขอเอ่ยเป็นนามสมมุตินะคะ
นาย ก. จดทะเบียนสมรส กับ นางสาว ข. ได้นำโฉนดที่ดินโดยให้พ่อนางสาว ข. มอบอำนาจให้ นางสาวข. ไปยื่นกู้แต่เนื่องด้วยตัวเองไม่มีสเตทเม้น จึงต้องจดทะเบียนกับ นาย ก.เพื่อให้นาย ก.ที่ทำงานอยู่ได้ยื่นกู้กับทางธนาคารได้ รอบแรกได้วงเงินออกมา 250000 บาท ผ่อนชำระปกติ เป็นเวลาประมาณ 1.5 ปี ต่อมาทางธนาคารเห็นว่ามีการผ่อนชำระดี จึงได้เสนอวงเงินกู้เพิ่มมาอีกประมาณ 150000 บาท ทางนาย ก. และนางสาว ข. จึงรับข้อเสนอทางธนาคาร ได้เงินกู้เพิ่ม อีก 1 วงเงิน และได้ผ่อนชำระ ตามปกติ สักประมาณ 1 ปี นาย ก. และ นางสาว ข.ได้เลิกกัน เพราะนางสาว ข.ไปมีชู้ ตอนแรกไม่ยอมหย่า เพราะเป็นเรื่องลูก ทางนายก. ก็ทนทุกข์ทรมาน จนอยู่ๆ นางสาว ข.เปลี่ยนใจมาขอหย่าด้วย และได้ไปมีครอบครัวใหม่ เรื่องการผ่อนชำระก็เริ่มไม่ปกติ จ่ายบ้างไม่จ่ายบ้าง ทางธนาคารก็ได้ออกหนังสือว่าต้องไปชำระยอด ในปี 64 จึงกลับมาสถานะปกติ ทั้ง 2 คนตกลงปากเปล่ากันไว้ จะผ่อนยอดตามที่คุยกัน แต่สุดท้ายนาย ก.ไปมีแฟนใหม่ แฟนใหม่แนะนำให้ยกเลิกการผ่อนชำระสะ เพราะยังไงจ่ายไม่ถึงขั้นต่ำเป็นเวลานาน ก็ติดสถานะทางธนาคารการชำระไม่ปกติอยู่ดี จากนั้นนาย ก.ไม่จ่าย และนางสาว ข. ก็ไม่จ่าย และไม่มีการติดต่อกัน จากนั้นธนาคารจึงส่งจดหมายทวงสอบถามยอด และได้ส่งจดหมายขายหนี้ให้บ.เอกชนที่รับซื้อหนี้มาทวงยอดต่อ
ทางบ.รับซื้อหนี้ ได้ติดต่อสอบถามนาย ก. ยืนยันไม่ชำระให้ยึดที่ดินที่ค้ำประกันนำไปขายทอดตลาด และถ้ายังมียอดค้าง เด๋วค่อยมาเคีร์ยกันภายหลัง และในเวลาใกล้เคียงกัน จดหมายจากบ.เอกชนที่รับซื้อหนี้ไป ได้ส่งจดหมายแจ้งทางเจ้าของที่ดิน ซึ่งเป็นครอบครัวนางสาว ข. ว่าจะทำการนำที่ดินขายทอดตลาดเพื่อมาชำระหนี้จำนวนที่รับซื้อหนี้มาจากธนาคาร ทางนางสาวข. ได้ติดต่อ นายก. ขอให้ไปเป็นปรับโครงสร้างหนี้ นายก.ยืนยันปฏิเสธ ไม่ไปติดต่อ จะติดต่อเมื่อทางนางสาว ข. ชำระหนี้ให้ทาง บ.ที่รับซื้อหนี้ หรือ ที่ดินโดนขายทอดตลาดไปแล้วเท่านั้น ทางนางสาว ข. ได้ต่อว่านายก. ถ้าปรับโครงสร้างหนี้แล้วจ่ายหมด ที่ดินก็เป็นของลูกอยู่ดี ซึ่งนายก.ไม่สนใจเพราะที่ผ่านมาก็ไม่เคยชำระตรงเลยสักครั้งเดียว
และทาง นาย ก.ได้สืบทราบมาว่า นางสาวข. กับ นายค.ซึ่งเป็นสามีคนใหม่ ได้ไปเอาที่ดินที่เดิมที่เคยยื่นกู้นี้ ไปกู้กับ บ.ศ ซึ่งได้เงินออกมาจำนวนนึงซึ่งไม่ทราบจำนวน เพราะเป็นข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่ง 2 คน นางสาวข. กับนายค. ก็ชำระไม่ตรงเวลาเหมือนเดิม ทางบ.ศ จึงยื่นต่อศาลฟ้อง เอาที่ดินขายทอดตลาดเหมือนกัน ซึ่งนางสาวข. ได้ติดต่อบ.เอกชนที่รับซื้อหนี้ จากธนาคารที่แรกก่อนแล้ว เจ้าหน้าที่แนะนำว่าไม่ต้องไปติดต่อศาล หรือทำเรื่องฟ้องต่อศาล ถ้าที่ดินขายทอดตลาดจริงและมีคนซื้อ จะให้จ่ายหนี้ลำดับแรกเป็น ของ บ.ศ ก่อน ซึ่งเจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นไปไม่ได้ เพราะถ้าขึ้นศาลแล้ว ศาลจะพิจารณาหนี้ มาจ่าย บ.ที่รับซื้อหนี้จากธนาคารเป็นที่แรกก่อน ซึ่งนางสาว ข.ไม่เชื่อ แล้วนายค ซึ่งเป็นสามีคนใหม่ ได้ยื่นเรื่องต่อศาล ไป

กรณีแบบนี้ จะเป็นไปได้หราคะ ว่าทางศาลจะพิจารณา จ่ายให้บ. ศ ก่อน ซึ่งเป็นการกู้ลำดับที่ 2 กับนาย ค. เพราะแค่ไปยื่นฟ้องก่อน

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่