ย้อนไปปี 2538 ไทยได้เป็นเจ้าภาพซีเกมส์ จัดช่วงเดือนธันวาคม
ถือว่าเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะทุกชาติที่เป็นเจ้าภาพจะใช้เมืองหลวงเป็น Main ในการจัด (แต่ไทย ใช้เชียงใหม่เป็น Main เลย จึงนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อาเซียน ที่เมืองเป็นเจ้าภาพไม่ใช่เมืองหลวง)
เท่าที่ จขกท จำได้นะ เริ่มจากการโปรโมท
1) ทีวีทุกช่องจะโปรโมทร่วมกัน มีเพลงโฆษณาการแข่งขันที่เผยแพร่ทางทีวีก่อนแข่งเป็นเดือน ๆ

โฆษณานี้จะเห็นบ่อยมาก ทุกวัน เปิดช่องไหนก็เห็น (ทำให้คนไทยทั้งประเทศรู้ทั่วกันว่าไทยเป็นเจ้าภาพ)
2) แม้แต่ตัวสินค้าที่คนทั่วไปบริโภค ก็จะถูกออกแบบเป็นตราโลโก้ซีเกมส์เชียงใหม่

แค่เดินเข้า 7-11 ก็เห็นกันแล้ว (มีสินค้าอีกหลายอย่างมากที่มีตราโลโก้ซีเกมส์แบบนี้) แต่หาไม่เจอ
3) ของใช้ในครัวเรือนต่าง ๆ เช่น ถ้วย จาน ที่รองแก้วกาแฟก็มีตราโลโก้ศีเกมส์ทั้งสิ้น

จำได้ว่าคนมักมอบเป็นของขวัฯปีใหม่ให้กัน โดยเฉพาะในองค์กร หน่วยงาน ที่ทำงานต่าง ๆ
4) สแตมป์ขอฃทางไปรษณีย์ทั่วประเทศ มีขายเป็นรูปโลโก้ซีเกมส์ในปีนั้น มีขายตั้งแต่ช่วงต้นปีเลยนะ
5) แม้แต่เหรียญที่ระลึกก็ถูกผลิตเป็นตราซีเกมส์ด้วย
6) เจ้าตัวตุ๊กตามาสคอต แมวสวัสดี มีวางขายให้เห็นตามร้านค้าทั่วไป ตามห้างต่าง ๆ
7) เสื้อผ้าต่าง ๆ เช่น เสื้อยืด เสื้อคอปก มีสกรีนตราซีเกมส์วางขายทั่วเมือง แม้แต่เสื้อผ้าเด็ก ๆ ยังมีด้วย
8) สมัยนั่นยังไม่มีมือถือแพร่หลาย คนจะโทรศัพท์ที่ตู้สาธารณะ สามารถใช้บัตรเสียบแทนเงินได้
9) รูปปั้นมาสคอตหน้าสนาม ก็สามารถดึงดูดให้คนไปถ่ายรูปได้ แบบต่อคิวยาวมาก

จำได้ว่าแถวยาวมาก ๆ
10) ควันหลงซีเกมส์สมัยนั้น นักกีฬาไทยที่ฮอตมาก ๆ คือ ฉลามนุ๊ก รัฐพงศ์ ศิริสานนท์

พี่แกฮอตมาก เป็นแชมป์เดี่ยวผสม 200,400 ม ในเอเชียนเกมส์ 1994 ที่ผ่านมาด้วย / พอซีเกมส์ครั้งนั้นจึงเป็นที่จับตามองของสื่อ พี่แกไม่ทำให้ผิดหวัง ระดับเอเชียก็ได้มา 2 ทองแล้ว แค่ระดับซีเกมส์แค่นี้ แกกวาดไป 6 ทองที่เชียงใหม่
# ใครมีลูกชายช่วงนั้น พ่อแม่มักตั้งชื่อเล่นว่า “ซีเกมส์“ หรือบางคนจะตั้งชื่อจริงลูกว่า “เด็กชายรัฐพงศ์“
จขกท แค่นึกหวนความหลังนะ ไม่ได้อยากให้ขัดแย้งอะไรกับซีเกมส์ครั้งนี้ ,, แต่มันก็อดคิดไม่ได้ ทั้งที่เชียงใหม่เป็นเมือง ตจว แต่สามารถจัดซีเกมส์ให้บูมได้ บูมตั้งแต่การโปรโมท ทั้งที่ยุคนั้นสื่อ เทคโนโลยีไม่ทันสมัย แต่บูมได้, ในขณะที่ กทม เป็นเมืองหลวงแท้ๆ ครบพร้อมกว่าเชียงใหม่ในหลายอย่าง จัดซีเกมส์ในยุคที่สื่อครบพร้อม โซเชียลเข้าถึงง่าย แต่การโปรโมททำไมไม่คึกคักเท่า 2538
ซีเกมส์เชียงใหม่ 1995 รู้สึกว่าทำถึงกว่าในแง่การโปรโมท ทั้งที่ยุคนั้นสื่อโซเชียลไม่ทันสมัย
ถือว่าเป็นความท้าทายที่ยิ่งใหญ่มาก เพราะทุกชาติที่เป็นเจ้าภาพจะใช้เมืองหลวงเป็น Main ในการจัด (แต่ไทย ใช้เชียงใหม่เป็น Main เลย จึงนับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์อาเซียน ที่เมืองเป็นเจ้าภาพไม่ใช่เมืองหลวง)
เท่าที่ จขกท จำได้นะ เริ่มจากการโปรโมท
1) ทีวีทุกช่องจะโปรโมทร่วมกัน มีเพลงโฆษณาการแข่งขันที่เผยแพร่ทางทีวีก่อนแข่งเป็นเดือน ๆ
โฆษณานี้จะเห็นบ่อยมาก ทุกวัน เปิดช่องไหนก็เห็น (ทำให้คนไทยทั้งประเทศรู้ทั่วกันว่าไทยเป็นเจ้าภาพ)
2) แม้แต่ตัวสินค้าที่คนทั่วไปบริโภค ก็จะถูกออกแบบเป็นตราโลโก้ซีเกมส์เชียงใหม่
แค่เดินเข้า 7-11 ก็เห็นกันแล้ว (มีสินค้าอีกหลายอย่างมากที่มีตราโลโก้ซีเกมส์แบบนี้) แต่หาไม่เจอ
3) ของใช้ในครัวเรือนต่าง ๆ เช่น ถ้วย จาน ที่รองแก้วกาแฟก็มีตราโลโก้ศีเกมส์ทั้งสิ้น
จำได้ว่าคนมักมอบเป็นของขวัฯปีใหม่ให้กัน โดยเฉพาะในองค์กร หน่วยงาน ที่ทำงานต่าง ๆ
4) สแตมป์ขอฃทางไปรษณีย์ทั่วประเทศ มีขายเป็นรูปโลโก้ซีเกมส์ในปีนั้น มีขายตั้งแต่ช่วงต้นปีเลยนะ
5) แม้แต่เหรียญที่ระลึกก็ถูกผลิตเป็นตราซีเกมส์ด้วย
6) เจ้าตัวตุ๊กตามาสคอต แมวสวัสดี มีวางขายให้เห็นตามร้านค้าทั่วไป ตามห้างต่าง ๆ
7) เสื้อผ้าต่าง ๆ เช่น เสื้อยืด เสื้อคอปก มีสกรีนตราซีเกมส์วางขายทั่วเมือง แม้แต่เสื้อผ้าเด็ก ๆ ยังมีด้วย
8) สมัยนั่นยังไม่มีมือถือแพร่หลาย คนจะโทรศัพท์ที่ตู้สาธารณะ สามารถใช้บัตรเสียบแทนเงินได้
9) รูปปั้นมาสคอตหน้าสนาม ก็สามารถดึงดูดให้คนไปถ่ายรูปได้ แบบต่อคิวยาวมาก
จำได้ว่าแถวยาวมาก ๆ
10) ควันหลงซีเกมส์สมัยนั้น นักกีฬาไทยที่ฮอตมาก ๆ คือ ฉลามนุ๊ก รัฐพงศ์ ศิริสานนท์
พี่แกฮอตมาก เป็นแชมป์เดี่ยวผสม 200,400 ม ในเอเชียนเกมส์ 1994 ที่ผ่านมาด้วย / พอซีเกมส์ครั้งนั้นจึงเป็นที่จับตามองของสื่อ พี่แกไม่ทำให้ผิดหวัง ระดับเอเชียก็ได้มา 2 ทองแล้ว แค่ระดับซีเกมส์แค่นี้ แกกวาดไป 6 ทองที่เชียงใหม่
# ใครมีลูกชายช่วงนั้น พ่อแม่มักตั้งชื่อเล่นว่า “ซีเกมส์“ หรือบางคนจะตั้งชื่อจริงลูกว่า “เด็กชายรัฐพงศ์“
จขกท แค่นึกหวนความหลังนะ ไม่ได้อยากให้ขัดแย้งอะไรกับซีเกมส์ครั้งนี้ ,, แต่มันก็อดคิดไม่ได้ ทั้งที่เชียงใหม่เป็นเมือง ตจว แต่สามารถจัดซีเกมส์ให้บูมได้ บูมตั้งแต่การโปรโมท ทั้งที่ยุคนั้นสื่อ เทคโนโลยีไม่ทันสมัย แต่บูมได้, ในขณะที่ กทม เป็นเมืองหลวงแท้ๆ ครบพร้อมกว่าเชียงใหม่ในหลายอย่าง จัดซีเกมส์ในยุคที่สื่อครบพร้อม โซเชียลเข้าถึงง่าย แต่การโปรโมททำไมไม่คึกคักเท่า 2538