สวัสดีครับเพื่อน ๆ ชาวพันทิป
ผมขอมาเล่าเรื่องออฟฟิศของผม ที่ทุกวันไม่เคยเรียบง่ายเลย
บอกเลยว่านี่มันไม่ใช่ออฟฟิศธรรมดา
มันคือ ซีรีส์ที่มีครบทุกอารมณ์…ทั้งฮา ทั้งเครียด ทั้งดราม่า เหมือนชีวิตพนักงานประจำกึ่งนักแสดง
🎭 ตัวละครในเรื่องนี้
พี่มีมี่ – HR สายสตรอง
ปากกล้า ใจดี ช่วยทุกคน แต่ดราม่าประจำบ้านก็เยอะอยู่
พี่เอก – IT ผู้เป็นเหมือนวิญญาณระบบคอม
ชอบโผล่มาดื้อ ๆ แบบไม่เดิน ไม่ออกเสียง ไม่มีใครรู้เขามาตอนไหน
น้องบิว – เด็กใหม่สดใสที่มีพลังชีวิต + ดราม่าส่วนตัวแบบไม่ตั้งใจ
ผม – พนักงานธรรมดา ที่ดันอยู่กลางทุกเรื่องเสมอ
🌞 เช้าที่ควรจะสดใส แต่ดราม่าบุกก่อน
เช้าวันนั้นผมเดินเข้ามาพร้อมกาแฟแก้วโปรด
แต่ไม่ทันนั่ง น้องบิวก็เดินมาถามด้วยเสียงเบามากว่า
“พี่…หนูขอคุยอะไรหน่อยได้ไหมคะ”
ผม: “ได้สิ มีอะไรเหรอ”
น้องบิว: “อืม…หนูทะเลาะกับแม่มา แล้วแม่บอกว่าให้หนูออกจากบ้าน…”
ผมนี่กาแฟติดคอไปหนึ่งที
กำลังจะปลอบอยู่ดี ๆ
เสียงพี่มีมี่ดังลั่นออฟฟิศ
“เฮ้ยยย ใครทำไมค์หายไปหนึ่งอัน!! ใคร!!?”
บรรยากาศดราม่าในใจน้องบิวพังลงด้วยเสียง HR แบบ surround
ผมได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ เหมือนพระรองในซีรีส์
🖥️ ประชุมที่ไม่เคยปล่อยให้เราเป็นมนุษย์ทำงานปกติ
ตอนสายมีประชุมทีมครับ
หัวหน้าถามว่า “ทุกคนมีอะไรอัปเดตไหมครับ”
ทุกคนเงียบ
แต่พี่เอกอยู่ดี ๆ ก็พูดว่า
“ผมมีครับ…คอมเครื่องเบอร์ 3 ใกล้พังเต็มทีครับ ถ้าใครไปนั่ง ผมไม่รับผิดชอบนะครับ”
หัวหน้า: “อ…อัปเดตงานครับ ไม่ใช่อัปเดตฮาร์ดแวร์”
น้องบิวลืมปิดไมค์แล้วพูดเบา ๆ ว่า
“เครื่องนั้นผมเพิ่งซักผ้ามาแห้งกว่าคอมอีก”
ทั้งห้องประชุมหัวเราะแต่หัวหน้าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
🍽️ พักเที่ยงที่กลายเป็นเวลาปลอบใจ
ตอนเที่ยงผมไปกินข้าวกับน้องบิว
พอถามดี ๆ ว่าเป็นยังไงบ้าง
น้องก็น้ำตาคลออีก
“หนูแค่อยากทำงานดี ๆ ให้แม่ภูมิใจ แต่แม่บอกว่าหนูทำอะไรก็ผิด…”
ผมกำลังกะจะปลอบ
พี่มีมี่วิ่งมาแล้วพูดว่า
“เฮ้ยยย ขอยืมบิวแป๊บหนึ่ง! มีเอกสารด่วน!”
น้องบิวลุกไปทันที ส่วนผมได้แต่ถอนหายใจ
รู้สึกเหมือนจะปลอบได้แต่ไม่เคยทันซีรีส์ตอนต่อไปของชีวิตจริง
🕒 ตอนบ่ายที่ทั้งง่วง ทั้งเครียด ทั้งฮา
งานตอนบ่ายมันบีบหัวใจมาก เพราะทุกคนเริ่มแรงตก
แต่งานเร่งเข้ามาเป็นกอง
พี่มีมี่อยู่ดี ๆ ก็เดินมาหาผม
“น้อง…ถ้าเธอเครียดนะ พี่มีวิตามินให้ กินแล้วดีจริง พี่กินทุกวัน ไม่งั้นฉันกรี๊ดไปแล้ว”
พูดจบพี่ก็ลงไลน์กรุ๊ปว่า
“งานนี้ต้องส่งวันนี้นะทุกคนนนนน!!! อย่าให้พี่ต้องปีนขึ้นไปดึงเอกสารออกจากมือใคร!”
ทั้งออฟฟิศสะดุ้งแบบพร้อมเพรียง
พี่เอกเดินผ่านมาพึมพำว่า “รีสตาร์ตชีวิตได้ไหมครับ ไม่ไหวแล้วครับพี่”
🌧️ ก่อนเลิกงาน…ดราม่ามาอีก
น้องบิวเดินมาหาผม หลังงานเสร็จ
แล้วพูดว่า
“พี่ ขอบคุณนะที่ฟังหนูเมื่อเช้า ต่อให้มันถูกขัดโดย HR ก็เถอะ…”
ผมนี่ยิ้มเลย
แต่พอน้องกำลังจะพูดต่อ
ไฟทั้งออฟฟิศก็ดับ!
ทุกคนร้อง “เห้ยยยย!” กันทั้งสำนักงาน
มีแค่พี่เอกที่พูดนิ่ง ๆ ว่า
“อะแฮ่ม…ผมลืมเติมน้ำมันเครื่องปั่นไฟสำรองครับ”
ความซึ้งที่กำลังจะเกิด หายไปเหมือนถูกลบไฟล์ทิ้ง
🎉 สรุปของวันนั้น
มันอาจจะเป็นวันธรรมดาของหลายคน
แต่สำหรับผม…
มันเป็นวันที่เต็มไปด้วย
✔ ความฮา
✔ ความวุ่นวาย
✔ ปัญหาชีวิตของเพื่อนร่วมงาน
✔ ความซึ้งที่มาแบบสั้น ๆ แล้วโดนขัดทุกที
✔ และดราม่าแบบชีวิตพนักงานรายวัน
แต่ก็แปลกนะ…
พอเลิกงาน ผมกลับคิดว่า
ถ้าวันหนึ่งไม่มีเรื่องพวกนี้เลย…อาจเหงากว่าที่คิดก็ได้
ออฟฟิศที่คิดว่าเบา แต่จริง ๆ คือซีรีส์เกาหลีปลอมตัวมา
ผมขอมาเล่าเรื่องออฟฟิศของผม ที่ทุกวันไม่เคยเรียบง่ายเลย
บอกเลยว่านี่มันไม่ใช่ออฟฟิศธรรมดา
มันคือ ซีรีส์ที่มีครบทุกอารมณ์…ทั้งฮา ทั้งเครียด ทั้งดราม่า เหมือนชีวิตพนักงานประจำกึ่งนักแสดง
🎭 ตัวละครในเรื่องนี้
พี่มีมี่ – HR สายสตรอง
ปากกล้า ใจดี ช่วยทุกคน แต่ดราม่าประจำบ้านก็เยอะอยู่
พี่เอก – IT ผู้เป็นเหมือนวิญญาณระบบคอม
ชอบโผล่มาดื้อ ๆ แบบไม่เดิน ไม่ออกเสียง ไม่มีใครรู้เขามาตอนไหน
น้องบิว – เด็กใหม่สดใสที่มีพลังชีวิต + ดราม่าส่วนตัวแบบไม่ตั้งใจ
ผม – พนักงานธรรมดา ที่ดันอยู่กลางทุกเรื่องเสมอ
🌞 เช้าที่ควรจะสดใส แต่ดราม่าบุกก่อน
เช้าวันนั้นผมเดินเข้ามาพร้อมกาแฟแก้วโปรด
แต่ไม่ทันนั่ง น้องบิวก็เดินมาถามด้วยเสียงเบามากว่า
“พี่…หนูขอคุยอะไรหน่อยได้ไหมคะ”
ผม: “ได้สิ มีอะไรเหรอ”
น้องบิว: “อืม…หนูทะเลาะกับแม่มา แล้วแม่บอกว่าให้หนูออกจากบ้าน…”
ผมนี่กาแฟติดคอไปหนึ่งที
กำลังจะปลอบอยู่ดี ๆ
เสียงพี่มีมี่ดังลั่นออฟฟิศ
“เฮ้ยยย ใครทำไมค์หายไปหนึ่งอัน!! ใคร!!?”
บรรยากาศดราม่าในใจน้องบิวพังลงด้วยเสียง HR แบบ surround
ผมได้แต่ยิ้มแห้ง ๆ เหมือนพระรองในซีรีส์
🖥️ ประชุมที่ไม่เคยปล่อยให้เราเป็นมนุษย์ทำงานปกติ
ตอนสายมีประชุมทีมครับ
หัวหน้าถามว่า “ทุกคนมีอะไรอัปเดตไหมครับ”
ทุกคนเงียบ
แต่พี่เอกอยู่ดี ๆ ก็พูดว่า
“ผมมีครับ…คอมเครื่องเบอร์ 3 ใกล้พังเต็มทีครับ ถ้าใครไปนั่ง ผมไม่รับผิดชอบนะครับ”
หัวหน้า: “อ…อัปเดตงานครับ ไม่ใช่อัปเดตฮาร์ดแวร์”
น้องบิวลืมปิดไมค์แล้วพูดเบา ๆ ว่า
“เครื่องนั้นผมเพิ่งซักผ้ามาแห้งกว่าคอมอีก”
ทั้งห้องประชุมหัวเราะแต่หัวหน้าทำหน้าเหมือนจะร้องไห้
🍽️ พักเที่ยงที่กลายเป็นเวลาปลอบใจ
ตอนเที่ยงผมไปกินข้าวกับน้องบิว
พอถามดี ๆ ว่าเป็นยังไงบ้าง
น้องก็น้ำตาคลออีก
“หนูแค่อยากทำงานดี ๆ ให้แม่ภูมิใจ แต่แม่บอกว่าหนูทำอะไรก็ผิด…”
ผมกำลังกะจะปลอบ
พี่มีมี่วิ่งมาแล้วพูดว่า
“เฮ้ยยย ขอยืมบิวแป๊บหนึ่ง! มีเอกสารด่วน!”
น้องบิวลุกไปทันที ส่วนผมได้แต่ถอนหายใจ
รู้สึกเหมือนจะปลอบได้แต่ไม่เคยทันซีรีส์ตอนต่อไปของชีวิตจริง
🕒 ตอนบ่ายที่ทั้งง่วง ทั้งเครียด ทั้งฮา
งานตอนบ่ายมันบีบหัวใจมาก เพราะทุกคนเริ่มแรงตก
แต่งานเร่งเข้ามาเป็นกอง
พี่มีมี่อยู่ดี ๆ ก็เดินมาหาผม
“น้อง…ถ้าเธอเครียดนะ พี่มีวิตามินให้ กินแล้วดีจริง พี่กินทุกวัน ไม่งั้นฉันกรี๊ดไปแล้ว”
พูดจบพี่ก็ลงไลน์กรุ๊ปว่า
“งานนี้ต้องส่งวันนี้นะทุกคนนนนน!!! อย่าให้พี่ต้องปีนขึ้นไปดึงเอกสารออกจากมือใคร!”
ทั้งออฟฟิศสะดุ้งแบบพร้อมเพรียง
พี่เอกเดินผ่านมาพึมพำว่า “รีสตาร์ตชีวิตได้ไหมครับ ไม่ไหวแล้วครับพี่”
🌧️ ก่อนเลิกงาน…ดราม่ามาอีก
น้องบิวเดินมาหาผม หลังงานเสร็จ
แล้วพูดว่า
“พี่ ขอบคุณนะที่ฟังหนูเมื่อเช้า ต่อให้มันถูกขัดโดย HR ก็เถอะ…”
ผมนี่ยิ้มเลย
แต่พอน้องกำลังจะพูดต่อ
ไฟทั้งออฟฟิศก็ดับ!
ทุกคนร้อง “เห้ยยยย!” กันทั้งสำนักงาน
มีแค่พี่เอกที่พูดนิ่ง ๆ ว่า
“อะแฮ่ม…ผมลืมเติมน้ำมันเครื่องปั่นไฟสำรองครับ”
ความซึ้งที่กำลังจะเกิด หายไปเหมือนถูกลบไฟล์ทิ้ง
🎉 สรุปของวันนั้น
มันอาจจะเป็นวันธรรมดาของหลายคน
แต่สำหรับผม…
มันเป็นวันที่เต็มไปด้วย
✔ ความฮา
✔ ความวุ่นวาย
✔ ปัญหาชีวิตของเพื่อนร่วมงาน
✔ ความซึ้งที่มาแบบสั้น ๆ แล้วโดนขัดทุกที
✔ และดราม่าแบบชีวิตพนักงานรายวัน
แต่ก็แปลกนะ…
พอเลิกงาน ผมกลับคิดว่า
ถ้าวันหนึ่งไม่มีเรื่องพวกนี้เลย…อาจเหงากว่าที่คิดก็ได้