แม้ว่ารายได้เปิดตัวจะลดลงจากภาคแรกประมาณ -20% แต่ Five Nights at Freddy’s 2 ก็ยังช็อควงการด้วยการโค่น Zootopia 2 ครองแชมป์สุดสัปดาห์ Post-Thanksgiving ได้อย่างสบายๆ

1. Five Nights at Freddy’s 2 / ยังคงครองใจชาว Gen Z ที่เติบโตขึ้นมาพร้อมกับ FNAF และทำให้คนเจนอื่นต้องเกาหัวแกรกๆต่อไปว่าทำไมหนังที่ได้คะแนน Tomatometer แค่ 15% และเกรด CinemaScore แค่ B ไหงมันทำเงินถล่มทลายแบบนี้ Five Nights at Freddy’s 2 ทำรายได้เปิดตัว 3 วันไป 64 ล้านเหรียญ สร้างสถิติต่างๆบน Box Office ในบ้านดังนี้

 

- อันดับที่ 1 รายได้เปิดตัวสุดสัปดาห์ Post-Thanksgiving ตลอดกาล (แซง The Last Samurai ที่เคยทำไว้ 24.2 ล้านเหรียญ)

- อันดับที่ 1 รายได้สุดสัปดาห์ Post-Thanksgiving ตลอดกาล (แซง Moana 2 ที่เคยทำไว้ 51.2 ล้านเหรียญ)

- อันดับที่ 1 รายได้เปิดตัวเดือนธันวาคมตลอดกาลของ Universal (แซง King Kong ที่เคยทำไว้ 50.1 ล้านเหรียญ)

- อันดับที่ 2 รายได้เปิดตัวภาพยนตร์ Horror ของปี 2025 (อันดับที่ 1 คือ The Conjuring: Last Rites = 84 ล้านเหรียญ)

2. Zootopia 2 / ทำรายได้สุดสัปดาห์ที่ 2 ไป 43.43 ล้านเหรียญ ลดลงจากสัปดาห์ก่อน -56.7% ตกลงมาอยู่อันดับที่ 2 รายได้สุดสัปดาห์นี้น้อยกว่า Moana 2 อยู่ -15% จากรายได้สุดสัปดาห์ที่ 2 ไปจนจบการฉาย Moana 2 ทำรายได้เพิ่มไปอีก 161.1 ล้าน เท่ากับว่า Zootopia 2 น่าจะทำรายได้เพิ่มอีกราว 136.9 ล้าน รวมเป็นรายได้สุดท้ายที่ประมาณ 355-365 ล้านเหรียญ

3. Wicked for Good / ทำรายได้สุดสัปดาห์ที่ 3 ไป 17.36 ล้านเหรียญ ลดลงจากสัปดาห์ก่อน -71.9% ตกลงมาอยู่อันดับที่ 3 ซึ่งรายได้ในสุดสัปดาห์นี้พังพินาศอย่างแท้จริง โดยน้อยกว่า The Hunger Game: Catching Fire อยู่ -34% จากรายได้สุดสัปดาห์ที่ 3 ไปจนจบการฉาย The Hunger Game: Catching Fire ทำรายได้เพิ่มไปอีก 88.8 ล้าน เท่ากับว่า Wicked for Good น่าจะทำรายได้เพิ่มอีกราว 58.6 ล้าน รวมเป็นรายได้สุดท้ายที่ประมาณ 345-355 ล้านเหรียญ

4. Jujutsu Kaisen: Execution / ทำรายได้เปิดตัว 3 วันไป 10.07 ล้านเหรียญ ตอกย้ำความนิยมที่เพิ่มสูงขึ้นของเมะญี่ปุ่นในตลาดอเมริกาเหนืออย่างชัดเจน แม้ว่าจะเป็นเพียง Compilation Film ไม่ใช่หนังที่ทำมาเพื่อฉายโรงโดยเฉพาะเหมือน JJK0 แต่ JJKE ก็สามารถทำรายได้เปิดตัวในระดับ 10 ล้านเหรียญได้สำเร็จ

5. Now You See Me: Now You Don’t / ทำรายได้สุดสัปดาห์ที่ 4 ไป 3.49 ล้านเหรียญ ลดลงจากสัปดาห์ก่อน -49.5% ตกลงมาอยู่อันดับที่ 5 รายได้สุดสัปดาห์นี้มากกว่า Now you See Me 2 อยู่ 18% จากรายได้สุดสัปดาห์ที่ 4 ไปจนจบการฉาย Now You See Me 2 ทำรายได้เพิ่มไปอีก 6.4 ล้าน เท่ากับว่า Now You See Me: Now You Don’t น่าจะทำรายได้เพิ่มอีกราว 7.6 ล้าน รวมเป็นรายได้สุดท้ายที่ประมาณ 60-65 ล้านเหรียญ

6. Kill Bill: The Whole Bloody Affair / ทำรายได้เปิดตัว 3 วันไป 3.43 ล้านเหรียญ แม้ว่าตัวหนังจะยาวถึงเกือบๆ 5 ชั่วโมง (รวม Intermission) ซึ่งทำให้หนังสามารถฉายได้เพียง 2 รอบต่อวันเท่านั้นสำหรับโรงหนัง 1 โรง แต่ด้วยความเข้มข้นตามวิสัยทัศน์ดั้งเดิมของ Quentin Tarantino บวกกับผลตอบรับในระดับสุดยอดจากผู้ชมทั่วไปโดยได้เกรด CinemaScore = A+ ส่งผลให้ Kill Bill ฉบับเต็มทำรายได้สูงระดับนี้จากโรงฉายแค่ 1,198 โรงเท่านั้น

7. Eternity / ทำรายได้สุดสัปดาห์ที่ 2 ไป 2.73 ล้านเหรียญ ลดลงจากสัปดาห์ก่อน -14.2% ตกลงมาอยู่อันดับที่ 7 ซึ่งสุดสัปดาห์นี้มีการขยายจำนวนโรงฉายถึง 1,038 โรงหรือเกือบๆเท่าตัว ทำให้ไม่สามารถเปรียบเทียบรายได้กับภาพยนตร์เรื่องก่อนๆได้

8. Hamnet / ทำรายได้สุดสัปดาห์ที่ 2 ไป 2.31 ล้านเหรียญ เพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 148% ขึ้นมาอยู่อันดับที่ 8 ผลจากการขยายจำนวนโรงฉายถึง 625 โรง ทำให้ปัจจุบัน Hamnet ฉายแบบเกือบๆจะ Nationwide แล้ว และทำให้ยังไม่สามารถเปรียบเทียบรายได้กับภาพยนตร์เรื่องก่อนๆได้

9. Dhurandhar / ทำรายได้เปิดตัว 3 วันไป 1.98 ล้านเหรียญ ภาพยนตร์ Action-Thriller สืบสวนสอบสวนจากอินเดียที่มีความยาวถึง 214 นาทีหรือมากกว่า 3 ชั่วโมงครึ่ง!! ทำให้กลายเป็นหนึ่งในหนังอินเดียที่มีความยาวมากที่สุดตลอดกาล

10. Predator: Badlands / ทำรายได้สุดสัปดาห์ที่ 5 ไป 1.85 ล้านเหรียญ ลดลงจากสัปดาห์ก่อน -61.6% % ตกลงมาอยู่อันดับที่ 10 รายได้สุดสัปดาห์นี้มากกว่า Furiosa: A Mad Max Saga อยู่ 43% จากรายได้สุดสัปดาห์ที่ 5 ไปจนจบการฉาย Furiosa: A Mad Max Saga ทำรายได้เพิ่มไปอีก 1.4 ล้าน เท่ากับว่า Predator: Badlands น่าจะทำรายได้เพิ่มอีกราว 2 ล้าน รวมเป็นรายได้สุดท้ายที่ประมาณ 89-92 ล้านเหรียญ

ขอบคุณภาพจาก boxofficemojo.com