พรหมลิขิตอาจมีจริง ถ้าคุณเชื่อมัน

กระทู้คำถาม
คือว่า ไม่เคยคิดว่าตัวเองหน้าตาดีนะครับ สมัยวัยรุ่นสิวเยอะมาก รักษาสิวอยู่นานมากกว่าจะดีขึ้น แต่พอรักษาสิวแล้วหน้าตาดีขึ้นมาก ​​ในช่วงเรียน ม.ปลายเรียนโรงเรียนสหะ แต่เป็นคนเงียบมาก มีเพื่อนน้อยมาก ไม่ค่อยชอบร่วมกิจกรรม ​เก็บตัว ข้อดีของเรา น่าจะมีเรื่องเดียวคือเรียนเก่ง ผมสอบเอ็นทรานซ์ได้อันดับต้นๆของประเทศในปีนั้น และยังเรียนดีต่อเนื่อง มาจนจบ ป.ตรี ได้ทุนเรียนดี การที่เราเป็นเด็กเรียนดี เลยมักมีเพื่อนมาให้เราสอนตลอด และนั่นอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเจอแฟนตั้งแต่สมัยเรียน หลังเรียนจบก็ทำงานแป๊บนึง เรียนต่อเฉพาะทาง แฟนก็เรียนต่อเฉพาะทางอีกด้าน ในช่วงนี้ ชีวิตเริ่มห่างกัน เรียนหนักมาก แฟนมีเป้าหมายชีวิตชัดเจนในการทำงานต่อสายที่เรียน แต่ผมไม่ได้ชอบที่ผมเรียนมา เรียนมาตามค่านิยม แม้ว่าจะเรียนได้ดี แต่ผมมีความชอบเรื่องอื่นมากกว่า ยอมรับว่าเรียนดีทุกด้านไม่ว่าจะเรียนด้านไหนก็ตาม ในที่สุดก็ไปเรียนต่ออีกหลายปีในต่างประเทศในด้านที่ชอบเกือบ 10 ปี ที่ผ่านมา ​ห่างกับแฟนมาก แต่ได้คุยกันตลอด พอเรียนจบ ผมก็แต่งงานเลย​ ผมช่วยพ่อแม่ทำธุรกิจที่บ้าน ​ทำงานตามที่ตัวเองฝันน้อยมาก แต่ยังทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยตลอดเลย เรียนนู่นจบเรียนนี่ต่อ จนมีความรู้แทบจะทุกด้าน เหมือนหาตัวเอง ชีวิตกว่าจะ settle ดีขึ้นก็เวลาล่วงเลยจนมีอายุ 45 กว่าแล้ว เพิ่งจะเริ่มรู้สึกสบาย เริ่มปล่อยวางชีวิต เริ่มรู้ความชอบตัวเอง ชอบเที่ยวสมบุกสมบันในต่างประเทศ เป็นความฝันในวัยเด็กที่ทำแล้วมีความสุขที่สุด หลายครั้งก็ไปคนเดียว แฟนไม่ได้ชอบแบบที่เราชอบ มีช่องว่างส่วนตัวสำหรับความชอบที่แตกต่าง ​มาที่เรื่องชีวิตครอบครัว ผมไม่มีลูกครับ ไม่งั้นชีวิตคงยุ่งอีกเรื่อง การเจอคู่ชีวิตตั้งแต่สมัยเรียนและคบกันมาตลอดรอดฝั่งหลายสิบปี ในความเชื่อคนพุทธอาจจะคิดว่าคือบุพเพสันนิวาส เพราะทุกอย่างเข้ามาเอง ไม่ได้ขวนขวายหาแฟน อยู่ตัวคนเดียวได้เอง ถึงไม่มีใครผมก็อยู่ได้ ​​ชีวิตมีความสุขมาตลอดจากความชอบส่วนตัวและจากความเข้าใจตัวเอง มีระยะห่าง ​มีเวลาส่วนตัว ซึ่งแฟนก็ยอมรับได้และเข้าใจเรื่องนี้ดี

กลับมาที่คำถามในห้องที่ส่วนมากจะถาม คือ หาแฟนทางไหน ก็ต้องตอบตามประสบการณ์ส่วนตัวว่ามาจากตอนเรียนด้วยกัน ไม่เคยมีประสบการณ์เจอใครทางออนไลน์หรือในแอพหาคู่ ไม่เคยเชื่อเรื่องแอพ ไม่เล่นโซเชียล ไม่เล่นเฟสบุ๊ค ไม่เล่นไอจี ชีวิตวนเวียนแค่เรื่องทำงาน กับผ่อนคลายมีชีวิตส่วนตัว ชีวิตครอบครัว แทบไม่มีเพื่อน ไม่มีเจอใครอื่นเลย นอกจากคนในครอบครัวแค่นั้น ชีวิตมีแค่นี้จริงๆ ต้องบอกก่อนว่าผมไม่เชื่อในพรหมลิขิต ผมเชื่อนับถือตัวเอง เชื่อในหลักเหตุและผล และการกระทำ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่