รอรายละเอียดเรื่องก้อนลดหย่อนเพดาน 800,000 ในหมวดการลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีตัวใหม่อยู่
แต่อยากตั้งข้อสังเกตุ การมี filter ให้คนรายได้ต่อปีเกิน 1.5 ล้าน หักลดหย่อนได้ 0.7 เท่า
อันนี้มันไม่ขัดต่อการ ส่งเสริมการออมเพื่อการเกษียญใช่ไหม
เพราะกองออมเพื่อเกษียน เช่นกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือประกันบำนาญ อัตรผลตอบแทนมันไม่สูงเพราะความเสี่ยงต้องต่ำเพื่ออดออมใช่ไหม
กองพวกนี้ (ส่วนใหญ่) ไม่ค่อยมีให้เลือกเสี่ยงสูง หรือบางบริษัทเป็นพันธบัตรล้วน ตีผลตอบแทนไม่เกิน 1.5-2% ต่อปี แต่เอามาหักลดหย่อนภาษีเพราะรัฐบาลส่งเสริมให้คนเก็บเงินเกษียญเองได้แค่ 0.7 เท่า มันคือแค่ 70% ของเม็ดเงินที่ลงทุนไป (ข้อแม้ของคนรายได้เกิน 1.5 ล้านต่อปี ซึ่งเป็นคนส่วนน้อย ไม่มีปากเสียงเพราะก็พอมีกิน และงานยุ่งจนไม่มีเวลาไปนั่งประท้วง)
ไหนจะประกันสังคมเก็บเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งคนรายได้ที่ว่าเสียเพิ่มอยู่แล้ว และเป็นขั้นบันไดสูงขึ้นทุกสามปี จนไปจบที่เดือนละพันกว่าบาทได้สองทางจากนายจ้างและลูกจ้างเลย
เศรษฐกิจก็ไม่เห็นจะดี เสี่ยงเลิกจ้างเมื่ออายุ 45 ปีขึ้นไป เพราะเงินเดือนเยอะบริษัทลดต้นทุนเห็นผลทันที ไหนบริษัทจะต้องมาเพิ่มจ่ายประกันสังคมเพิ่มอีก มีแต่รายจ่าย
มันจะดีต่อคนกลุ่มรายได้ต่ำกว่า 1.5 ล้านจริงใช่ไหม ระบบเศรษฐกิจมันเกี่ยวข้องเป็นลูกโซ่ คนรายได้น้อยจะมีเงินเหลือมาซื้อกองทุนหรือ TISA เพื่อลดภาษีใช่ไหม เพราะภาษีเค้าก็ไม่เยอะ ซื้อไปก็ชอบขาดทุน คุ้มจริงหรือ
แล้วพวกเงินเหลือที่ไปลดการลดหย่อนเหลือ 0.7 เท่าของเม็ดเงินที่เค้าจ่ายจริง จะเหลือศัทธาในการซื้อลดหย่อนไหม
Provident Fund ที่โดนหักทุกเดือน หรือแม้แต่ประกันบำนาญจะกลายเป็น ลดหย่อนได้แค่ 0.7 สำหรับคนรายได้ >1.5M
แต่อยากตั้งข้อสังเกตุ การมี filter ให้คนรายได้ต่อปีเกิน 1.5 ล้าน หักลดหย่อนได้ 0.7 เท่า
อันนี้มันไม่ขัดต่อการ ส่งเสริมการออมเพื่อการเกษียญใช่ไหม
เพราะกองออมเพื่อเกษียน เช่นกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือประกันบำนาญ อัตรผลตอบแทนมันไม่สูงเพราะความเสี่ยงต้องต่ำเพื่ออดออมใช่ไหม
กองพวกนี้ (ส่วนใหญ่) ไม่ค่อยมีให้เลือกเสี่ยงสูง หรือบางบริษัทเป็นพันธบัตรล้วน ตีผลตอบแทนไม่เกิน 1.5-2% ต่อปี แต่เอามาหักลดหย่อนภาษีเพราะรัฐบาลส่งเสริมให้คนเก็บเงินเกษียญเองได้แค่ 0.7 เท่า มันคือแค่ 70% ของเม็ดเงินที่ลงทุนไป (ข้อแม้ของคนรายได้เกิน 1.5 ล้านต่อปี ซึ่งเป็นคนส่วนน้อย ไม่มีปากเสียงเพราะก็พอมีกิน และงานยุ่งจนไม่มีเวลาไปนั่งประท้วง)
ไหนจะประกันสังคมเก็บเพิ่มขึ้นอีก ซึ่งคนรายได้ที่ว่าเสียเพิ่มอยู่แล้ว และเป็นขั้นบันไดสูงขึ้นทุกสามปี จนไปจบที่เดือนละพันกว่าบาทได้สองทางจากนายจ้างและลูกจ้างเลย
เศรษฐกิจก็ไม่เห็นจะดี เสี่ยงเลิกจ้างเมื่ออายุ 45 ปีขึ้นไป เพราะเงินเดือนเยอะบริษัทลดต้นทุนเห็นผลทันที ไหนบริษัทจะต้องมาเพิ่มจ่ายประกันสังคมเพิ่มอีก มีแต่รายจ่าย
มันจะดีต่อคนกลุ่มรายได้ต่ำกว่า 1.5 ล้านจริงใช่ไหม ระบบเศรษฐกิจมันเกี่ยวข้องเป็นลูกโซ่ คนรายได้น้อยจะมีเงินเหลือมาซื้อกองทุนหรือ TISA เพื่อลดภาษีใช่ไหม เพราะภาษีเค้าก็ไม่เยอะ ซื้อไปก็ชอบขาดทุน คุ้มจริงหรือ
แล้วพวกเงินเหลือที่ไปลดการลดหย่อนเหลือ 0.7 เท่าของเม็ดเงินที่เค้าจ่ายจริง จะเหลือศัทธาในการซื้อลดหย่อนไหม