ชาวจีนในหาดใหญ่มาจากไหน ?
คนหาดใหญ่ ก็กากี่นั้งทั้งนั้นแหละ
‘แซ่ลิ้ม แซ่โอ้ว แซ่ตั้ง แซ่แต้ แซ่เตียว แซ่เอื้อ แซ่หวง แซ่เล้ง’
‘กากี่นั้งนะ กากากี่นั้งนะ พวกนะเรากากี่นั้งนะ กากี่นั้ง’
(กากี่นั้ง แปลว่า คนกันเอง)
จากเนื้อร้องในเพลง สมาคมตาชั้นเดียว (กากี่นั้ง)โดยแรปเปอร์ชื่อดัง ‘โจอี้บอย’ ผ่านคำในภาษาจีนที่คุ้นหูเล่าถึงความกลมเกลียวแน่นแฟ้นของชาวจีนหรือชาวไทยเชื้อสายจีนได้อย่างดี เพราะสังคมชาวจีนโดยเฉพาะในหาดใหญ่มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกันจนเปรียบเสมือนเป็นคนกันเอง
• ชาวจีนในหาดใหญ่มาจากไหน
ในปี พ.ศ. 2458 เกิดรถไฟสายใต้เพื่อเชื่อมเส้นทางระหว่างสยามกับอาณานิคมมลายู โดยมีชาวจีนเป็นแรงงานหลัก เมื่อสร้างทางรถไฟเสร็จแล้ว ชาวจีนเหล่านี้จึงลงหลักปักฐานอาศัยและประกอบอาชีพในหาดใหญ่เป็นจำนวนมาก จึงทำให้พื้นที่แห่งนี้มีสภาพสังคม และวัฒนธรรมแบบจีนให้เห็นเด่นชัด
•หาดใหญ่มีครบทุกสมาคมจีน
ครั้งหนึ่งตัวเราเองเคยได้สัมผัสความเป็นกลุ่มเป็นก้อนของชาวจีน ผ่านงานศพของ เหล่ากง เหล่าหม่า สมาคมแซ่ลิ่มที่อากงเคยไปพบปะ ช่วยงานตั้งแต่หนุ่มๆ ก็มาแสดงความเคารพตามธรรมเนียม หลังจากนั้นเมื่อได้ศึกษาและได้ยินสิ่งที่ผู้ใหญ่ในบ้านหลายท่านเล่าให้ฟัง เราถึงปะติดปะต่อสังคมชาวจีนในหาดใหญ่ได้พอเห็นภาพมากขึ้น ชาวจีนในหาดใหญ่มีหลายกลุ่มทั้งจีนแต้จิ๋ว จีนฮากกา จีนฮกเกี้ยนและอื่นๆ ชาวจีนเหล่านี้รวมตัวกันตั้งสมาคมและมูลนิธิมากมายในเมืองหาดใหญ่ เช่น สมาคมชาวแต้จิ๋ว สมาคมฮากกาหาดใหญ่ มูลนิธิจงฮั่วสงเคราะห์คนชราอนาถา มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ้ง) สมาคมปั้นซันขัก(รวมมิตรชาวจีนทั้งแต้จิ๋วและฮากกา) และอื่นๆ ที่ดูท่าจะกล่าวให้หมดคงจะกินเนื้อที่พอสมควร
•คนจีนหาดใหญ่เป็นหนึ่งเดียวกัน
การรวมตัวของชาวจีนเหล่านี้ในตอนแรกก็เป็นการคอยช่วยดูแลกันในต่างถิ่นต่างแดน ทั้งช่วยกันปกป้องผลประโยชน์และเป็นเครือข่ายในการประสานงานเรื่องต่างๆ และการพบปะสังสรรค์กัน ชาวจีนเหล่านี้ยังรวมตัวทำกิจกรรมที่มีความเชื่อร่วมกัน เช่น ชาวจีนฮากกานับถือเทพเจ้ากวนอูเหมือนกัน หรือชาวจีนโดยทั่วไปเลื่อมใสในพระโพธิสัตว์กวนอิมเหมือนๆ กัน
•เป็นจีนยุคใหม่ในหาดใหญ่แบบโมเดิร์น
ในสังคมปัจจุบันเมื่อเกิดเป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น ประเพณีที่เคยปฏิบัติสืบกันมาก็อาจจะลดน้อยลง อาจเหลือแค่ ตรุษจีน สารทจีนและเช็งเม้ง หรือบางบ้านอาจเหลือแค่ตรุษจีนด้วยซ้ำ ความเป็นจีนที่หลงเหลืออยู่อาจเป็นเพียงจุดร่วมบางอย่างที่เป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม กลายเป็นบทสนทนาสั้นๆ ว่าปีนี้ได้อั่งเปากันกี่บาทในหมู่เพื่อนๆ ที่โรงเรียน แต่ในทางเครื่องหมายของเชื้อชาติ ก็ค่อยๆ จางหายไป แต่สิ่งที่เห็นชัดในชุมชนชาวจีนในหาดใหญ่คือ การปรับตัวและผสมผสานตัวเองเข้ากับรัฐและสังคมใหม่ได้เป็นอย่างดีเสมอมา อย่างที่เราเห็นได้ชัดจากงานอีเว้นท์ในเมืองหาดใหญ่ เช่น เฉลิมฉลองเทศกาลคริสมาสต์ เคาท์ดาวน์ปีใหม่ สาดน้ำสงกรานต์แบบไทย ร่วมพิธีกรรมแบบชาวพุทธเถรวาท ไหว้ตรุษจีนและขอพรเทพเจ้า
ที่มา: ศุภการ สิริไพศาลและคณะ บทความวิจัย ความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมของชุมชนชาวจีนเมืองหาดใหญ่จาก อดีตถึงปัจจุบัน วารสารมหาวิทยาลัยทักษิณ
: Hatyai Connext
https://www.facebook.com/share/p/1JiFym7rww/?mibextid=wwXIfr
หาดใหญ่ - ชุมชนชาวจีน
คนหาดใหญ่ ก็กากี่นั้งทั้งนั้นแหละ
‘แซ่ลิ้ม แซ่โอ้ว แซ่ตั้ง แซ่แต้ แซ่เตียว แซ่เอื้อ แซ่หวง แซ่เล้ง’
‘กากี่นั้งนะ กากากี่นั้งนะ พวกนะเรากากี่นั้งนะ กากี่นั้ง’
(กากี่นั้ง แปลว่า คนกันเอง)
จากเนื้อร้องในเพลง สมาคมตาชั้นเดียว (กากี่นั้ง)โดยแรปเปอร์ชื่อดัง ‘โจอี้บอย’ ผ่านคำในภาษาจีนที่คุ้นหูเล่าถึงความกลมเกลียวแน่นแฟ้นของชาวจีนหรือชาวไทยเชื้อสายจีนได้อย่างดี เพราะสังคมชาวจีนโดยเฉพาะในหาดใหญ่มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกันจนเปรียบเสมือนเป็นคนกันเอง
• ชาวจีนในหาดใหญ่มาจากไหน
ในปี พ.ศ. 2458 เกิดรถไฟสายใต้เพื่อเชื่อมเส้นทางระหว่างสยามกับอาณานิคมมลายู โดยมีชาวจีนเป็นแรงงานหลัก เมื่อสร้างทางรถไฟเสร็จแล้ว ชาวจีนเหล่านี้จึงลงหลักปักฐานอาศัยและประกอบอาชีพในหาดใหญ่เป็นจำนวนมาก จึงทำให้พื้นที่แห่งนี้มีสภาพสังคม และวัฒนธรรมแบบจีนให้เห็นเด่นชัด
•หาดใหญ่มีครบทุกสมาคมจีน
ครั้งหนึ่งตัวเราเองเคยได้สัมผัสความเป็นกลุ่มเป็นก้อนของชาวจีน ผ่านงานศพของ เหล่ากง เหล่าหม่า สมาคมแซ่ลิ่มที่อากงเคยไปพบปะ ช่วยงานตั้งแต่หนุ่มๆ ก็มาแสดงความเคารพตามธรรมเนียม หลังจากนั้นเมื่อได้ศึกษาและได้ยินสิ่งที่ผู้ใหญ่ในบ้านหลายท่านเล่าให้ฟัง เราถึงปะติดปะต่อสังคมชาวจีนในหาดใหญ่ได้พอเห็นภาพมากขึ้น ชาวจีนในหาดใหญ่มีหลายกลุ่มทั้งจีนแต้จิ๋ว จีนฮากกา จีนฮกเกี้ยนและอื่นๆ ชาวจีนเหล่านี้รวมตัวกันตั้งสมาคมและมูลนิธิมากมายในเมืองหาดใหญ่ เช่น สมาคมชาวแต้จิ๋ว สมาคมฮากกาหาดใหญ่ มูลนิธิจงฮั่วสงเคราะห์คนชราอนาถา มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี (ท่งเซียเซี่ยงตึ้ง) สมาคมปั้นซันขัก(รวมมิตรชาวจีนทั้งแต้จิ๋วและฮากกา) และอื่นๆ ที่ดูท่าจะกล่าวให้หมดคงจะกินเนื้อที่พอสมควร
•คนจีนหาดใหญ่เป็นหนึ่งเดียวกัน
การรวมตัวของชาวจีนเหล่านี้ในตอนแรกก็เป็นการคอยช่วยดูแลกันในต่างถิ่นต่างแดน ทั้งช่วยกันปกป้องผลประโยชน์และเป็นเครือข่ายในการประสานงานเรื่องต่างๆ และการพบปะสังสรรค์กัน ชาวจีนเหล่านี้ยังรวมตัวทำกิจกรรมที่มีความเชื่อร่วมกัน เช่น ชาวจีนฮากกานับถือเทพเจ้ากวนอูเหมือนกัน หรือชาวจีนโดยทั่วไปเลื่อมใสในพระโพธิสัตว์กวนอิมเหมือนๆ กัน
•เป็นจีนยุคใหม่ในหาดใหญ่แบบโมเดิร์น
ในสังคมปัจจุบันเมื่อเกิดเป็นครอบครัวเดี่ยวมากขึ้น ประเพณีที่เคยปฏิบัติสืบกันมาก็อาจจะลดน้อยลง อาจเหลือแค่ ตรุษจีน สารทจีนและเช็งเม้ง หรือบางบ้านอาจเหลือแค่ตรุษจีนด้วยซ้ำ ความเป็นจีนที่หลงเหลืออยู่อาจเป็นเพียงจุดร่วมบางอย่างที่เป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรม กลายเป็นบทสนทนาสั้นๆ ว่าปีนี้ได้อั่งเปากันกี่บาทในหมู่เพื่อนๆ ที่โรงเรียน แต่ในทางเครื่องหมายของเชื้อชาติ ก็ค่อยๆ จางหายไป แต่สิ่งที่เห็นชัดในชุมชนชาวจีนในหาดใหญ่คือ การปรับตัวและผสมผสานตัวเองเข้ากับรัฐและสังคมใหม่ได้เป็นอย่างดีเสมอมา อย่างที่เราเห็นได้ชัดจากงานอีเว้นท์ในเมืองหาดใหญ่ เช่น เฉลิมฉลองเทศกาลคริสมาสต์ เคาท์ดาวน์ปีใหม่ สาดน้ำสงกรานต์แบบไทย ร่วมพิธีกรรมแบบชาวพุทธเถรวาท ไหว้ตรุษจีนและขอพรเทพเจ้า
ที่มา: ศุภการ สิริไพศาลและคณะ บทความวิจัย ความเปลี่ยนแปลงทางสังคมและวัฒนธรรมของชุมชนชาวจีนเมืองหาดใหญ่จาก อดีตถึงปัจจุบัน วารสารมหาวิทยาลัยทักษิณ
: Hatyai Connext
https://www.facebook.com/share/p/1JiFym7rww/?mibextid=wwXIfr