สวัสดีค่ะเพื่อนๆ ชาวพันทิป วันนี้อยากจะขอแชร์เรื่องราวชีวิต( พื้นที่ระบาย)ในวัยเด็กที่ผ่านมา มันอาจจะเป็นเรื่องที่หนักหน่วงและเจ็บปวดสำหรับเรา แต่ความเจ็บปวดเหล่านั้นคือรากฐานที่แข็งแกร่งที่สุดที่สร้างเราขึ้นมาในวันนี้ค่ะ
👧🏻 ป.1: เด็กหญิงที่ต้องเป็นผู้ใหญ่ตัวน้อย
ฉันเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งที่อาจจะไม่ได้มีรูปร่างหน้าตาสะสวยนัก ออกจะดู มอมแมม อยู่เสมอ เนื่องจากครอบครัวของเราไม่ได้มีฐานะที่ดี พ่อกับแม่ต้องทำงานหนักจนแทบไม่มีเวลาเหลือให้ดูแลฉันอย่างเต็มที่
ชีวิตของฉันเริ่มต้นการเป็น "ผู้ใหญ่ตัวน้อย" ตั้งแต่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เลยค่ะ ฉันต้องเริ่มดูแลและจัดการชีวิตตัวเองทั้งหมด ทั้ง ซักเสื้อผ้า ทำกับข้าว นึ่งข้าว ทุกสิ่งอย่างที่เด็กตัวเล็กๆ จะสามารถทำได้ในแต่ละวัน เพื่อแบ่งเบาภาระของพ่อแม่
💔 น้ำตาที่ไหลเงียบๆ ในห้องเรียน
เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มเพื่อนๆ ที่พ่อแม่ดูแลอย่างดี พวกเขาก็จะดูสะอาด สวยงาม และเป็น "สาว" กว่าฉันมาก ชีวิตในวัยเด็กของฉันจึงไม่ง่ายเลยค่ะ
ฉันถูก บูลลี่ ตลอดเวลา ถูกเพื่อนมองด้วยสายตาที่เหยียดหยาม ถูกเลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน แม้กระทั่งคุณครูในโรงเรียนก็ยังเลือกปฏิบัติ ความรู้สึก ไร้ค่า ทรมานใจ และความโดดเดี่ยวในห้องเรียนนั้น เป็นบาดแผลที่ฝังลึกอยู่ในความทรงจำเสมอ
พอเข้าชั้น ป.4 เพื่อนๆ เริ่มมีประจำเดือน เริ่มแตกเนื้อสาว มีหนุ่มๆ เพื่อนผู้ชายมาเป็นแฟน ถามว่า อิจฉา ไหม? ก็มีบ้างค่ะ แต่ก็เข้าใจ เราไม่ได้สะสวย เป็นเด็กท้ายห้องที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรเลย ทั้งการเรียนและกิจกรรม และที่สำคัญ เวลาหลังเลิกเรียน ฉันต้องไปช่วยงานพ่อแม่ ไม่มีเวลาไปเล่นสนุกเหมือนคนอื่น
📖 แสงสว่างจากนิยายเก่าๆ ที่จุดประกายความฝัน
ในท่ามกลางชีวิตที่คิดว่า โชคร้าย นี้ ฉันกลับพบ ความโชคดี เล็กๆ ค่ะ
ตอน ป.4 ฉันได้เริ่มอ่าน หนังสือนวนิยายและเรื่องสั้นต่างๆ ของแม่ หลายเรื่องมาก ในนั้นมีเรื่องราวของนางเอกที่ทำงานเป็นผู้จัดการ ผู้บริหาร และอาชีพที่น่าตื่นเต้นต่างๆ
มันทำให้ฉันเกิด ความฝัน ขึ้นมาอย่างชัดเจนว่า ฉันอยากจะเป็นดังนางเอกในนวนิยายเหล่านั้นบ้าง อยากมีชีวิตที่ได้สวมชุดสวยๆ ได้ทำงานที่ท้าทาย ได้ใช้ชีวิตที่แตกต่างจากความมอมแมมที่เป็นอยู่
ฉันเริ่มวาดฝันว่าวันหนึ่งฉันจะได้ใช้ชีวิตแบบนั้น แต่ในบางความคิดก็กระซิบเตือนฉันว่า "เป็นไปไม่ได้หรอก ทั้งเรียนก็ไม่เก่ง พ่อแม่ก็ไม่ได้มีเงินสนับสนุน..." ณ ตอนนั้นฉันได้แต่ ฝันลมๆ แล้งๆ จินตนาการอยู่ในหัวคนเดียว โดยที่ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง
😈 ม.ต้น: นางร้ายที่มาพร้อมมิตรภาพใหม่
พอเข้าเรียน มัธยมต้น ฉันต้องย้ายโรงเรียนไปเข้าในตัวตำบล การคบเพื่อนเป็นอุปสรรคอย่างมาก เพราะเพื่อนเก่าได้ขายเรื่องราวไม่ดีของฉันให้เพื่อนใหม่ฟัง สุดท้ายฉันกลายเป็นคนไม่มีเพื่อน รู้สึกตัวเอง ไร้ค่า ไม่คู่ควรกับสิ่งดีๆ
แต่ที่โรงเรียนมัธยมนี้มี ห้องสมุด ฉันใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นั่น และได้พบ เพื่อน ที่เหมือนกับฉัน คือเป็นคนที่มี สถานะทางบ้านไม่ดี และ ถูกเลือกปฏิบัติ เหมือนๆ กัน เราคุยกันถูกคอ และรวมกลุ่มกัน ในที่สุดฉันก็มีเพื่อนกินข้าว มีเพื่อนคุยแลกเปลี่ยนความคิดกัน
ในช่วง ม.ต้น กลุ่มเพื่อนเก่าก็ยังคง ล้อเลียน ฉัน แต่ฉันก็ใช้ความเกลียดชังเป็นพลัง... เพื่อนเหล่านั้นมาปรึกษาเรื่องหัวใจกับฉัน ฉันก็ทำเป็น ยินดี และยุยงเสริมให้พวกนั้นมีแฟน เช่น "พี่คนนั้นชอบนะ" หรือบางทีก็สนับสนุนให้พวกนางตัดสินใจเรื่องแฟน
สุดท้ายนางติดกับค่ะ! นางท้องตอน ม.2 และก็ออกจากโรงเรียนไปแต่งงาน
ฉันได้เห็นแฟนๆ ของพวกนาง... เป็นแบบ "ผู้บ่าวแว้น" ใส่เสื้อแขนยาวมีหมวก กางเกงขาเดฟ รองเท้าแตะ มองดูเท้าหมองๆ มีขี้ไคล ผิวหนังแตกลาย (ในใจคิดว่า หล่อตรงไหน?) หนุ่มๆ เหล่านั้นขับรถมอเตอร์ไซค์แต่งท่อ ล้อมีไฟกะพริบและเสียงดัง บางคนก็อุ้มไก่ชน "ยี้ พวกบ้านนอก สู้พ่อหนุ่มในดวงใจฉันก็ไม่ได้" ฉันได้แต่โมเมเอาว่าหนุ่มหล่อในนิยายคือแฟนในอนาคตของฉัน
💥 การต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่หน้าเสาธง
แต่ก็เหลือเพื่อนอีกบางคนที่ยังคงอยู่แกล้งฉันจนจบ ม.3 ในช่วง เทอมสุดท้าย นี่เอง
นางเพื่อนใจร้ายคนนั้นมันเตะฉันที่หน้าเสาธง ที่ผ่านมาฉันไม่เคยตอบโต้เลย แต่วันนี้ฉันรู้สึกว่าฉันต้องสู้! ไหนๆ จบ ม.3 ก็ไม่เรียนต่อแล้ว ก็ไม่มีผลอะไรต่อฉันอีก..ฉันก็เลยเอาคืน. สุดท้ายเราก็หยุมกันเอาเป็นเอาตาย สุดท้ายนางสู้ไม่ไหว เลือดตกยางออก จึงล่าถอยออกไปเอง
ฉันรู้สึกว่าที่ผ่านมาทำไมฉันถึงไม่สู้? ฉันก็สู้ได้นี่!
แต่เมื่อเห็นเพื่อนคนนั้นมีเลือดออกตามแขนขา ฉันกลับรู้สึก สงสาร และเดินเข้าไป ขอโทษมัน ในที่สุด เราก็ เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันในเทอมสุดท้าย นั้นเองค่ะ (ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตั้งแต่เรียนอนุบาล-ม.3 พวกเขาไม่เคยหยุดแกล้งฉันเลย)
พอจบ ม.3 นางก็แต่งงานมีสามีไป... ส่วนฉัน... ชีวิต ม.ปลาย หลังจากนี้ก็มีความสุขสักทีค่ะ
นี่เป็นเพียงแค่บางส่วนของชีวิตตั้งแต่เด็กจนถึง ม.ต้น เท่านั้นนะคะ ความเจ็บปวดในวัยเด็กหล่อหลอมให้ฉันเติบโตมาเป็นคนที่มีความฝันชัดเจน และพยายามทำมันให้สำเร็จให้ได้
ในกระทู้หน้า ฉันจะมาเล่าชีวิตในช่วง ม.ปลาย จนถึงชีวิตมหาวิทยาลัย ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำตามความฝันให้เพื่อนๆ ฟังกันค่ะ
ถึงเด็กน้อยในวันนั้น...เรื่องราวของฉันที่เคยถูกบูลลี่
👧🏻 ป.1: เด็กหญิงที่ต้องเป็นผู้ใหญ่ตัวน้อย
ฉันเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งที่อาจจะไม่ได้มีรูปร่างหน้าตาสะสวยนัก ออกจะดู มอมแมม อยู่เสมอ เนื่องจากครอบครัวของเราไม่ได้มีฐานะที่ดี พ่อกับแม่ต้องทำงานหนักจนแทบไม่มีเวลาเหลือให้ดูแลฉันอย่างเต็มที่
ชีวิตของฉันเริ่มต้นการเป็น "ผู้ใหญ่ตัวน้อย" ตั้งแต่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เลยค่ะ ฉันต้องเริ่มดูแลและจัดการชีวิตตัวเองทั้งหมด ทั้ง ซักเสื้อผ้า ทำกับข้าว นึ่งข้าว ทุกสิ่งอย่างที่เด็กตัวเล็กๆ จะสามารถทำได้ในแต่ละวัน เพื่อแบ่งเบาภาระของพ่อแม่
💔 น้ำตาที่ไหลเงียบๆ ในห้องเรียน
เมื่อเปรียบเทียบกับกลุ่มเพื่อนๆ ที่พ่อแม่ดูแลอย่างดี พวกเขาก็จะดูสะอาด สวยงาม และเป็น "สาว" กว่าฉันมาก ชีวิตในวัยเด็กของฉันจึงไม่ง่ายเลยค่ะ
ฉันถูก บูลลี่ ตลอดเวลา ถูกเพื่อนมองด้วยสายตาที่เหยียดหยาม ถูกเลือกปฏิบัติอย่างชัดเจน แม้กระทั่งคุณครูในโรงเรียนก็ยังเลือกปฏิบัติ ความรู้สึก ไร้ค่า ทรมานใจ และความโดดเดี่ยวในห้องเรียนนั้น เป็นบาดแผลที่ฝังลึกอยู่ในความทรงจำเสมอ
พอเข้าชั้น ป.4 เพื่อนๆ เริ่มมีประจำเดือน เริ่มแตกเนื้อสาว มีหนุ่มๆ เพื่อนผู้ชายมาเป็นแฟน ถามว่า อิจฉา ไหม? ก็มีบ้างค่ะ แต่ก็เข้าใจ เราไม่ได้สะสวย เป็นเด็กท้ายห้องที่ไม่ได้โดดเด่นอะไรเลย ทั้งการเรียนและกิจกรรม และที่สำคัญ เวลาหลังเลิกเรียน ฉันต้องไปช่วยงานพ่อแม่ ไม่มีเวลาไปเล่นสนุกเหมือนคนอื่น
📖 แสงสว่างจากนิยายเก่าๆ ที่จุดประกายความฝัน
ในท่ามกลางชีวิตที่คิดว่า โชคร้าย นี้ ฉันกลับพบ ความโชคดี เล็กๆ ค่ะ
ตอน ป.4 ฉันได้เริ่มอ่าน หนังสือนวนิยายและเรื่องสั้นต่างๆ ของแม่ หลายเรื่องมาก ในนั้นมีเรื่องราวของนางเอกที่ทำงานเป็นผู้จัดการ ผู้บริหาร และอาชีพที่น่าตื่นเต้นต่างๆ
มันทำให้ฉันเกิด ความฝัน ขึ้นมาอย่างชัดเจนว่า ฉันอยากจะเป็นดังนางเอกในนวนิยายเหล่านั้นบ้าง อยากมีชีวิตที่ได้สวมชุดสวยๆ ได้ทำงานที่ท้าทาย ได้ใช้ชีวิตที่แตกต่างจากความมอมแมมที่เป็นอยู่
ฉันเริ่มวาดฝันว่าวันหนึ่งฉันจะได้ใช้ชีวิตแบบนั้น แต่ในบางความคิดก็กระซิบเตือนฉันว่า "เป็นไปไม่ได้หรอก ทั้งเรียนก็ไม่เก่ง พ่อแม่ก็ไม่ได้มีเงินสนับสนุน..." ณ ตอนนั้นฉันได้แต่ ฝันลมๆ แล้งๆ จินตนาการอยู่ในหัวคนเดียว โดยที่ไม่ได้เล่าให้ใครฟัง
😈 ม.ต้น: นางร้ายที่มาพร้อมมิตรภาพใหม่
พอเข้าเรียน มัธยมต้น ฉันต้องย้ายโรงเรียนไปเข้าในตัวตำบล การคบเพื่อนเป็นอุปสรรคอย่างมาก เพราะเพื่อนเก่าได้ขายเรื่องราวไม่ดีของฉันให้เพื่อนใหม่ฟัง สุดท้ายฉันกลายเป็นคนไม่มีเพื่อน รู้สึกตัวเอง ไร้ค่า ไม่คู่ควรกับสิ่งดีๆ
แต่ที่โรงเรียนมัธยมนี้มี ห้องสมุด ฉันใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่นั่น และได้พบ เพื่อน ที่เหมือนกับฉัน คือเป็นคนที่มี สถานะทางบ้านไม่ดี และ ถูกเลือกปฏิบัติ เหมือนๆ กัน เราคุยกันถูกคอ และรวมกลุ่มกัน ในที่สุดฉันก็มีเพื่อนกินข้าว มีเพื่อนคุยแลกเปลี่ยนความคิดกัน
ในช่วง ม.ต้น กลุ่มเพื่อนเก่าก็ยังคง ล้อเลียน ฉัน แต่ฉันก็ใช้ความเกลียดชังเป็นพลัง... เพื่อนเหล่านั้นมาปรึกษาเรื่องหัวใจกับฉัน ฉันก็ทำเป็น ยินดี และยุยงเสริมให้พวกนั้นมีแฟน เช่น "พี่คนนั้นชอบนะ" หรือบางทีก็สนับสนุนให้พวกนางตัดสินใจเรื่องแฟน
สุดท้ายนางติดกับค่ะ! นางท้องตอน ม.2 และก็ออกจากโรงเรียนไปแต่งงาน
ฉันได้เห็นแฟนๆ ของพวกนาง... เป็นแบบ "ผู้บ่าวแว้น" ใส่เสื้อแขนยาวมีหมวก กางเกงขาเดฟ รองเท้าแตะ มองดูเท้าหมองๆ มีขี้ไคล ผิวหนังแตกลาย (ในใจคิดว่า หล่อตรงไหน?) หนุ่มๆ เหล่านั้นขับรถมอเตอร์ไซค์แต่งท่อ ล้อมีไฟกะพริบและเสียงดัง บางคนก็อุ้มไก่ชน "ยี้ พวกบ้านนอก สู้พ่อหนุ่มในดวงใจฉันก็ไม่ได้" ฉันได้แต่โมเมเอาว่าหนุ่มหล่อในนิยายคือแฟนในอนาคตของฉัน
💥 การต่อสู้ครั้งสุดท้ายที่หน้าเสาธง
แต่ก็เหลือเพื่อนอีกบางคนที่ยังคงอยู่แกล้งฉันจนจบ ม.3 ในช่วง เทอมสุดท้าย นี่เอง
นางเพื่อนใจร้ายคนนั้นมันเตะฉันที่หน้าเสาธง ที่ผ่านมาฉันไม่เคยตอบโต้เลย แต่วันนี้ฉันรู้สึกว่าฉันต้องสู้! ไหนๆ จบ ม.3 ก็ไม่เรียนต่อแล้ว ก็ไม่มีผลอะไรต่อฉันอีก..ฉันก็เลยเอาคืน. สุดท้ายเราก็หยุมกันเอาเป็นเอาตาย สุดท้ายนางสู้ไม่ไหว เลือดตกยางออก จึงล่าถอยออกไปเอง
ฉันรู้สึกว่าที่ผ่านมาทำไมฉันถึงไม่สู้? ฉันก็สู้ได้นี่!
แต่เมื่อเห็นเพื่อนคนนั้นมีเลือดออกตามแขนขา ฉันกลับรู้สึก สงสาร และเดินเข้าไป ขอโทษมัน ในที่สุด เราก็ เป็นเพื่อนที่ดีต่อกันในเทอมสุดท้าย นั้นเองค่ะ (ทั้งที่ก่อนหน้านี้ตั้งแต่เรียนอนุบาล-ม.3 พวกเขาไม่เคยหยุดแกล้งฉันเลย)
พอจบ ม.3 นางก็แต่งงานมีสามีไป... ส่วนฉัน... ชีวิต ม.ปลาย หลังจากนี้ก็มีความสุขสักทีค่ะ
นี่เป็นเพียงแค่บางส่วนของชีวิตตั้งแต่เด็กจนถึง ม.ต้น เท่านั้นนะคะ ความเจ็บปวดในวัยเด็กหล่อหลอมให้ฉันเติบโตมาเป็นคนที่มีความฝันชัดเจน และพยายามทำมันให้สำเร็จให้ได้
ในกระทู้หน้า ฉันจะมาเล่าชีวิตในช่วง ม.ปลาย จนถึงชีวิตมหาวิทยาลัย ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการทำตามความฝันให้เพื่อนๆ ฟังกันค่ะ