[CR] No.176 Island of the Winds (2025) By Taiwan Documentary Films Festival in Thailand 2025


- ดูจบ ถึงกับจุกในลำคอจนคิดคำที่จะเอ่ยออกมาจากในหัวไม่ออกเลยว่าจะเริ่มพรรณนาอะไรก่อนกับสิ่งที่กลุ่มผู้สูงอายุต้องเผชิญกับ Status ที่เป็นอยู่ไม่ต่างจากสลัมที่กระจุกตามซอกในตัวเมือง ด้วยความที่เพิ่งเข้ามาดูตอนที่เห็นชื่อเรื่องจ่าหัวกลางจอโดยมีภาพตึกราบ้านช่องเล็ก ๆ ที่ตั้งกระจัดกระจายอยู่บนภูเขาที่ตั้งขนาบ 2 ลูกเหมือนถูกแยกออกจากตัวเมืองที่ดูไม่ได้ห่างไกลไปมากเพราะมีสะพานเชื่อมอยู่ก็พออนุมานได้คร่าว ๆ ว่าคงเป็น โหล่เซิง สถานที่กักกันผู้ป่วยกลุ่มโรคเรื้อนที่มีบรรดาผู้สูงอายุอาศัยอยู่ที่หนังจะพาเราไปสำรวจ Life ของพวกเขาต่อจากนี้ในระยะเวลา ในสไตล์การเล่าของหนัง Document ที่ทราบแก่ใจดีจากการสัมภาษณ์ความในใจผสมแพนกล้องดูนกชมปลาในศูนย์กักกันแห่งนี้ทุกซอกทุกมุม ซึ่งพอคลำทางได้อยู่ว่าอะไรเป็นอะไร ? เหมือนเป็นการศึกษา Story ของคนที่อยู่ผ่านความหลังทางประวัติศาสตร์ของไต้หวันที่ผมเริ่มรู้สึกว่าข้อมูลที่ใส่มาตาม Timeline ที่กำลัง Run แบบก้าวกระโดดแล้วย้อนเวลากลับไปหาต้นตอตั้งแต่ราวปี 1930 โน้น ที่มันมี Details สำคัญแทรกอยู่เยอะจนนึกภาพไม่ทัน พอนึกไม่ทันบวกกับไม่รู้เรื่องราวความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ไต้หวันเลยประติดประต่อไม่ถูกจนในที่สุดก็นำพาไปสู่ภาวะเข้าเฝ้าพระอินทร์ที่จู่โจมประสาทสัมผัสผมอย่างรวดไว ทั้งที่เพิ่งจะเข้ามาดูประมาณ 15-20 นาทีเห็นจะได้

- จนมาฟื้นขึ้นในช่วงที่คณะนักกิจกรรม และ กลุ่ม NGO เดินทางมาช่วย Support เป็นลมใต้ปีกให้แก่กลุ่มผู้สูงอายุช่วงคาบเกี่ยวประมาณปี 2017 – 2018 ที่ Situations ขณะนั้นกำลังปูพรมการต่อสู้จากการถูกรัฐกระทำสารพัดวิธีด้วยวิธีการประชุมหารือก็ดีหรือออกไป Call Out ตามที่ต่าง ๆ ที่เริ่มเห็นแสงแห่งความหวังส่องมารำไรว่าไม่ได้ต่อสู้ตามลำพังแล้วนะแถมยังเริ่มจูนติดกับ Story จากการเขยิบไปตาม Timeline ต่อปีที่ยังสาละวนไปมาระหว่าง Part Activity เสริมสร้างความสัมพันธ์ กับ Part Private Life ใน Feels ลูกหลานมาเยี่ยมว่าหลังจากนั้นจะเกิด Events อะไรขึ้นต่อไป


-  แม้การต่อสู้ของกลุ่มผู้ป่วยสูงอายุจะกินเวลานานชั่วอายุ เอาแค่ยึด Situations ในปัจจุบัน 4-5 ปีที่ผ่านมา จะเห็นได้ว่าทางฝ่ายนั้นยังคงเดินหน้าตาม 1 ในแผนยุทธศาสตร์ที่วางไว้เมื่อปี 2002 ก็คือการเวนคืนสถานที่กักกันแห่งนี้เพื่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงรถไฟฟ้าที่มองว่ามีประโยชน์ต่อภาพรวมของประเทศมากกว่าต่อไปโดยไม่แคร์เสียงเรียกร้องของพวกเขาเลยว่าต้องการอะไร ? แถมยังหน้ามึนทำต่อไม่พอไม่คิดว่าจะหาทำมาเล่นละครตบฉาดกลางวงประชุมด้วยการใช้โรคของ1 ในกลุ่มผู้ป่วยสูงอายุเป็นข้ออ้างในการสร้างความชอบธรรมให้แก่ตนเองที่ผมถึงกับอึ้งด้วยความเจ็บหัวยิ้มว่านี้ช่างกล้าโดยไม่เกรงใจเครื่องแบบที่สวมเลยนะ

เอาเถอะถึงแต่ละฝ่ายจะไฝว้ทางอุดมการณ์จนล่อเข้าสู่สถานการณ์โควิด-19 ชนิดไม่เกรงใจเชื้อโรคกันแล้วก็พอคาดการณ์หวยข้างหน้าได้อยู่ลาง ๆ ว่าจะออกมาเลขอะไร ? พอถึงช่วงก่อนจากมันอดที่จะรู้สึกมีอารมณ์ร่วมไปกับการเดินทางของพวกเขาแต่ละคนที่ใช้เวลาเกือบทั้งชีวิตให้กับสถานที่ ๆ ตอนนี้กลายเป็น บ้าน จากการตั้งค่าของรัฐก็ดีหรือผ่านยุคอาณานิคมก็ตามค่อย ๆ หลอมหล่อมความสัมพันธ์กลายเป็น สังคมขนาดย่อม ที่พวกเขาสร้างขึ้นมาด้วยความผูกพันไปแล้วไม่ได้ แต่อย่างน้อยการมาของคณะนักกิจกรรมนอกจากช่วยขับเคลื่อนหรืออำนวยความเป็นอยู่กระทั่งฟื้นฟูจิตวิญญาณของพวกเขาให้กลับมามีขวัญกำลังใจแล้วเป็นกระบอกเสียงที่สะท้อนให้เห็นถึงความหละหลวมของระบบการจัดการเชิงโครงสร้างที่เลือกปฏิบัติกระทั่งการดูแลเข้าถึงที่ควรใส่ใจแก่คนอีกกลุ่มแต่กลับผลักภาระให้เวลาแก้ปัญหาไป ทั้งที่พวกเขาก็คือคนและควรได้รับอภิสิทธิ์อย่างเท่าเทียมในฐานะพลเมืองเหมือนกัน ถึงยังดีที่มีการรับผิดชอบแต่อดรู้สึกเจ็บปวดปนน้ำตาคลอกับสัจธรรมที่ปฏิเสธไม่ได้ในเรื่องของสังขารแต่มองในอีกมุมถ้าไม่ทำอะไรระหว่างมีชีวิตอยู่ ไม่ว่าจะเรียกร้องสิทธิเพื่ออส่วนรวม หรือ ความฝันที่อยากทำ มันเป็นอะไรที่น่าเศร้ายิ่งกว่าตรงที่ว่ามีสิทธิ์แต่ไม่ได้ใช้ออกมา

ขอขอบคุณผู้อ่านทุกท่านครับ : EMistique
ชื่อสินค้า:   Review By EMistique
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่