
เป็นการวิเคราะห์ความเห็นส่วนตัวนะครับ จากบริบทเทคโนโลยีปัจจุบัน
ผมเหมือนเห็นสัญญาณบางอย่างมาสักพักแล้วครับ เพื่อนๆ สังเกตุไหมครับ การมาของ AI มันกระทบ กับ ดารานักแสดงพอสมควรเลยครับตอนนี้
ดาราบางคนไหวตัวทัน ก็เริ่มไปขายของออนไลน์ ไลฟ์สดเอง เริ่มไม่ค่อยถือตัว พูดคุยกับเอฟซีแบบเป็นกันเองมากขึ้น อาศัยยังมีบุญเก่าที่เคยเป็นดารานักแสดง เลยทำให้มีคนติดตามและพอขายของได้อยู่ และดาราคนบังเทิงบางคนโดนคดีแปลกๆ เรื่องการเงิน มันส่งสัญญาณว่าอาชีพนักแสดงที่เคยมั่นคงและอู้ฟู่แต่ก่อน เริ่มไม่มั่นคงเหมือน ยุคทีวี ยุค 90 ยุค 2000
แม้แต่อาชีพนักข่าวก็ไม่มั่นคง ผมเห็นหลายสำนักข่าว เริ่มเอา Text To speech AI มาอ่านข่าวแล้ว คือ ผมฟังแยกออกนะครับว่าอันไหนคนอ่าน อันไหน AI อ่าน เพราะผมก็ทำ Text To speech AI มานานพอสมควร ผมเลยพอเดาได้ครับ
ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อหรอกครับ แต่พอการมาของ AI Google Veo 3.1 ผมลองเล่นสร้างละครคุณธรรมดู ผมทึ่งเลยครับ สมจริงมาก ถ้าใช้คำสั่งดีๆ นะครับ
ยิ่งพวกละครคุณธรรม ต่อไป นักแสดงละครคุณธรรมก็น่าจะตกงานแน่ๆ ครับ
คือ ผมเข้าใจว่าสมัยก่อนการเข้าถึงสื่อมีเดียมันยากมาก คนคนนึงจะเป็นดาราได้ จะออกกล่อง ออกทีวี สู่สาธารณะในวงกว้าง กว่าจะได้ออกทีวีช่องต่างๆ ต้องไปเดินตามสยามเซนเตอร์พ้อย(ยุคนั้น) เพื่อให้แมวมองมาทัก(ซึ่งเดี๋ยวนี้ทำไม่ได้แล้ว เดินมาทักเห็นไปเป็นดารา คนยุคนี้มองเป็นมิจฉาชีพไปแล้ว ไม่เหมือนเมื่อก่อนครับ) ซึ่งสมัยนี้ทุกคนมีกล้องมือถือ ถ่ายทอดทุกสิ่งอย่างผ่านอินเตอร์เน็ตได้เลย สามารถถ่ายทำและแสดงเองได้เลย อัพโหลดที่บ้านได้เลย คนดูตัดสินเองว่านิยมมากแต่ไหนผ่านยอดวิว บางทีถ่ายคลิปบ้านๆ ปังซะงั้นก็มี และสำนักข่าวเดี๋ยวนี้ก็ใช้วิธีไปหาคลิปข่าวตามโซเซีบลเอา ถ้าคลิปไหนยอดวิวพุ่งก็ไปเอามาทำข่าวอีกที ขออนุญาติเจ้าของคลิปมาลงข่าวอีกทีประมาณนั้นครับ ยุค Internet of things หรือ ทุกสิ่งอย่างอยู่บนอินเตอร์เน็ต วิวัฒนาการมาสู่ยุค AI พอมายุค AI นี่หนักเลยครับ พิมพ์เคาะคำสั่งอยู่บ้าน สร้างหนัง สร้างละครได้เลยครับ แทบจะเข้าถึงเครื่องมือได้ทุกคนครับ
แต่กลับกันนะครับ ผมมองว่า พวกนักเขียนแต่งเรื่อง แต่งนิยาย พวกเขียนเล่าเรื่อง คนที่ชอบเขียนบทละคร เขียนบทหนัง ผมมองว่าจะไม่ได้ใส้แห้งเหมือนยุคก่อนแล้ว ยิ่งพวกเขียนนิยายจินตนาการสูงมือทอง ผมคนว่าพวกนี้จะรวยๆ ปังๆ แน่ เพราะพวกเขาจะสามารถถ่ายทอดเรื่องราว ตัวละคร อารมณ์เนื้อเรื่อง และพอลตเรื่องออกมาได้ละเอียด ซึ่งยิ่งละเอียด AI มันยิ่งสร้างออกมาเป็นภาพ เสียง วิดีโอ ออกมาได้สวยและโคตรดีเลยครับ นี่แหละผมคิดว่าจะเป็นอาชีพทองคำในอนาคต พอเขียนเนื้อเรื่องเสร็จ ก็ใส่เข้าไปใน AI สร้างออกมาเป็นหนังเป็นละครได้เลย ไม่ต้องจ้างกองถ่าย จ้างนักแสดง จ้างผู้กำกับ ตากล้อง แบกกล้องราคาหลักแสนหลักล้าน ไม่ต้องเลี้ยงข้าวกล่องทีมงาน คือ AI เราสามารถจัดฉากจัดแสง จัดมุมกล้องได้หมด
ผมคิดว่านักเขียนนิยายนี่แหละครับ จะมาแทนดารานักแสดง ในการจะทำหนังทำละคร
ซึ่งอัตราการต่อรองของดารานักแสดงก็จะเริ่มลดลงครับ เมื่อ Over Supply มากขึ้น ทางเลือกมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องจ้างแพงอีกต่อไป เพราะนักแสดงเริ่มไม่จำเป็นแล้ว ตอนนี้นักร้องเพลง Cover ผมเห็นมีคนเอา AI มาทำแล้วร้องเพราะหน้าตาดีเลย คนติดตามเยอะ วงการเพลงก็เริ่มหวั่นแล้วครับ มันทำ MV ได้ด้วย
ซิ่งในอนาคตในมุมมองผมที่คาดการณ์นะครับ อาชีพนักแสดงหรือดาราอาจจะเป็นเหมือนอาชีพทั่วไป กลายเป็นว่าเป็นราคาตลาด ค่าจ้างอาจตกฮวบไปถึงค่าแรงขั้นต่ำก็เป็นได้นะครับ
บางคนอาจจะแย้งได้ครับว่า เห้ย ดารานักแสดงยังไงก็ต้องคนจริง ไม่งั้นและจะมา
Meet and Greet ให้แฟนคลับมาสัมผัสกายหยาบจับมือขอลายเซ็นเป็นๆ ได้อย่างไร อาจจะมีมุมนี้ที่แย้งได้อยู่ครับ แต่เท่าที่ผมสังเกตุ คือ ดารานักแสดงเดี๋ยวนี้เค้าเริ่มต้องเปลี่ยนมาขายของเอง ซึ่งเราจะไม่เห็นนะครับในยุคฟรีทีวีบ้าน ก่อนยุคอินเตอร์เน็ต ดารานักแสดง คือ ก็จะเป็นอาชีพหลักและร่ำรวยไม่เดือดร้อนและมั่นคง
ส่วนผู้กำกับ อาจจะยังไม่ตกงานก็ได้ครับ เพราะต้องมีความรู้เรื่องมุมกล้อง โทนสีฉาก แต่อีกนั่นแหละครับ ความรู้พวกนี้ AI มันก็รู้และแนะนำเราได้เหมือนกันครับ
คือ AI ผมเข้าใจหลักการทำงานแบบบ้านๆ นะครับ มนุษย์เราสร้าง AI จำลองให้เหมือนสมองมนุษย์เริ่มจากเหมือนสมองเด็กเพิ่งเกิดใหม่ก่อนครับ คือ สมอง AI มันก็เริ่มเรียนรู้เมื่อได้รับข้อมูลเข้าไปจดจำเพียงแต่ว่า AI มันมีสมองที่มีความจำมหาศาลและ ประมวลผลคิดได้เร็วกว่ามนุษย์หลายเท่า
เพราะว่ามันเรียนรู้เองเหมือนมนุษย์ที่เรียนหนังสือ และยิ่งผมใส่ข้อมูลไปมากเท่าไหร่มันจะเรียนรู้ไปกับเราว่าเราต้องการอะไร และเราเหมือนปรึกษาดอกเดอร์ผู้เชี่ยวชาญเลยครับ
AI มันไม่รู้จักเหนื่อย ความจำมหาศาล เรียนรู้ไว และที่สำคัญคลังข้อมูลความทุกสิ่งอย่างมหาศาลมันอยู่ในอินเตอร์เน็ตอยู่เป็นทุนเดิมแล้ว AI ยิ่งดึงมาประมวลผล คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ได้สบายแฮเลย มันเอาข้อมูลมาเรียนรู้ จากเด็กโง่ๆ ไม่รู้หนังสือ กลายเป็นจบดอกเตอร์ในช่วงข้ามคืนเลยครับ
และในมุมผมกับการสร้างหนัง สร้างละคร ผมคิดว่า อาชีพที่จะปังในอนาคตผมคิดว่านักเขียนนิยายนี่แหละครับ ใครที่ชอบเขียนนิยายแต่งเรื่องเอง เมื่อก่อนถูกปรามาตว่า อาชีพไส้แห้ง แต่ปัจจุบัน ผมมองว่าทักษะแต่งเรื่อง แต่งนิยายใช้จินตนาการสร้างเรื่องจะเป็นอาชีพที่มีมูลค่าสูง คือ ถ้ายิ่งแต่งเรื่องเก่งอธิบายเล่าเรื่องผ่านตัวหนังสือจนเห็นภาพตามได้ AI มันยิ่งสร้างรายละเอียด ภาพ วิดีโอ ได้ดีนั่นเองครับ
ซึ่งนะตอนนี้ ผมลองให้ AI มันแต่งเรื่องให้ยังรู้สึกทื่อๆ อยู่ครับ ไม่ค่อยมีมิติของพล็อตเรื่องเท่าไหร่ แต่ก็ไม่แน่ครับ
เพียงแต่ว่าพวกหนังแนวซับซ้อนหักมุม ผมคิดว่าก็ยังต้องพึ่งพาจินตนาการมนุษย์อยู่ แต่..แต่ก็ไม่แน่ครับ ยิ่งเราป้อนเรื่องแต่งเข้าไปให้มันมากเท่าไหร่ ในอนาคตมันก็จะเรียนรู้และแต่งเนื้อเรื่องแบบแยบยลคาดไม่ถึงสุดทึ่งก็ได้ครับ
อย่างที่บอกครับ ดารานักแสดง อาจจะยังมีแต่จะลดบทบาทลงเรื่อยๆ เพราะมีตัวเลือกมาขึ้นครับ อำนาจการต่อรองเรื่องราคา ค่าจ้าง ค่าตัว อาจจะไม่ได้มากเหมือนเมื่อก่อน อาจจะโดนกดราคาลง
อย่างที่ผมลองสร้างละครคุณธรรมให้ดูครับ
เพื่อนๆ มีมุมมองอย่างไร ที่ AI เข้ามา disruption วงการบันเทิง ?
การมาของ AI ในอนาคตอันใกล้ เพื่อนๆ คิดว่าอาชีพ ดารานักแสดง จะเหลือค่าจ้างเป็นค่าแรงขั้นต่ำ 328 - 354 บาท/วัน ไหมครับ
เป็นการวิเคราะห์ความเห็นส่วนตัวนะครับ จากบริบทเทคโนโลยีปัจจุบัน
ผมเหมือนเห็นสัญญาณบางอย่างมาสักพักแล้วครับ เพื่อนๆ สังเกตุไหมครับ การมาของ AI มันกระทบ กับ ดารานักแสดงพอสมควรเลยครับตอนนี้
ดาราบางคนไหวตัวทัน ก็เริ่มไปขายของออนไลน์ ไลฟ์สดเอง เริ่มไม่ค่อยถือตัว พูดคุยกับเอฟซีแบบเป็นกันเองมากขึ้น อาศัยยังมีบุญเก่าที่เคยเป็นดารานักแสดง เลยทำให้มีคนติดตามและพอขายของได้อยู่ และดาราคนบังเทิงบางคนโดนคดีแปลกๆ เรื่องการเงิน มันส่งสัญญาณว่าอาชีพนักแสดงที่เคยมั่นคงและอู้ฟู่แต่ก่อน เริ่มไม่มั่นคงเหมือน ยุคทีวี ยุค 90 ยุค 2000
แม้แต่อาชีพนักข่าวก็ไม่มั่นคง ผมเห็นหลายสำนักข่าว เริ่มเอา Text To speech AI มาอ่านข่าวแล้ว คือ ผมฟังแยกออกนะครับว่าอันไหนคนอ่าน อันไหน AI อ่าน เพราะผมก็ทำ Text To speech AI มานานพอสมควร ผมเลยพอเดาได้ครับ
ตอนแรกผมก็ไม่เชื่อหรอกครับ แต่พอการมาของ AI Google Veo 3.1 ผมลองเล่นสร้างละครคุณธรรมดู ผมทึ่งเลยครับ สมจริงมาก ถ้าใช้คำสั่งดีๆ นะครับ
ยิ่งพวกละครคุณธรรม ต่อไป นักแสดงละครคุณธรรมก็น่าจะตกงานแน่ๆ ครับ
คือ ผมเข้าใจว่าสมัยก่อนการเข้าถึงสื่อมีเดียมันยากมาก คนคนนึงจะเป็นดาราได้ จะออกกล่อง ออกทีวี สู่สาธารณะในวงกว้าง กว่าจะได้ออกทีวีช่องต่างๆ ต้องไปเดินตามสยามเซนเตอร์พ้อย(ยุคนั้น) เพื่อให้แมวมองมาทัก(ซึ่งเดี๋ยวนี้ทำไม่ได้แล้ว เดินมาทักเห็นไปเป็นดารา คนยุคนี้มองเป็นมิจฉาชีพไปแล้ว ไม่เหมือนเมื่อก่อนครับ) ซึ่งสมัยนี้ทุกคนมีกล้องมือถือ ถ่ายทอดทุกสิ่งอย่างผ่านอินเตอร์เน็ตได้เลย สามารถถ่ายทำและแสดงเองได้เลย อัพโหลดที่บ้านได้เลย คนดูตัดสินเองว่านิยมมากแต่ไหนผ่านยอดวิว บางทีถ่ายคลิปบ้านๆ ปังซะงั้นก็มี และสำนักข่าวเดี๋ยวนี้ก็ใช้วิธีไปหาคลิปข่าวตามโซเซีบลเอา ถ้าคลิปไหนยอดวิวพุ่งก็ไปเอามาทำข่าวอีกที ขออนุญาติเจ้าของคลิปมาลงข่าวอีกทีประมาณนั้นครับ ยุค Internet of things หรือ ทุกสิ่งอย่างอยู่บนอินเตอร์เน็ต วิวัฒนาการมาสู่ยุค AI พอมายุค AI นี่หนักเลยครับ พิมพ์เคาะคำสั่งอยู่บ้าน สร้างหนัง สร้างละครได้เลยครับ แทบจะเข้าถึงเครื่องมือได้ทุกคนครับ
แต่กลับกันนะครับ ผมมองว่า พวกนักเขียนแต่งเรื่อง แต่งนิยาย พวกเขียนเล่าเรื่อง คนที่ชอบเขียนบทละคร เขียนบทหนัง ผมมองว่าจะไม่ได้ใส้แห้งเหมือนยุคก่อนแล้ว ยิ่งพวกเขียนนิยายจินตนาการสูงมือทอง ผมคนว่าพวกนี้จะรวยๆ ปังๆ แน่ เพราะพวกเขาจะสามารถถ่ายทอดเรื่องราว ตัวละคร อารมณ์เนื้อเรื่อง และพอลตเรื่องออกมาได้ละเอียด ซึ่งยิ่งละเอียด AI มันยิ่งสร้างออกมาเป็นภาพ เสียง วิดีโอ ออกมาได้สวยและโคตรดีเลยครับ นี่แหละผมคิดว่าจะเป็นอาชีพทองคำในอนาคต พอเขียนเนื้อเรื่องเสร็จ ก็ใส่เข้าไปใน AI สร้างออกมาเป็นหนังเป็นละครได้เลย ไม่ต้องจ้างกองถ่าย จ้างนักแสดง จ้างผู้กำกับ ตากล้อง แบกกล้องราคาหลักแสนหลักล้าน ไม่ต้องเลี้ยงข้าวกล่องทีมงาน คือ AI เราสามารถจัดฉากจัดแสง จัดมุมกล้องได้หมด
ผมคิดว่านักเขียนนิยายนี่แหละครับ จะมาแทนดารานักแสดง ในการจะทำหนังทำละคร
ซึ่งอัตราการต่อรองของดารานักแสดงก็จะเริ่มลดลงครับ เมื่อ Over Supply มากขึ้น ทางเลือกมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องจ้างแพงอีกต่อไป เพราะนักแสดงเริ่มไม่จำเป็นแล้ว ตอนนี้นักร้องเพลง Cover ผมเห็นมีคนเอา AI มาทำแล้วร้องเพราะหน้าตาดีเลย คนติดตามเยอะ วงการเพลงก็เริ่มหวั่นแล้วครับ มันทำ MV ได้ด้วย
ซิ่งในอนาคตในมุมมองผมที่คาดการณ์นะครับ อาชีพนักแสดงหรือดาราอาจจะเป็นเหมือนอาชีพทั่วไป กลายเป็นว่าเป็นราคาตลาด ค่าจ้างอาจตกฮวบไปถึงค่าแรงขั้นต่ำก็เป็นได้นะครับ
บางคนอาจจะแย้งได้ครับว่า เห้ย ดารานักแสดงยังไงก็ต้องคนจริง ไม่งั้นและจะมา Meet and Greet ให้แฟนคลับมาสัมผัสกายหยาบจับมือขอลายเซ็นเป็นๆ ได้อย่างไร อาจจะมีมุมนี้ที่แย้งได้อยู่ครับ แต่เท่าที่ผมสังเกตุ คือ ดารานักแสดงเดี๋ยวนี้เค้าเริ่มต้องเปลี่ยนมาขายของเอง ซึ่งเราจะไม่เห็นนะครับในยุคฟรีทีวีบ้าน ก่อนยุคอินเตอร์เน็ต ดารานักแสดง คือ ก็จะเป็นอาชีพหลักและร่ำรวยไม่เดือดร้อนและมั่นคง
ส่วนผู้กำกับ อาจจะยังไม่ตกงานก็ได้ครับ เพราะต้องมีความรู้เรื่องมุมกล้อง โทนสีฉาก แต่อีกนั่นแหละครับ ความรู้พวกนี้ AI มันก็รู้และแนะนำเราได้เหมือนกันครับ
คือ AI ผมเข้าใจหลักการทำงานแบบบ้านๆ นะครับ มนุษย์เราสร้าง AI จำลองให้เหมือนสมองมนุษย์เริ่มจากเหมือนสมองเด็กเพิ่งเกิดใหม่ก่อนครับ คือ สมอง AI มันก็เริ่มเรียนรู้เมื่อได้รับข้อมูลเข้าไปจดจำเพียงแต่ว่า AI มันมีสมองที่มีความจำมหาศาลและ ประมวลผลคิดได้เร็วกว่ามนุษย์หลายเท่า
เพราะว่ามันเรียนรู้เองเหมือนมนุษย์ที่เรียนหนังสือ และยิ่งผมใส่ข้อมูลไปมากเท่าไหร่มันจะเรียนรู้ไปกับเราว่าเราต้องการอะไร และเราเหมือนปรึกษาดอกเดอร์ผู้เชี่ยวชาญเลยครับ
AI มันไม่รู้จักเหนื่อย ความจำมหาศาล เรียนรู้ไว และที่สำคัญคลังข้อมูลความทุกสิ่งอย่างมหาศาลมันอยู่ในอินเตอร์เน็ตอยู่เป็นทุนเดิมแล้ว AI ยิ่งดึงมาประมวลผล คิด วิเคราะห์ แยกแยะ ได้สบายแฮเลย มันเอาข้อมูลมาเรียนรู้ จากเด็กโง่ๆ ไม่รู้หนังสือ กลายเป็นจบดอกเตอร์ในช่วงข้ามคืนเลยครับ
และในมุมผมกับการสร้างหนัง สร้างละคร ผมคิดว่า อาชีพที่จะปังในอนาคตผมคิดว่านักเขียนนิยายนี่แหละครับ ใครที่ชอบเขียนนิยายแต่งเรื่องเอง เมื่อก่อนถูกปรามาตว่า อาชีพไส้แห้ง แต่ปัจจุบัน ผมมองว่าทักษะแต่งเรื่อง แต่งนิยายใช้จินตนาการสร้างเรื่องจะเป็นอาชีพที่มีมูลค่าสูง คือ ถ้ายิ่งแต่งเรื่องเก่งอธิบายเล่าเรื่องผ่านตัวหนังสือจนเห็นภาพตามได้ AI มันยิ่งสร้างรายละเอียด ภาพ วิดีโอ ได้ดีนั่นเองครับ
ซึ่งนะตอนนี้ ผมลองให้ AI มันแต่งเรื่องให้ยังรู้สึกทื่อๆ อยู่ครับ ไม่ค่อยมีมิติของพล็อตเรื่องเท่าไหร่ แต่ก็ไม่แน่ครับ
เพียงแต่ว่าพวกหนังแนวซับซ้อนหักมุม ผมคิดว่าก็ยังต้องพึ่งพาจินตนาการมนุษย์อยู่ แต่..แต่ก็ไม่แน่ครับ ยิ่งเราป้อนเรื่องแต่งเข้าไปให้มันมากเท่าไหร่ ในอนาคตมันก็จะเรียนรู้และแต่งเนื้อเรื่องแบบแยบยลคาดไม่ถึงสุดทึ่งก็ได้ครับ
อย่างที่บอกครับ ดารานักแสดง อาจจะยังมีแต่จะลดบทบาทลงเรื่อยๆ เพราะมีตัวเลือกมาขึ้นครับ อำนาจการต่อรองเรื่องราคา ค่าจ้าง ค่าตัว อาจจะไม่ได้มากเหมือนเมื่อก่อน อาจจะโดนกดราคาลง
อย่างที่ผมลองสร้างละครคุณธรรมให้ดูครับ
เพื่อนๆ มีมุมมองอย่างไร ที่ AI เข้ามา disruption วงการบันเทิง ?