ตลาดหลักทรัพย์ฯ และฟุตซี่ รัสเซล ประกาศผลการคัดเลือกหลักทรัพย์ในดัชนี FTSE SET Index Series สำหรับรอบทบทวน ธ.ค. 2568 กลุ่ม Large Cap Index หุ้นเข้าใหม่ THAI-หุ้นออกดัชนี AWC
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และฟุตซี่ รัสเซล (FTSE Russell) ประกาศผลการทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ชุดใหม่ที่จะใช้ในการคำนวณ FTSE SET Index Series มีผลวันที่ 22 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป สรุปได้ดังนี้
ดัชนี FTSE SET Large Cap Index มี 1 หลักทรัพย์ใหม่ที่เข้าร่วมคำนวณ ได้แก่ บมจ.การบินไทย (THAI) ส่วนหลักทรัพย์ที่ออก (Deletion) ได้แก่ บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC)
ดัชนี FTSE SET Mid Cap Index มี 2 หลักทรัพย์ใหม่ที่เข้าร่วมคำนวณ ได้แก่ บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) และ บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง (SCCC) ส่วนหลักทรัพย์ที่ออก (Deletion) มี 6 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ.โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) (PTL), บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL), บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง (PSH), บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP), บมจ.สเตคอน กรุ๊ป (STECON) และ บมจ.ทีคิวเอ็ม อัลฟา (TQM)
ดัชนี FTSE SET Shariah Index มี 10 หลักทรัพย์ใหม่ที่เข้าร่วมคำนวณ ได้แก่ บมจ.บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค (BLC), บมจ.บลูบิค กรุ๊ป (BBIK), บมจ.ซีเค พาวเวอร์ (CKP), ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต (INETREIT), บมจ.เน็กซ์ พอยท์ (NEX), บมจ.โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล (KISS), บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง (SCCC), บมจ.เอสทีพี แอนด์ ไอ (STPI), บมจ.ทาทา สตีล (ประเทศไทย) (TSTH) และ บมจ.ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม (UVAN) ส่วนหลักทรัพย์ที่ออก (Deletion) มี 9 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT), บมจ.บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี (BJCHI), บมจ.แม็คกรุ๊ป (MC), บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง (PSH), บมจ.โรแยล พลัส (PLUS), บมจ.สามารถเทลคอม (SAMTEL), บมจ.สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT), บมจ.ศุภาลัย (SPALI) และบมจ.ทิปโก้ฟูดส์ (TIPCO)
ทั้งนี้ สามารถติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับดัชนีชุด FTSE SET Index Series และหลักเกณฑ์ในการคำนวณได้ที่เว็บไซต์
https://www.ftserussell.com/products/indices/set และ
https://www.set.or.th/th/market/index/ftse-set/profile
โดยการทบทวนหลักทรัพย์ที่ใช้ในการคำนวณดัชนีชุด FTSE SET Index Series จัดทำขึ้นปีละ 2 ครั้ง ตามหลักเกณฑ์ที่มีการกำหนดไว้เป็นการล่วงหน้า โดยมีกำหนดทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ครั้งต่อไปในเดือนมิถุนายน 2569
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ :
https://www.prachachat.net/finance/news-1933314
เปิดหลักทรัพย์ในดัชนี FTSE SET Index รอบทบทวน ธ.ค. 68
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และฟุตซี่ รัสเซล (FTSE Russell) ประกาศผลการทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ชุดใหม่ที่จะใช้ในการคำนวณ FTSE SET Index Series มีผลวันที่ 22 ธันวาคม 2568 เป็นต้นไป สรุปได้ดังนี้
ดัชนี FTSE SET Large Cap Index มี 1 หลักทรัพย์ใหม่ที่เข้าร่วมคำนวณ ได้แก่ บมจ.การบินไทย (THAI) ส่วนหลักทรัพย์ที่ออก (Deletion) ได้แก่ บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC)
ดัชนี FTSE SET Mid Cap Index มี 2 หลักทรัพย์ใหม่ที่เข้าร่วมคำนวณ ได้แก่ บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) และ บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง (SCCC) ส่วนหลักทรัพย์ที่ออก (Deletion) มี 6 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ.โพลีเพล็กซ์ (ประเทศไทย) (PTL), บมจ.พรีเชียส ชิพปิ้ง (PSL), บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง (PSH), บมจ.ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง (SNNP), บมจ.สเตคอน กรุ๊ป (STECON) และ บมจ.ทีคิวเอ็ม อัลฟา (TQM)
ดัชนี FTSE SET Shariah Index มี 10 หลักทรัพย์ใหม่ที่เข้าร่วมคำนวณ ได้แก่ บมจ.บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค (BLC), บมจ.บลูบิค กรุ๊ป (BBIK), บมจ.ซีเค พาวเวอร์ (CKP), ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ไอเน็ต (INETREIT), บมจ.เน็กซ์ พอยท์ (NEX), บมจ.โรจูคิส อินเตอร์เนชั่นแนล (KISS), บมจ.ปูนซีเมนต์นครหลวง (SCCC), บมจ.เอสทีพี แอนด์ ไอ (STPI), บมจ.ทาทา สตีล (ประเทศไทย) (TSTH) และ บมจ.ยูนิวานิชน้ำมันปาล์ม (UVAN) ส่วนหลักทรัพย์ที่ออก (Deletion) มี 9 หลักทรัพย์ ได้แก่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (AOT), บมจ.บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี (BJCHI), บมจ.แม็คกรุ๊ป (MC), บมจ.พฤกษา โฮลดิ้ง (PSH), บมจ.โรแยล พลัส (PLUS), บมจ.สามารถเทลคอม (SAMTEL), บมจ.สมบูรณ์ แอ๊ดวานซ์ เทคโนโลยี (SAT), บมจ.ศุภาลัย (SPALI) และบมจ.ทิปโก้ฟูดส์ (TIPCO)
ทั้งนี้ สามารถติดตามรายละเอียดเกี่ยวกับดัชนีชุด FTSE SET Index Series และหลักเกณฑ์ในการคำนวณได้ที่เว็บไซต์ https://www.ftserussell.com/products/indices/set และ https://www.set.or.th/th/market/index/ftse-set/profile
โดยการทบทวนหลักทรัพย์ที่ใช้ในการคำนวณดัชนีชุด FTSE SET Index Series จัดทำขึ้นปีละ 2 ครั้ง ตามหลักเกณฑ์ที่มีการกำหนดไว้เป็นการล่วงหน้า โดยมีกำหนดทบทวนรายชื่อหลักทรัพย์ครั้งต่อไปในเดือนมิถุนายน 2569
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : https://www.prachachat.net/finance/news-1933314