ใครว่าหนังขาวดำน่าเบื่อ? Schindler's List ดูจบแล้วโคตรอิน โคตรเสียใจ โคตรซาบซึ้งครับ!

TITLE: ใครว่าหนังขาวดำน่าเบื่อ? Schindler's List ดูจบแล้วโคตรอิน โคตรเสียใจ โคตรซาบซึ้งครับ!

สวัสดีครับพี่น้องชาว Pantip ทุกท่าน วันนี้ผมมีหนังในตำนานมาเล่าสู่กันฟังครับ ชื่อเรื่อง Schindler's List (1993) ของผู้กำกับระดับพระกาฬอย่าง Steven Spielberg ครับ บอกตรงๆ ตอนแรกก็ลังเลเหมือนกันนะ เห็นว่าเป็นหนังขาวดำ แถมเนื้อหาก็เกี่ยวกับสงครามโลกครั้งที่สองอีก คิดในใจว่าคงจะเครียด น่าเบื่อ ดูแล้วหลับแน่ๆ แต่พอได้ดูจริงๆ เท่านั้นแหละครับ บอกเลยว่า "คิดผิดมหันต์" หนังเรื่องนี้มันไม่ใช่แค่หนังครับ มันคือประสบการณ์ที่โคตรจะทรงพลัง โคตรจะสะเทือนใจ และโคตรจะปลุกความเป็นมนุษย์ในตัวเราออกมาเลยครับ

เริ่มต้นเรื่องมา เราจะได้รู้จักกับ Oskar Schindler หรือคุณชินด์เลอร์ของเรานี่แหละครับ ตอนแรกแกก็เป็นนักธุรกิจชาวเยอรมันธรรมดาๆ ที่มองเห็นโอกาสทางธุรกิจในสงครามครับ แกเป็นคนฉลาดแกมโกงนิดๆ มีเสน่ห์เหลือร้าย ชอบเข้าสังคม หวังจะกอบโกยผลประโยชน์จากสถานการณ์ที่กำลังวุ่นวาย ด้วยความที่เป็นคนหัวใส แกก็ใช้แรงงานคนยิวราคาถูกจากค่ายกักกันมาทำงานในโรงงานเครื่องเคลือบของแกครับ ตอนนั้นแกไม่ได้คิดอะไรมากไปกว่าการทำธุรกิจให้รวยครับ

แต่จุดเปลี่ยนมันเกิดขึ้นตอนที่แกได้เห็นความโหดร้ายที่พวกนาซีทำกับชาวยิวครับ ภาพที่แกเห็นมันบาดลึกเข้าไปในใจแกจริงๆ นะครับ จากคนที่หวังจะรวย ก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นคนที่เริ่มเห็นอกเห็นใจ เห็นความทุกข์ทรมานของมนุษย์ด้วยกัน แกเริ่มใช้เงินที่หามาได้จากการกดขี่ มาปกป้องคุ้มครอง "คนงานยิว" ของแกแทนครับ จากแค่แรงงานราคาถูก กลายเป็น "ทรัพย์สิน" ที่มีค่าที่สุดของแกไปเสียแล้ว

สิ่งที่ผมชอบมากๆ ในหนังเรื่องนี้คือ การแสดงของ Liam Neeson ในบท Oskar Schindler ครับ แกถ่ายทอดอารมณ์ได้แบบสุดยอดมากครับ จากตอนแรกที่ดูเป็นคนเจ้าสำราญ เห็นแก่ตัวนิดๆ ค่อยๆ กลายมาเป็นคนที่แบกรับความรู้สึกผิด ความเจ็บปวด และความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงไว้บนบ่า การแสดงสีหน้า แววตาของแก มันบอกเล่าเรื่องราวได้มากมายโดยไม่ต้องพูดอะไรเลยครับ มันทำให้เราเชื่อและอินไปกับตัวละครของแกมากๆ ครับ

อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ Ralph Fiennes ในบท Amon Göth ผู้บัญชาการค่ายกักกันครับ คนนี้โคตรน่ากลัวครับ! แกเล่นเป็นตัวร้ายที่แบบ "ร้ายกาจของจริง" ครับ ความโหดเหี้ยม ไร้ความปรานี การตัดสินใจปลิดชีวิตคนเป็นว่าเล่น มันทำให้เราขนลุกไปทั้งตัวเลยครับ แกเป็นเหมือนตัวแทนของความชั่วร้ายที่ไร้เหตุผลของระบอบนาซีได้เป็นอย่างดีเลยครับ

สไตล์การเล่าเรื่องของ Spielberg นี่ต้องยกนิ้วให้เลยครับ แม้จะเป็นหนังขาวดำ แต่แกก็สามารถทำให้เราเข้าถึงอารมณ์ได้อย่างเข้มข้น การใช้ภาพ การจัดองค์ประกอบ การตัดต่อ มันทำให้เราเหมือนได้เข้าไปอยู่ในเหตุการณ์จริงๆ ครับ มีฉากที่ผมจำได้ไม่ลืมเลย คือฉากเด็กผู้หญิงใส่ชุดแดงครับ ในโลกที่เต็มไปด้วยความโหดร้าย สีแดงสดของชุดเด็กผู้หญิงคนนั้น มันกลายเป็นสัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ ความหวังที่หลงเหลืออยู่ท่ามกลางความมืดมิด มันเป็นภาพที่ทรงพลังมากๆ ครับ

หนังเรื่องนี้มันไม่ได้มีแค่ความเศร้าและความโหดร้ายนะครับ มันยังมีเรื่องราวของความกล้าหาญ ความเสียสละ และความหวังของมนุษย์อยู่ด้วยครับ การที่ Schindler พยายามใช้เงินและอำนาจที่มี เพื่อช่วยเหลือชาวยิวออกมาให้ได้มากที่สุด มันคือการแสดงออกถึงความเป็นมนุษย์ที่แท้จริงครับ การรวมรายชื่อ "รายชื่อชินด์เลอร์" ที่ช่วยชีวิตคนไว้ได้กว่าพันคน มันคือมรดกอันล้ำค่าที่แกได้ทิ้งไว้เบื้องหลัง

ดูหนังเรื่องนี้จบแล้ว บอกเลยครับว่าน้ำตาไหลพรากๆ ไม่ใช่แค่เสียใจกับโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นนะครับ แต่เสียใจที่เห็นมนุษย์ทำร้ายกันได้ถึงขนาดนี้ แต่ในขณะเดียวกัน ก็รู้สึกซาบซึ้งใจกับความดีงาม ความกล้าหาญ และความหวังที่ยังคงมีอยู่ครับ มันทำให้เราคิดถึงคุณค่าของชีวิต และความสำคัญของการเป็นมนุษย์ที่รักและเห็นอกเห็นใจเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน

หลายคนอาจจะคิดว่าหนังขาวดำมันดูยาก แต่ผมอยากจะบอกว่า Schindler's List ไม่ใช่แบบนั้นเลยครับ ความขาวดำของมันกลับยิ่งเสริมให้บรรยากาศของสงคราม ความสิ้นหวัง และความโหดร้ายมันดูเด่นชัดขึ้นมาครับ มันทำให้เราโฟกัสไปที่การแสดง อารมณ์ และเนื้อหาของหนังได้อย่างเต็มที่

ถ้าใครยังไม่เคยดูหนังเรื่องนี้ ผมอยากให้ลองหามาดูสักครั้งครับ มันอาจจะไม่ได้ให้ความบันเทิงแบบสนุกสนาน แต่รับรองว่ามันจะให้ "ประสบการณ์" ที่จะอยู่ในใจเราไปอีกนานแสนนานครับ มันเป็นหนังที่เตือนใจเราได้ดีมากๆ ว่าเราต้องไม่ลืมประวัติศาสตร์ที่โหดร้าย เพื่อไม่ให้มันเกิดขึ้นซ้ำอีก และที่สำคัญ มันปลุกให้เราเห็นคุณค่าของความดีงาม ความกล้าหาญ และความเมตตาในตัวเราทุกคนครับ

ผมให้คะแนนหนังเรื่องนี้แบบเต็ม 10 เต็ม 10 ไปเลยครับ! ใครที่ดูแล้วมีความคิดเห็นยังไง มาแลกเปลี่ยนกันได้นะครับ ยินดีรับฟังทุกความคิดเห็นครับผม!