รถไฟฟ้าใต้ดิน เปลี่ยนกฎไม่ให้เจ้าหน้าที่แจ้งส่งผู้พิการทางการมองเห็นกับสถานีปลายทาง

กระทู้สนทนา
สวัสดีครับผมเป็นผู้พิการทางการมองเห็น ที่ใช้รถไฟฟ้าใต้ดินในการเดินทางอยู่บ้างอาจจะไม่บ่อยเท่ากับคนที่ต้องใช้เดินทางไปทำงานทุกวัน แต่ก็ได้ใช้บริการค่อนข้างบ่อยครับ

ต้องบอกก่อนครับว่าปกติเวลาผมจะเดินทางไปยังสถานีปลายทางไหน จะมีเจ้าหน้าที่คอยรับ และคอยส่ง ทั้งต้นทางและปลายทางครับ ซึ่งเป็นกระบวนการที่ทำให้รู้สึกปลอดภัย อาจจะมีบางครั้งที่ต้องรอนานบ้างแต่มั่นใจได้ครับว่าจะมีพี่ๆเจ้าหน้าที่มารับ และพาเราไปส่งยังทางออก หรือส่งต่อแน่นอน เพราะพี่ๆเขามีการแจ้งไปยังสถานีปลายทาง ว่าเราเดินทางไปขบวนไหน

แต่เมื่อต้นเดือนธันวาที่ผ่านมานี้ ปรากฎว่ากฎนี้ได้ถูกเปลี่ยนไปครับ คือ จะมีแค่เจ้าหน้าที่มารับตรงทางเข้าและพาเราไปส่งขึ้นรถไฟฟ้า แต่ไม่แจ้งบอกสถานีปลายทางครับว่าเรากำลังจะไปนะ ขบวนนี้นะให้รอรับหน่อยนะ ทำให้เมื่อเราไปถึงปลายทางเราต้องยืนเคว้งคว้าง ไม่รู้ว่าเขาจะเห็นเราไหม เขาจะเดินมารับเราไหม กรณีนี้ผมหมายถึงพี่ๆเจ้าหน้าที่สถานีปลายททางนะครับ ผมเชื่อว่าใครที่โดยสารรถไฟฟ้าใต้ดิน ต้องได้เห็นคนตาบอดยืนรอเจ้าหน้าที่บ้างแน่นอนครับ เรายืนรอนั่นไม่ใช่รอขึ้นรถนะครับ แต่เป็นเพราะเรากำลังรอเจ้าหน้าที่เพื่อที่จะออกไปทำงาน ไปเรียน ไปประชุม หรือไปเที่ยว ไม่ต่างจากชีวิตของคนทั่วไปนั่นแหละครับ สำหรับประเด็นการไปเที่ยวนี่สำหรับผม ผมว่ารอนานแค่ไหนผมก็รอได้ แต่ประเด็นวันนี้คือ กรณีเร่งด่วนเพื่อไปเรียน หรือไปทำงานครับ หากเป็นเพื่อนๆที่มองเห็นผมเชื่อว่าเมื่อเราออกจากขบวนแล้วเราจะรีบเดินไปยังบันไดเลื่อน เพื่อออกไปต่อรถ หรือ เดินไปยังสถานที่ทำงานหรือสถานที่เรียน หรือสถานที่ประชุม แต่กับคนตาบอดไม่ใช่ทุกคนที่จะทำแบบนั้นได้ครับ เราหลายคนต้องรอให้พี่ๆเจ้าหน้าที่มารับ เพราะเราไม่รู้ว่าจะออกทางไหน ถึงแม้รู้ เราก็ไม่รู้ว่าเมื่อเราก้าวขึ้นบันไดเลื่อนไปแล้ว จะเกิดอุบัติเหตุกับเราไหม หลายครั้งที่ผมเดินเองเพื่อลงไปยังสถานีรถไฟฟ้า ก็มีหลายครั้งที่ผมเดินลงทางขึ้น หรือเดินขึ้นทางลง เพื่อนๆนึกภาพออกไหมครับว่ามันอันตรายแค่ไหน ทุกครั้งที่ผมมีตาจากพี่ๆเจ้าหน้าที่ หรือตาจากเพื่อนร่วมทางมันทำให้รู้สึกอุ่นใจ อย่างน้อยเราก็รู้ว่าเราจะไม่เดินขึ้นทางลง หรือ ลงทางขึ้น อย่างน้อยก็รู้ว่าข้างหน้าเป็นอะไร บันไดเลื่อน ทางออก บันไดที่เลื่อนตัวเองขึ้น หรือ เลื่อนตัวเองลงไป อย่างน้อยก็รู้ว่าเมื่ออกจากสถานีไปขึ้นพี่วินฯ มีคนต่อแถวยาวแค่ไหน เพราะได้รับการช่วยเหลือจากพี่ๆ และเพื่อนๆร่วมทางทุกคน ที่ผ่านมาเราอาจจะรอเจ้าหน้าที่นานบ้าง แต่สำหรับผม ผมไม่เคยตำหนิ หรือไม่พอใจ เพราะรู้ว่าพี่ๆทุกคนทำงานหนัก ต้องคอยรีบนำเพื่อนร่วมทางที่มองไม่เห็นไปส่งยังทางออก และต้องรีบลงมารับเราใหม่เพื่อไปส่งเรายังทางออกที่เราต้องการไป เพื่อใช้ชีวิตประจำวัน

ประเด็นของผมคือ ผมว่าระบบเก่าดีแล้วครับ ระบบใหม่มันเหมือนตามมีตามเกิด ต้องมายืนรอโดยไม่รู้ว่าจะมีใครมารับบไหม และจะมารับเมื่อไหร่ โดยเฉพาะสถานีที่ไม่ค่อยมีคน นี่ยืนเคว้งเลยนะครับ และยิ่งหากเวลานั้นเป็นเวลาเร่งด่วนที่ต้องรีบไปเรียนหรือไปทำงานด้วยล่ะ มันชั่งกดดันเหลือเกิน ไม่รู้จะไปทันไหม ไม่รู้ว่าพี่ๆจะมาไหม

ไม่มีใครอยากเกิดเป็นคนพิการครับ สิ่งเดียวที่ผมอยากบอก ถึงแม้ว่าเกิดมาเป็นคนพิการก็อยากใช้ชีวิตได้เหมือนคนปกติให้มากที่สุด บางอย่างเราจำเป็นต้องให้พี่ๆช่วยเหลือ ดังนั้นได้โปรดอย่าทำให้เรารู้สึกว่าเราแย่เลยครับ ผมก็คนธรรมดาคนหนึ่งที่ต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเอง หลายๆคนก็เช่นกันน ผมไม่โทษพี่ๆเจ้าหน้าที่นะครับ เพราะผมเข้าใจว่ามันเป็นนโยบายของคนที่มีอำนาจตัดสินใจ ดังนั้นผมแค่อยากทำให้ผู้ที่มีอำนาจตัดสินใจได้รับรู้ครับว่า ตอนนี้พวกเราได้รับผลกระทบ ตอนนี้มีเพียงเฉพาะคนพิการที่นั่งรถเข็นเท่านั้นครับที่มีเจ้าหน้าที่คอยแจ้งส่งปลายทาง กลับมาใช้ระบบเดิมเถอะครับ อย่างน้อยมันก็ทำให้เรารู้ว่าจะมีคนมารับเรา

และเท่าที่ผมรู้มาว่าตัวคนพิการบางคนเองก็มีปัญหากับระบบเก่า อันนั้นสำหรับมุมมองของผม ถ้าเขาไม่ต้องการความช่วยเหลือปล่อยเขาครับ ถ้าเขาจะเดินตกบันได เดินแล้วเกิดอุบัติเหตุใดๆก็ตาม อันนั้นมันเป็นเพราะเขาทำตัวของเขาเอง เขาเลือกที่จะสละความช่วยเหลือทิ้งเอง ซึ่งผมมองว่าเขาไม่ควรสละ แต่พวกเขาเป็นส่วนน้อยครับ อยากให้พี่ๆเข้าใจ และสุดท้ายนี้ขอบคุณพี่ๆเจ้าหน้าที่และเพื่อนร่วมทางทุกคนที่ช่วยให้ความช่วยเหลือพวกเราตามสมควรแก่เหตุ ขอบพระคุณจริงๆครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่