TITLE: เดือดจัด! The Toxic Avenger (2025) รีวิวแบบบ้านๆ จากเด็กฮิปปี้สายดาร์ก

สวัสดีครับชาว Pantip ทุกท่าน วันนี้ผมมีหนังที่หลายคนรอคอยมาเล่าสู่กันฟัง นั่นก็คือ The Toxic Avenger ฉบับปี 2025 ที่เพิ่งเข้าฉายไปหมาดๆ ครับ บอกเลยว่ามันส์เกินคาด ดีกว่าที่คิดไว้เยอะเลย ใครเป็นแฟนหนังเกรดบี หนังฮีโร่ดิบๆ เถื่อนๆ ห้ามพลาดเด็ดขาดครับ

ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่า ผมไม่ใช่คอหนังที่วิเคราะห์ลึกซึ้งอะไรมากมายนะครับ รีวิวนี้มาจากความรู้สึกล้วนๆ สไตล์บ้านๆ คนดูทั่วไปที่อยากแชร์ประสบการณ์หลังจากดูจบไปแล้ว ถ้ามีตรงไหนผิดพลาด หรือใช้คำพูดไม่เหมาะสม ต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะครับ

หนังเรื่องนี้เป็นฉบับรีบูตของ The Toxic Avenger ฉบับปี 1984 ที่หลายคนอาจจะคุ้นหูกันดีในฐานะหนังคัลท์สุดเพี้ยน แต่ฉบับปี 2025 นี้ เขาทำออกมาให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น แต่ยังคงกลิ่นอายความดิบ ความเกรี้ยวกราด และความตลกร้ายแบบจัดเต็มไว้ได้ครบถ้วนครับ

เรื่องราวเริ่มต้นที่ เมลวิน จุนโก้ (รับบทโดย Peter Dinklage) เป็นคนขายของที่ดูไม่สมประกอบนิดๆ แต่จิตใจดี เขาทำงานอยู่ในบริษัทที่เต็มไปด้วยความเน่าเฟะและคอร์รัปชัน ซึ่งมีผู้นำสุดชั่วร้ายอย่าง บาร์บาร่า จุนโก้ (รับบทโดย Julia Louis-Dreyfus) เป็นผู้บริหารสูงสุด วันหนึ่ง เมลวินดันไปรู้ความลับดำมืดของบริษัทเข้า เลยถูกหมายหัว และเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับสารเคมีอันตราย และกลายร่างเป็นฮีโร่สุดโหดนามว่า "The Toxic Avenger" ครับ

สิ่งที่ผมชอบมากที่สุดในหนังเรื่องนี้คือ ความกล้าหาญในการนำเสนอครับ มันไม่ใช่หนังฮีโร่แบบที่เราคุ้นเคย ที่พระเอกจะหล่อเท่ สมาร์ทตลอดเวลา แต่ The Toxic Avenger ฉบับนี้เขาเน้นความสมจริง (ในแบบของเขา) ความดิบ ความโหด และการแก้แค้นที่สะใจมากๆ ครับ ฉากแอ็กชั่นคือสุดยอด ไม่กั๊กเลือดสาด กระจุยกระจาย สมกับที่เป็นหนังเกรดบีแต่ใส่ใจรายละเอียด

การแสดงของนักแสดงก็ทำได้ดีครับ โดยเฉพาะ Peter Dinklage ที่สวมบทบาทเป็น เมลวิน/The Toxic Avenger ได้อย่างน่าทึ่ง เขาถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละครได้อย่างมีมิติ ทั้งความอ่อนแอ ความโกรธแค้น และความมุ่งมั่นที่จะปกป้องคนที่เขารัก ส่วน Julia Louis-Dreyfus ก็ร้ายกาจสมบทบาทมากๆ ครับ เป็นตัวร้ายที่น่าหมั่นไส้และน่าจดจำจริงๆ

อีกอย่างที่ประทับใจคือ การเสียดสีสังคมครับ หนังเรื่องนี้สอดแทรกประเด็นเรื่องการคอร์รัปชัน มลพิษ สิ่งแวดล้อม และความเหลื่อมล้ำทางสังคมได้อย่างแยบยล ถึงแม้จะนำเสนอในรูปแบบที่ดูรุนแรง แต่ก็ทำให้เราได้คิดตามไปด้วยนะครับ มันสะท้อนภาพสังคมปัจจุบันได้เป็นอย่างดีเลย

แน่นอนว่า หนังเรื่องนี้อาจจะไม่เหมาะกับทุกท่านนะครับ ถ้าใครเป็นคนอ่อนไหวกับฉากความรุนแรง เลือดสาด หรือมุกตลกร้ายที่ค่อนข้างสุดโต่ง อาจจะต้องทำใจ หรือข้ามเรื่องนี้ไปก่อน แต่ถ้าคุณเป็นคนที่ชอบอะไรที่มันแตกต่าง ชอบความดิบ ความเถื่อน และไม่กลัวที่จะเจออะไรที่มัน "นอกกรอบ" รับรองว่าคุณจะสนุกกับ The Toxic Avenger ฉบับนี้แน่นอนครับ

ผมชอบที่หนังเรื่องนี้ไม่พยายามจะเป็นหนังฮีโร่ที่สมบูรณ์แบบ มันมีความเป็นหนังอินดี้ มีความเป็นหนังเกรดบีที่กล้าเล่นใหญ่ กล้าทำอะไรที่ไม่เหมือนใคร และนั่นแหละคือเสน่ห์ของมันครับ มันเหมือนเราได้ย้อนกลับไปดูหนังยุคเก่าๆ ที่มีความดิบ ความจริงใจ แต่ถูกนำเสนอออกมาได้อย่างทันสมัย

โดยสรุปแล้ว The Toxic Avenger (2025) เป็นหนังที่มอบประสบการณ์ความบันเทิงที่จัดเต็มมากๆ ครับ ฉากแอ็กชั่นมันส์ เลือดสาดสะใจ ตัวละครมีเสน่ห์ และมีการเสียดสีสังคมที่น่าสนใจ ถึงแม้จะมีบางฉากที่อาจจะดูเกินจริงไปหน่อย แต่โดยรวมแล้วถือว่าเป็นหนังที่คุ้มค่าแก่การเสียเวลาไปดูครับ

ถ้าให้คะแนนแบบบ้านๆ ผมให้ 8/10 ครับ หักไป 2 คะแนนก็เพราะบางมุกอาจจะแรงไปนิดสำหรับคนทั่วไป แต่ถ้าคุณเป็นคอหนังแนวนี้อยู่แล้ว บวกเพิ่มไปอีก 1 คะแนนได้เลยครับ

ใครที่ดูแล้ว หรือกำลังจะไปดู มาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันได้นะครับ ผมอยากรู้ว่าคนอื่นคิดเห็นอย่างไรกับหนังเรื่องนี้บ้าง

สุดท้ายนี้ ขอบคุณที่อ่านรีวิวของผมนะครับ หวังว่าจะเป็นประโยชน์ในการตัดสินใจของทุกท่านครับ แล้วเจอกันใหม่รีวิวหน้าครับ!