ช่างญี่ปุ่นฮึดสู้ค่าครองชีพ!
บริการ “ตัดผม 0 บาท”
ตัด สระ ไดร์ครบ เจ้าของเช็คแบบละเอียด!
ทำไมทั้งร้านทั้งลูกค้าถึงยอม…แบบไม่เก็บเงินกันเลย?
—--
ช่วงที่ค่าครองชีพญี่ปุ่นพุ่งขึ้นไม่หยุด
ทั้งผู้ชายผู้หญิง ราคาขึ้นเฉลี่ยกว่า 10% เมื่อเทียบกับไม่กี่ปีก่อน จนตอนนี้ ผู้ชายหนึ่งหัวเฉลี่ยเกือบ 4,900 เยน ผู้หญิงเฉลี่ย 7,600 เยน
แต่ในอีกมุมหนึ่งของญี่ปุ่น กลับมีคนจำนวนมาก
หันไปใช้บริการ “ตัดผม 0 บาท” ผ่านแอปที่กำลังมาแรงสุด ๆ ใช้ฟรี ไม่เก็บเงินแม้แต่เยนเดียว!?
—--
ผมดูแล้วมีเคสที่น่าสนใจมาก
ผู้ชายวัย 48 ใช้บริการทั้งตัดและสระ
ซึ่งพี่ชายคนนี้ใช้บริการแบบนี้มา 10 ปีแล้ว
สะสมไปกว่า 50 ครั้ง “ปีนึงประหยัดไปเกือบ 4–5 หมื่นเยนสบาย ๆ”
.
และที่สำคัญเลยคือ…พี่แกบอกว่าคุณภาพโอเคเลย
“ตัดเสร็จทุกครั้ง ผู้จัดการร้านจะเช็กงานให้ก่อนกลับ”
—-
แอปชื่อว่า minimo ครับ
และหาคำว่า (0円カット)
“ตัดผม0 เยน”
*นอกจากตัดผม0เยนก็มีนะครับ
ซึ่งมีคนใช้บริการเยอะขึ้นเรื่อย ๆ
ปี 2021 มีจองราว 600,000 ครั้ง
แต่พอถึงปีนี้…พุ่งไปแล้ว 1.4 ล้านครั้ง ก่อนจะถึงสิ้นปีด้วยซ้ำ
ว่าแต่…ร้านได้อะไร?
ทำไมช่างถึงยอมตัดฟรี?
—-
ร้านส่วนใหญ่ใช้ช่วง “นอกเวลาเปิดทำการ”
เช้า ๆ ก่อนร้านเปิด หรือดึกหลังร้านปิด
ให้ช่างรุ่นใหม่ฝึกงานกับ “ลูกค้าจริง”
หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “สนามซ้อมจริง” ของช่างรุ่นใหม่นั่นเอง เช่น ช่างอายุ 23 เล่าเลยว่า
เขาตั้งเป้าตัดเดือนละ 20–30 หัว
ส่วนใหญ่ตัดตอนร้านปิดบ้าง ตอนเช้าก่อนเปิดร้านบ้าง แทนที่จะเสียเงินซื้อหุ่นซ้อมหัวละ 7,000–8,000 เยน ตัดกับลูกค้าจริงคุ้มกว่า แถมได้ประสบการณ์แบบสด ๆ
—-
ลูกค้าผู้หญิงเองก็มีเยอะ
บางคนใช้มา 3 ปีแล้ว บอกว่าไม่กลัวเลย
เพราะช่างที่ตัดก็ไม่ใช่มือใหม่หมด
บางคนฝีมือเข้าปีที่ 5 แล้ว และทุกครั้งก็มีผู้จัดการตรวจงานปิดท้ายเหมือนกัน
=======
ผมว่ามันคือระบบที่ดีในฝั่งร้านตัดผมเลยนะ
ยิ่งในเศรษฐกิจแบบนี้
ลูกค้าได้ประหยัดแบบจริงจังได้ตัดผมดี ๆ แบบไม่เสียเงิน ช่างได้ฝึกกับลูกค้าจริง บ่มประสบการณ์เร็วกว่าใช้หุ่น และร้านได้สร้างสายสัมพันธ์ในอนาคต
บริการ “0 บาท” แบบนี้มันก็win–winสองฝ่ายนะ
Mark JapanSalaryman
Cr:ANN Newsch
✂️ ช่างญี่ปุ่นฮึดสู้ค่าครองชีพ! บริการ “ตัดผม 0 บาท”
บริการ “ตัดผม 0 บาท”
ตัด สระ ไดร์ครบ เจ้าของเช็คแบบละเอียด!
ทำไมทั้งร้านทั้งลูกค้าถึงยอม…แบบไม่เก็บเงินกันเลย?
—--
ช่วงที่ค่าครองชีพญี่ปุ่นพุ่งขึ้นไม่หยุด
ทั้งผู้ชายผู้หญิง ราคาขึ้นเฉลี่ยกว่า 10% เมื่อเทียบกับไม่กี่ปีก่อน จนตอนนี้ ผู้ชายหนึ่งหัวเฉลี่ยเกือบ 4,900 เยน ผู้หญิงเฉลี่ย 7,600 เยน
แต่ในอีกมุมหนึ่งของญี่ปุ่น กลับมีคนจำนวนมาก
หันไปใช้บริการ “ตัดผม 0 บาท” ผ่านแอปที่กำลังมาแรงสุด ๆ ใช้ฟรี ไม่เก็บเงินแม้แต่เยนเดียว!?
—--
ผมดูแล้วมีเคสที่น่าสนใจมาก
ผู้ชายวัย 48 ใช้บริการทั้งตัดและสระ
ซึ่งพี่ชายคนนี้ใช้บริการแบบนี้มา 10 ปีแล้ว
สะสมไปกว่า 50 ครั้ง “ปีนึงประหยัดไปเกือบ 4–5 หมื่นเยนสบาย ๆ”
.
และที่สำคัญเลยคือ…พี่แกบอกว่าคุณภาพโอเคเลย
“ตัดเสร็จทุกครั้ง ผู้จัดการร้านจะเช็กงานให้ก่อนกลับ”
—-
แอปชื่อว่า minimo ครับ
และหาคำว่า (0円カット)
“ตัดผม0 เยน”
*นอกจากตัดผม0เยนก็มีนะครับ
ซึ่งมีคนใช้บริการเยอะขึ้นเรื่อย ๆ
ปี 2021 มีจองราว 600,000 ครั้ง
แต่พอถึงปีนี้…พุ่งไปแล้ว 1.4 ล้านครั้ง ก่อนจะถึงสิ้นปีด้วยซ้ำ
ว่าแต่…ร้านได้อะไร?
ทำไมช่างถึงยอมตัดฟรี?
—-
ร้านส่วนใหญ่ใช้ช่วง “นอกเวลาเปิดทำการ”
เช้า ๆ ก่อนร้านเปิด หรือดึกหลังร้านปิด
ให้ช่างรุ่นใหม่ฝึกงานกับ “ลูกค้าจริง”
หรือเรียกง่าย ๆ ว่า “สนามซ้อมจริง” ของช่างรุ่นใหม่นั่นเอง เช่น ช่างอายุ 23 เล่าเลยว่า
เขาตั้งเป้าตัดเดือนละ 20–30 หัว
ส่วนใหญ่ตัดตอนร้านปิดบ้าง ตอนเช้าก่อนเปิดร้านบ้าง แทนที่จะเสียเงินซื้อหุ่นซ้อมหัวละ 7,000–8,000 เยน ตัดกับลูกค้าจริงคุ้มกว่า แถมได้ประสบการณ์แบบสด ๆ
—-
ลูกค้าผู้หญิงเองก็มีเยอะ
บางคนใช้มา 3 ปีแล้ว บอกว่าไม่กลัวเลย
เพราะช่างที่ตัดก็ไม่ใช่มือใหม่หมด
บางคนฝีมือเข้าปีที่ 5 แล้ว และทุกครั้งก็มีผู้จัดการตรวจงานปิดท้ายเหมือนกัน
=======
ผมว่ามันคือระบบที่ดีในฝั่งร้านตัดผมเลยนะ
ยิ่งในเศรษฐกิจแบบนี้
ลูกค้าได้ประหยัดแบบจริงจังได้ตัดผมดี ๆ แบบไม่เสียเงิน ช่างได้ฝึกกับลูกค้าจริง บ่มประสบการณ์เร็วกว่าใช้หุ่น และร้านได้สร้างสายสัมพันธ์ในอนาคต
บริการ “0 บาท” แบบนี้มันก็win–winสองฝ่ายนะ
Mark JapanSalaryman
Cr:ANN Newsch