1.
กระจายอำนาจ อย่าควบรวมตำแหน่ง ปล่อยให้ลูกน้องฉายแสง
เมื่อนายก ควบ รมต กระทรวงอื่นด้วย ทำให้งานของกระทรวงไม่ได้ขับเคลื่อน
เวลาหมดไปกับหน้าที่นายกรัฐมนตรี วิธีการนี้ ประชาชนเสียประโยชน์
คนใน ครม. อย่าเอามายืนเป็นไม้ประดับอยู่ด้านหลังเวลาให้สัมภาษณ์
เขาควรได้ทำงาน มอบงานให้เขารับผิดชอบแต่ละเรื่อง
แล้วเขาจะช่วยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนได้ ในส่วนงานของเขา
2.
ทำงานกับคนเก่งให้เป็น นักการเมืองมักกังวลอยู่กับหัวคะแนน
และร้ายไปกว่านั้น หากขยันคบคนสายเทาๆ
เอาโจรไว้ใกล้ตัว แยกคนเก่งเป็นฝ่ายตรงข้าม
กลัวว่าคนซื่อสัตย์จะรู้ความลับภายใน
ลืมไปว่า ผู้ที่จะทำให้รัฐบาลยั่งยืน คือ ทีมผู้มีความรู้ความสามารถ
ทั้งด้านสังคม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
การหาเสียงที่ดีที่สุด คือ ปล่อยให้ผลงานโฆษณาตัวเอง
ในสามก๊ก มีขงเบ้ง ระบบกษัตริย์ไทยในอดีต มีการส่งเยาวชนที่หัวดี
ไปเรียนต่างประเทศ ให้ได้รับการศึกษาที่ดี เพื่อเป็นกำลังสำคัญของชาติ
ในบริษัทชั้นนำ ที่มั่นคงยาวนาน เพราะผู้บริหารสามารถโน้มน้าว
ให้แรงจูงคนเก่งให้อุทิศตนให้กลุ่มของเขา
การรับมือภัยพิบัติ ต้องรวมคนคุณภาพจาก
ภาคราชการ เอกชน ประชาชน วิชาการ ทำแผนรับมือภัยพิบัติ
มีแผนรัฐบาลกลาง รัฐบาลท้องถิ่น
ผู้นำแค่ฟัง แล้วตัดสินใจในที่ประชุมร่วมกับผู้มีอำนาจร่วมว่า
จะใช้แผนเล่มใด แยกว่าเป็นภัยพิบัติระดับใด
มี 3 ภาค ก่อนเกิดภัย ช่วงเกิดภัย หลังเกิดภัย ฯลฯ
ประเทศที่ไม่ได้วางตัวคนมีคุณภาพรับผิดชอบงานสำคัญ
ไม่สามารถมีรัฐบาลที่ยั่งยืนได้ เพราะการหาเสียงที่ดีที่สุด คือ การสร้างผลงาน
ไม่ใช่โปสเตอร์หาเสียง ไม่ใช่การไปยืนไหว้ประชาชน
สังคมโลกก้าวหน้าไปไกล แต่ทำไมวิธีการหาเสียงแบบไทยจึงไม่พัฒนาตาม
3. มองภาพรวม บริหารจัดการเชิงมหภาค
แล้วปล่อยให้บางคนสั่ง ว่าต้องทำอย่างไร
เนื่องจากกระแสวิจารณ์มีจำนวนมาก รัฐต้องเลือก ว่าทำแบบไหน คนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์
สมมุตินายก นั่งรถ คนบอกให้เดิน พอนายกเดิน บางคนอาจจะบอกให้คลาน
นายกไม่จำเป็นต้องผัดข้าวเอง แค่สั่งให้หน่วยงานราชการ ตั้งศูนย์อาหาร
แล้วประสานงานให้คนในพื้นที่และจากจังหวัดข้างเคียงนำอาหารมาขาย
รัฐจ่ายให้ตามจำนวนกล่อง ประกาศระเบียบให้ชัด ว่า ภาชนะอาหารต้องสะอาด
ปริมาณต่อกล่องตามภาพประกอบ รับซื้อในปริมาณเท่าใด ราคาเท่าไหร่
ทำแบบนี้ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ แก่ผู้ที่เข้ามาช่วยภัยพิบัติ
รัฐไม่ต้องแบกทำเองทุกอย่าง นอกจากเสร็จช้าแล้วยังขาดความชำนาญ
รัฐควรใช้อำนาจอำนวยความสะดวกและประสานงาน
การตั้งศูนย์ในแต่ละเรื่อง ทั้งออนไลน์ และสถานที่จริง รวมถึงวางตัวบุคคล
กางแผนที่ ใช้เทคโนโลยี ไปถ่ายภาพ เจาะตามจุดต่างๆ แล้วประมวลสิ่งที่ต้องแก้ไข
ใช้เทคโนโลยีประกาศ อยากให้ระดมอะไร ไปจุดที่ศูนย์ ณ จุดใด คนไทยพร้อมอยู่แล้วที่จะช่วยเหลือ
4.
การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
แบ่งเป็นภาคให้ความรู้ และภาคการสั่งการ อบรมให้ข้าราชการ
รู้วิธีสื่อสารที่กระชับว่องไว เข้าใจง่าย เช่น การใช้แผนผัง การรวมข้อมูลติดต่อ
ให้การศึกษาแก่คนไทย ไม่ต้องรอให้เกิดภัยพิบัติแล้วค่อยให้ข้อมูล
เหล่านี้ จะช่วยลดการสูญเสียงบประมาณ จากระบบการสื่อสารที่หล่ะหลวม
หากผู้นำ คิดแต่จะทำเอง อยากให้แสงส่องแต่ตัวเอง
จะไม่มีวันเสร็จได้ จนกว่าจะสั่งการ ผู้นำคือผู้ขับเคลื่อนให้ทีมงานย่อย ไปทำแต่ละเรื่อง
แล้วนำมาประกอบภาพรวม ชี้แนะ กำกับ ทบทวน
เป็นการทำงานแบบมี impact ส่งผลแก่คนหมู่มาก ไม่ใช่แก้ปัญหาไปทีละบ้านทีละคน
หากใครวิเคราะห์เห็นบทเรียนข้ออื่น โปรดเขียนไว้ในคอมเม้นท์
หวังว่าคนในรัฐบาลชุดต่อไปจะไม่ทำให้เกิดความเดิมตอนที่แล้ว
โลกก้าวหน้า รัฐบาลไทยไม่ควรทำงานอย่างด้อยพัฒนา
พรรคต้องสร้างความเชื่อมั่นนำไทยสู่โลกยุคใหม่
ชูศักยภาพทางวิทยาศาสตร๋ เทคโนโลยี และเครือข่ายคนคุณภาพ
เลิกใช้เงินลดแก้ปัญหา เพราะเงินที่ใช้นั้น เป็นงบประมาณแผ่นดิน
การใช้จ่ายแต่ละเรื่อง ต้องคุ้มค่า ส่งผลประโยชน์ต่อประเทศระยะยาว
บทเรียนสำคัญ คือ ประชาชนเอง ต้องเลือกผู้นำ ที่เป็นคนคุณภาพ
รวมบทเรียนบริหารจัดการภัยพิบัติ จากหายนะสู่ตระหนักรู้
เมื่อนายก ควบ รมต กระทรวงอื่นด้วย ทำให้งานของกระทรวงไม่ได้ขับเคลื่อน
เวลาหมดไปกับหน้าที่นายกรัฐมนตรี วิธีการนี้ ประชาชนเสียประโยชน์
คนใน ครม. อย่าเอามายืนเป็นไม้ประดับอยู่ด้านหลังเวลาให้สัมภาษณ์
เขาควรได้ทำงาน มอบงานให้เขารับผิดชอบแต่ละเรื่อง
แล้วเขาจะช่วยให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนได้ ในส่วนงานของเขา
2. ทำงานกับคนเก่งให้เป็น นักการเมืองมักกังวลอยู่กับหัวคะแนน
และร้ายไปกว่านั้น หากขยันคบคนสายเทาๆ
เอาโจรไว้ใกล้ตัว แยกคนเก่งเป็นฝ่ายตรงข้าม
กลัวว่าคนซื่อสัตย์จะรู้ความลับภายใน
ลืมไปว่า ผู้ที่จะทำให้รัฐบาลยั่งยืน คือ ทีมผู้มีความรู้ความสามารถ
ทั้งด้านสังคม วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
การหาเสียงที่ดีที่สุด คือ ปล่อยให้ผลงานโฆษณาตัวเอง
ในสามก๊ก มีขงเบ้ง ระบบกษัตริย์ไทยในอดีต มีการส่งเยาวชนที่หัวดี
ไปเรียนต่างประเทศ ให้ได้รับการศึกษาที่ดี เพื่อเป็นกำลังสำคัญของชาติ
ในบริษัทชั้นนำ ที่มั่นคงยาวนาน เพราะผู้บริหารสามารถโน้มน้าว
ให้แรงจูงคนเก่งให้อุทิศตนให้กลุ่มของเขา
การรับมือภัยพิบัติ ต้องรวมคนคุณภาพจาก
ภาคราชการ เอกชน ประชาชน วิชาการ ทำแผนรับมือภัยพิบัติ
มีแผนรัฐบาลกลาง รัฐบาลท้องถิ่น
ผู้นำแค่ฟัง แล้วตัดสินใจในที่ประชุมร่วมกับผู้มีอำนาจร่วมว่า
จะใช้แผนเล่มใด แยกว่าเป็นภัยพิบัติระดับใด
มี 3 ภาค ก่อนเกิดภัย ช่วงเกิดภัย หลังเกิดภัย ฯลฯ
ประเทศที่ไม่ได้วางตัวคนมีคุณภาพรับผิดชอบงานสำคัญ
ไม่สามารถมีรัฐบาลที่ยั่งยืนได้ เพราะการหาเสียงที่ดีที่สุด คือ การสร้างผลงาน
ไม่ใช่โปสเตอร์หาเสียง ไม่ใช่การไปยืนไหว้ประชาชน
สังคมโลกก้าวหน้าไปไกล แต่ทำไมวิธีการหาเสียงแบบไทยจึงไม่พัฒนาตาม
3. มองภาพรวม บริหารจัดการเชิงมหภาค
แล้วปล่อยให้บางคนสั่ง ว่าต้องทำอย่างไร
เนื่องจากกระแสวิจารณ์มีจำนวนมาก รัฐต้องเลือก ว่าทำแบบไหน คนส่วนใหญ่ได้ประโยชน์
สมมุตินายก นั่งรถ คนบอกให้เดิน พอนายกเดิน บางคนอาจจะบอกให้คลาน
นายกไม่จำเป็นต้องผัดข้าวเอง แค่สั่งให้หน่วยงานราชการ ตั้งศูนย์อาหาร
แล้วประสานงานให้คนในพื้นที่และจากจังหวัดข้างเคียงนำอาหารมาขาย
รัฐจ่ายให้ตามจำนวนกล่อง ประกาศระเบียบให้ชัด ว่า ภาชนะอาหารต้องสะอาด
ปริมาณต่อกล่องตามภาพประกอบ รับซื้อในปริมาณเท่าใด ราคาเท่าไหร่
ทำแบบนี้ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ สร้างรายได้ แก่ผู้ที่เข้ามาช่วยภัยพิบัติ
รัฐไม่ต้องแบกทำเองทุกอย่าง นอกจากเสร็จช้าแล้วยังขาดความชำนาญ
รัฐควรใช้อำนาจอำนวยความสะดวกและประสานงาน
การตั้งศูนย์ในแต่ละเรื่อง ทั้งออนไลน์ และสถานที่จริง รวมถึงวางตัวบุคคล
กางแผนที่ ใช้เทคโนโลยี ไปถ่ายภาพ เจาะตามจุดต่างๆ แล้วประมวลสิ่งที่ต้องแก้ไข
ใช้เทคโนโลยีประกาศ อยากให้ระดมอะไร ไปจุดที่ศูนย์ ณ จุดใด คนไทยพร้อมอยู่แล้วที่จะช่วยเหลือ
4. การสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ
แบ่งเป็นภาคให้ความรู้ และภาคการสั่งการ อบรมให้ข้าราชการ
รู้วิธีสื่อสารที่กระชับว่องไว เข้าใจง่าย เช่น การใช้แผนผัง การรวมข้อมูลติดต่อ
ให้การศึกษาแก่คนไทย ไม่ต้องรอให้เกิดภัยพิบัติแล้วค่อยให้ข้อมูล
เหล่านี้ จะช่วยลดการสูญเสียงบประมาณ จากระบบการสื่อสารที่หล่ะหลวม
หากผู้นำ คิดแต่จะทำเอง อยากให้แสงส่องแต่ตัวเอง
จะไม่มีวันเสร็จได้ จนกว่าจะสั่งการ ผู้นำคือผู้ขับเคลื่อนให้ทีมงานย่อย ไปทำแต่ละเรื่อง
แล้วนำมาประกอบภาพรวม ชี้แนะ กำกับ ทบทวน
เป็นการทำงานแบบมี impact ส่งผลแก่คนหมู่มาก ไม่ใช่แก้ปัญหาไปทีละบ้านทีละคน
หากใครวิเคราะห์เห็นบทเรียนข้ออื่น โปรดเขียนไว้ในคอมเม้นท์
หวังว่าคนในรัฐบาลชุดต่อไปจะไม่ทำให้เกิดความเดิมตอนที่แล้ว
โลกก้าวหน้า รัฐบาลไทยไม่ควรทำงานอย่างด้อยพัฒนา
พรรคต้องสร้างความเชื่อมั่นนำไทยสู่โลกยุคใหม่
ชูศักยภาพทางวิทยาศาสตร๋ เทคโนโลยี และเครือข่ายคนคุณภาพ
เลิกใช้เงินลดแก้ปัญหา เพราะเงินที่ใช้นั้น เป็นงบประมาณแผ่นดิน
การใช้จ่ายแต่ละเรื่อง ต้องคุ้มค่า ส่งผลประโยชน์ต่อประเทศระยะยาว
บทเรียนสำคัญ คือ ประชาชนเอง ต้องเลือกผู้นำ ที่เป็นคนคุณภาพ