หมอต้นจากเรื่องที่ เรียกหมอโดยที่ไม่มีคำว่าหมอนำหน้า มันผิดมากเลยหรอ

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับผมหมอต้น(นามสมมุติที่พูดถึงในกระทู้นะครับ) จริงๆผมชื่อตั้มครับ ทำงานที่คลินิกไม่ใช่ รพ.นะครับ น้องแป๋มอาจจะเขียนเป็น รพ คาดว่าน่าจะไม่ให้รู้ว่าเป็นคลินิกครับ น้องเปิ้ล(นามสมมุติ) จริงๆชื่อน้องแป๋มนะครับ ทางผมได้ขออนุญาติน้องแป๋มเพื่อมาเล่าถึงเรื่องนี้เรียบร้อยครับ เหตุเกิดจากที่เพื่อนผมเห็นโพสต์เกี่ยวกับหมอในแฟนเพจ แล้วเห็นตรงกันว่าเป็นผมแน่ๆเพราะก่อนหน้านี้ก็ปรึกษาเพื่อนเรื่องนี้มาบ้างครับ โดยปกติผมจะไม่ค่อยเสพสื่อครับ ส่วนมากมีแต่ line ไว้ทำงาน
ก่อนหน้านี้ช่วงมหาลัยผมยอมรับว่าตอนนั้นผมรู้จักน้องแป๋มครับ แต่น้องแป๋มไม่เคยรู้จักผมแน่ๆ ย้อนไปช่วง 10ปีได้ครับ รายละเอียดอาจจะเล่าไม่หมดนะครับ นานแล้วลืมเลือนกันบ้าง
…1 ตอนนั้นผมเป็น extern น้องแป๋มอยู่เภสัช(มหาลัยชื่อดัง)ถ้าจำไม่ผิดน่าจะปี1ไม่ก็2ครับ มีช่วงนึงใช้คำว่าตอนนั้นแอบชอบน้องแป๋มก็ได้ครับ แต่ด้วยผมเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างเงียบๆเลยไม่ได้ทักไปจีบ +เพื่อนในกลุ่มบอกว่าเวลาที่แป๋มคบกับใครตอนเลิกกันจะชอบเอาข้อเสียของผู้ชายคนนั้นมาโพสต์ ซึ่งตัวผมเป็นคนเงียบๆก็จริงครับแต่ข้อเสียก็มีแน่นอนแหละ เหตุผลนี้ในเวลานั้นเลยทำให้ผมไม่กล้าทักไปจีบ ขนาดติดตามfacebookผมยังไม่กล้าเลยครับ เลยใช้แอคเพื่อนคอยส่งข่าวเกี่ยวกับแป๋มเพราะเป็นเพื่อนกันใน FB

…2 หลังจากนั้นประมาณ4-6เดือนต่อมา พึ่งรู้ว่าแป๋มลาออกจากคณะเภสัช ส่วนเหตุผลนั้นผมก็ไม่ทราบครับ เพื่อนผมที่เป็นเพื่อนในเฟสน้องแป๋มบอกแค่ว่าน้องคงลาออกไปสอบหมอตามธรรมเนียมเด็กเภสัชบางกลุ่มครับ และหลังจากนั้นก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย แป๋มหายไปจากออนไลน์และผมก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็เป็นห่วงครับ

…3 จนกระทั่งปี 68 บังเอิญมากๆที่แป๋มได้ทำงานคลินิกเดียวกันกับผม วันนั้นที่ผมเจอแป๋ม ผมค่อนข้างที่จะงงและอึ้งครับ แต่ผมมั่นใจว่าแป๋มไม่รู้จักผมแน่ๆ เพราะตอนเจอครั้งแรก เรียกว่าแป๋มแทบจะไม่คุยกับผมเลยก็ได้ครับ5555 หลังจากนั้นไม่แน่ใจว่ากี่เดือน ผมกับแป๋มเริ่มสนิทกันมากขึ้นครับ พูดได้เลยว่าแป๋มน่าจะเป็นมือขวาของผมเลยยิ้ม ลืมบอกไปเลยครับว่าแป๋มเป็นเซลล์ความงาม อีกอย่างผมยืนยันด้วยเกียรติของลูกผู้ชายเลยครับ ว่าช่วงแรกๆแป๋มเรียกผมว่าคุณหมอจริงๆ และแป๋มก็เรียกคุณหมอท่านอื่นๆสรรพนามคือคุณหมอเหมือนกันหมดทุกท่านครับ แป๋มเป็นคนที่ให้เกียรติคนอื่นเสมอครับ
ด้วยความที่ผมกับแป๋มเริ่มสนิทกัน ผมก็แทนตัวเองว่าพี่กับแป๋ม แต่ผมจะเรียกแป๋มสรรพนามเป็น หนู ตอนนั้นแป๋มก็ยังเรียกผมว่าคุณหมออยู่นะครับ จนวันนึงแป๋มเริ่มเรียกผมว่าพี่ตั้มครั้งแรก ตอนนั้นรู้สึกแปลกๆนิดนึงครับ เพราะชินกับคำว่าคุณหมอ…. และสิ่งที่เกิดขึ้นก็ตามที่แป๋มเล่าในกระทู้เลยครับแต่ผมจะขออธิบายเพิ่มเติมในส่วนนี้...
4 …ก่อนหน้านี้ผมติดต่อเรื่องคลินิกทุกอย่างผ่านแป๋มหมด แต่พอผมเริ่มรู้ว่ามีคนนินทาว่าผมกับแป๋มมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกัน ผมเลยใช้วิธีติดต่อเจ้าหน้าที่ในคลินิกแทนที่จะคุยกับแป๋มแทนครับ พูดง่ายๆคือผมไม่อยากให้เขาโดนนินทา ช่วงที่รู้ว่ามีเรื่องนี้ ก่อนหน้านี้ผมจะเข้าเวรที่สาขานี้อาทิตย์ละ2วัน เดือนละ 8วัน ผมก็ลดลงมาเหลือเดือนละ 2-3วัน เพื่อที่จะให้เรื่องมันเงียบๆไป แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมันกลับใหญ่สำหรับแป๋ม แป๋มโดนหลายคนในคลินิกวิจารณ์ใส่คล้ายๆการเบลมครับ มีการประชดและล้อเลียนพฤติกรรมที่ไม่เป็นความจริงของแป๋ม ตอนนั้นผมอยู่ในเหตุการณ์แต่ผมไม่อยากทำอะไรให้แย่ไปมากกว่านี้ เลยได้แต่เงียบครับ หลังจากเหตุการณ์นี้ผมไม่ได้เข้าสาขานี้3วีคครับ เนื่องจากผมไม่อยากรับรู้อะไรเกี่ยวกับแป๋ม ฟังดูอาจจะเห็นแก่ตัวนิดๆนะครับ แต่ผมรู้สึกแย่จริงๆ
5 …และขออธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับเรื่องที่มีคนบอกผมว่าแป๋มแอบอ้างว่าคุยกับผม อันนี้ได้มีการคุยและปรับความเข้าใจเมื่อวานวันที่8 ธ.ค. ช่วงเย็นๆแล้วครับ หลักๆคือผมเข้าใจแป๋มผิด และเชื่อคนอื่นมากกว่าที่จะไปถามแป๋ม เอาจริงๆนะความรู้สึกของผมตอนนั้น ผมคิดลึกๆว่าแป๋มทำแบบนี้ไปทำไม แอบอ้างว่าคุยกับผมแล้วไปกินข้าวด้วยกันหลังเลิกงานนี่นะ ผลสรุปคือแป๋มโดนใส่ร้ายครับ และผมรู้สึกผิดกับแป๋มมากๆ

6… ต่อมาเรื่องที่ผมบอกให้แป๋มเรียกผมว่าหมอ
น้องแป๋มก็ทักมาถามเรื่องฟิลเลอร์นี่แหละครับ แต่ต้องยอมรับตรงๆนะครับว่าตอนนั้นผมมีแฟนแล้วแต่พึ่งคบกันแค่ปีเศษๆ “แฟนผมเป็นคนตอบแชทนั้นครับ” และผมก็เดาความรู้สึกแป๋มไม่ออกว่าแป๋มหงอยรึอะไรตามที่เขียนในกระทู้ ส่วนที่ผมตอบ 555 คือผมเอ็นดูแป๋มครับ เหมือนเด็กน้อยโดนแกล้งอะไรแบบนี้ แต่ผมก็ไม่คิดจริงๆว่าแป๋มรู้สึกแย่ ในส่วนนี้ผมได้มีการอธิบายและขอโทษแป๋มและแฟนเป็นการส่วนตัวแล้วครับ เรื่องนี้เกิดขึ้นเดือนนึงแล้วนะครับ

7….ผมเลิกกับแฟนได้3วีคแล้วครับ และผมคิดว่าอยากสานต่อความสัมพันธ์กับแป๋ม(ไม่ใช่เพราะผมไม่เหลือใคร) พูดแบบลูกผู้ชายเลย ผมยังคงตามหาว่าแป๋มหายไปไหนตั้งแต่ที่แป๋มลาออกจากเภสัช ตอนนี้รู้แล้วครับว่าเหตุผลของแป๋มคืออะไร ที่สำคัญไม่ใช่ว่าผมไม่รักแฟนผมนะครับ รักครับ แต่ผมทนไม่ได้ถ้าเล่าต่อคงหนักครับเพราะแฟนผมทำเรื่องไม่ค่อยดีบ่อยครั้งเกี่ยวกับแป๋ม คร่าวๆคือแฟนผมติดต่อกับบุคคลที่3ในที่ทำงานคลินิก คนที่แป๋มกล่าวถึงในกระทู้เลยครับและบุคคลที่3ได้มีการใส่ความแป๋ม ซึ่งแฟนผมก็ดันเชื่อ แล้วส่งเมลล์หา HR เกี่ยวกับความสัมพันธ์เชิงชู้สาว ซึ่งไม่ได้มีการสอบสวนเป็นการฟังปากต่อปาก ทำให้แป๋มได้รับใบเตือน เรื่องใบเตือนพึ่งทราบมาจาก ผจก ครับ พอผมรู้ความจริงอะไรมากขึ้น ตอนนี้ผมก็รู้ตัวแล้วว่าผมไม่เคยลืมแป๋มเลย แต่น่าเสียใจครับ แป๋มติดสินใจลาออกสิ้นเดือน ธันวาคมนี้แล้วครับ เราคงห่างกันอีกรอบครับ
ขออภัยที่มาตอบกลับกระทู้ช่วงดึกๆนะครับ พึ่งได้มีโอกาสเรียบเรียงคำพูดเสร็จครับ ออกเวรมาตอน20:00 รถติดมากๆ🙏
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่