บอร์ดทอท. ไฟเขียวแก้ไขสัญญาดิวตี้ฟรี คิงเพาเวอร์ ยืดอายุสัญญา 5 สนามบิน รื้อจ่ายผลตอบแทนใหม่ เพิ่มส่วนแบ่งรายได้พิเศษสูงสุด 35% เพื่อรักษาความต่อเนื่องทางธุรกิจและผลตอบแทนที่คุ้มค่ากว่า ย้ำรักษาคุณภาพบริการผู้โดยสาร-ผลประโยชน์ชาติ เช็คแนวทางแก้สัญญาในแต่ละสนามบินได้ที่นี่
วันนี้ (วันที่ 3 ธันวาคม 2568) บริษัท
ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)
AOT หรือ
ทอท. เปิดเผยว่า
บอร์ดทอท.มีมติเห็นชอบแนวทางแก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจําหน่ายสินค้าปลอดอากรของบริษัท
คิง เพาเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด (KPD) ประกอบด้วย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ท่าอากาศยานภูเก็ต (ทภก.) ท่าอากาศยานเชียงใหม่ (ทชม.) และท่าอากาศยานหาดใหญ่ (ทหญ.) ตามผลการเจรจาของคณะทํางานเจรจาเพื่อหาข้อตกลงในการ
แก้ไขปัญหาการประกอบกิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ณ ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบของ AOT
โดยได้พิจารณาทางเลือกหลัก 2 แนวทาง คือ 1.การแก้ไขสัญญาเปรียบเทียบ 2.การยกเลิกสัญญาเพื่อเปิดประมูลใหม่ ซึ่งได้ข้อสรุปว่าทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด คือ การแก้ไขสัญญา โดยปรับเงื่อนไขการอนุญาตให้สอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในการบริหารสัญญา เพื่อให้ AOT สามารถให้บริการผู้โดยสารได้อย่างต่อเนื่องในระยะยาว และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ AOT
ทอท. ได้พิจารณาทางเลือกหลัก 2 แนวทาง คือ การแก้ไขสัญญาเปรียบเทียบกับการยกเลิกสัญญาเพื่อเปิดประมูลใหม่ และได้ข้อสรุปว่า การแก้ไขสัญญาเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด
ดิวตี้ฟรี คิงเพาเวอร์
การตัดสินใจดังกล่าวคำนึงถึงปัจจัยหลักหลายประการ ได้แก่
รักษาความต่อเนื่องทางธุรกิจ: ทอท. สามารถให้บริการจำหน่ายสินค้าปลอดอากรแก่ผู้โดยสารได้อย่างต่อเนื่อง โดยไม่ต้องใช้ระยะเวลาและงบประมาณในการหาผู้ประกอบการรายใหม่ ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 14 เดือน
รายได้ที่มั่นคงกว่า: ทอท. ยังคงได้รับค่าผลประโยชน์ตอบแทนอย่างต่อเนื่อง โดยไม่มีช่วงที่ขาดรายได้จากการประมูล. หากยกเลิกสัญญา ทอท. จะขาดรายได้จากค่าผลประโยชน์ตอบแทนจนกว่าจะมีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามา.
ผลตอบแทนที่คุ้มค่ากว่า: ผลการศึกษาชี้ว่า แนวทางการแก้ไขสัญญาจะให้ผลตอบแทนทางการเงินที่สูงกว่าผลตอบแทนขั้นต่ำในกรณีหาผู้ประกอบการรายใหม่ในสถานการณ์ปัจจุบัน. ผลตอบแทนดังกล่าวไม่ต่ำกว่าข้อเสนอของผู้ยื่นข้อเสนอลำดับสองที่ยื่นประมูลในครั้งก่อน.
ลดความเสียหายต่อเศรษฐกิจ: แนวทางนี้จะช่วยลดผลกระทบต่อภาพรวมการจ้างงานของผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง ซึ่งส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม
คิงเพาเวอร์
ภายหลังการแก้ไขสัญญา ในทุกสัญญาจะยังคงมีเงื่อนไขสำคัญ คือ การเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ (Minimum Guarantee: MG) ซึ่งจะมีอัตราเติบโต 5 % ต่อปี เพื่อให้สอดคล้องกับการเติบโตเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Sharing) 20 % และค่าผลประโยชน์ตอบแทนส่วนเพิ่ม (Upside) หากเข้าเงื่อนไขที่กำหนด
รายละเอียดการแก้ไขสัญญาดิวตี้ฟรี คิงเพาเวอร์ ในแต่ละสนามบิน
1. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.)
ค่าผลประโยชน์ตอบแทน: ทอท. ยังคงเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำต่อหัว (MG) ในอัตราเทียบเท่า 232.90 บาทต่อคน และมีการเติบโตในอัตรา 5 % อย่างต่อเนื่องทุกปี
ส่วนแบ่งรายได้เพิ่มเติม: ทอท. ได้เจรจาเพิ่มส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Sharing) ส่วนเพิ่มอีก 35 % ของมูลค่าซื้อต่อผู้โดยสาร (Spending per Head) ส่วนเกิน. การปรับเพิ่มนี้ช่วยให้ ทอท. มีโอกาสได้รับรายได้เพิ่มเติมมากขึ้น ในกรณีที่อุตสาหกรรมการบินปรับตัวดีขึ้น ซึ่งดีกว่าสัญญาเดิมที่เรียกเก็บส่วนแบ่งรายได้เพียง 20 % ตลอดอายุสัญญา
การขยายระยะเวลาสัญญา: ขยายระยะเวลาของสัญญาออกไปอีก 2 ปี การขยายนี้มีความจำเป็นเพื่อให้ ทสภ. สามารถรักษาความต่อเนื่องของธุรกิจจำหน่ายสินค้าปลอดอากร ในช่วงที่ต้องมีการปิดซ่อมแซมพื้นที่ทุกส่วนในอาคารผู้โดยสารหลังปัจจุบัน (ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ KPD ใช้อยู่) ระหว่างปี พ.ศ. 2575 – 2578
2. ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.)
ค่าผลประโยชน์ตอบแทน: ทอท. ยังคงการเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำต่อตารางเมตร (เทียบเท่า 39,187.76 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน) และเรียกเก็บส่วนแบ่งรายได้ (Revenue Sharing) ที่ 20 % ตามสัญญาเดิม
เงื่อนไขการปรับ MG: หากอัตราการฟื้นตัวของจำนวนผู้โดยสารกลับมาเกิน 100 % ทอท. จะกลับไปใช้อัตราค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำต่อตารางเมตรตามที่เคยตกลงไว้ก่อนหน้า
การขยายระยะเวลาสัญญา: ขยายระยะเวลาของสัญญาออกไป 2 ปี การขยายนี้เหมาะสมเพื่อให้ผู้ประกอบการมีระยะเวลาการประกอบกิจการที่เหมาะสมประมาณ 5 ปี จากการลงทุนใหม่เพื่อย้ายไปให้บริการ ณ อาคารผู้โดยสาร 3
การสงวนสิทธิ์ยกเลิก: ทอท. ขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณายกเลิกสัญญาของ KPD ปัจจุบันเพื่อเปิดประมูลใหม่ หากการก่อสร้างอาคารผู้โดยสาร 3 ล่าช้าออกไปจนทำให้สัญญาของ KPD ณ ทดม. เหลืออายุสัญญาไม่ถึง 1 ปี ณ วันเปิดอาคารผู้โดยสาร 3 อย่างเป็นทางการ
3. ท่าอากาศยานภูมิภาค (ทภก., ทชม. และ ทหญ.)
ค่าผลประโยชน์ตอบแทน: ทอท. ยังคงการเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนขั้นต่ำ (MG) ตามจำนวนผู้โดยสาร (เทียบเท่า 129.67 บาทต่อคน) โดยมีอัตราเติบโต 5 % ทุกปีอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปี 2573 เนื่องจากสภาพการใช้จ่ายและปริมาณผู้โดยสารที่ปรับตัวลงอย่างมากหลังสถานการณ์โควิด-19
ส่วนแบ่งรายได้เพิ่มเติม: ทอท. ได้เจรจาเพิ่มส่วนแบ่งรายได้ส่วนเกินอีก 35 % ของมูลค่าซื้อต่อผู้โดยสารส่วนเกิน (Spending per Head) เมื่อบรรลุเงื่อนไขตามที่กำหนดไว้ เช่นเดียวกับ ทสภ.
เงื่อนไขการเรียกเก็บค่าตอบแทนเดิม: ทอท. ขอสงวนสิทธิ์ที่จะขอเรียกเก็บค่าผลประโยชน์ตอบแทนเดิมตามที่ KPD เสนอใน Proposal หากในอนาคตธุรกิจกลับมาเหมือนเดิมตามข้อเสนอการดำเนินงานเดิมของ KPD
ด่วน! กบร.ไฟเขียวให้ทอท.ปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออก PSC เพิ่มเป็น 1,120 บาท
"พิพัฒน์” แจงมติ กบร. ไฟเขียวเห็นชอบให้ทอท.ปรับขึ้นอัตราค่าบริการผู้โดยสารขาออก หรือ ค่า PSC เส้นทางบินระหว่าง ผู้โดยสารจ่ายเพิ่มจาก 730 บาท เป็น 1,120 บาท ทั้งให้ทย.ปรับค่า PSC สนามบินตรัง นำรายได้มาลงทุนยกระดับสนามบินไทย
หนึ่งในมติสำคัญ คือ การเห็นชอบในหลักการให้บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (ทอท.) หรือ AOT ปรับอัตราค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charge: PSC) สำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศจาก 730 บาท เป็น 1,120 บาท ขณะที่เส้นทางภายในประเทศยังคงอัตราเดิม 130 บาท
โดยให้ ทอท.นำส่งเอกสารเพิ่มเติมให้ กพท. ตรวจสอบ และดำเนินการจัดรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย พร้อมชี้แจงอัตราที่เสนอปรับเพิ่มและเหตุผลความจำเป็น จากนั้นจึงรายงานผลต่อ กพท. ก่อนเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเพื่อพิจารณาอนุมัติ พร้อมกำหนดให้แจ้งประชาชนล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 4 เดือนก่อนเริ่มจัดเก็บในอัตราใหม่
กบร. ระบุว่า การปรับเพิ่ม PSC เป็นมาตรการที่หลายประเทศใช้เพื่อรองรับต้นทุนการพัฒนาสนามบินให้ทันสมัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่ผลดีต่อระบบเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวของประเทศในหลายด้าน เช่น
การมีระบบบริการที่รวดเร็ว ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ จะช่วยลดภาระคอขวดและสนับสนุนการเดินทางที่สะดวกขึ้น ซึ่งจะเป็นผลดีโดยตรงต่อเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ที่เป็นรายได้หลักของประเทศ
ส่งเสริมบทบาทประเทศไทยในฐานะศูนย์กลางการบินของภูมิภาค การมีสนามบินที่มีศักยภาพและคุณภาพสูง จะดึงดูดสายการบินต่างประเทศให้เพิ่มเที่ยวบินหรือเปิดเส้นทางใหม่ ซึ่งจะช่วยขับเคลื่อนภาคท่องเที่ยว การค้า และการลงทุนของประเทศอย่างยั่งยืน
กบร.ไฟเขียวให้ทอท.ปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออก PSC
สำหรับการปรับเพิ่มค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charge: PSC) ที่กรมท่าอากาศยาน (ทย.) เสนอเพื่อใช้ในท่าอากาศยานตรัง ที่ประชุมได้มีมติให้คำแนะนำต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม
โดยเห็นชอบให้ทย. ปรับค่าบริการสำหรับเที่ยวบินระหว่างประเทศเป็นไม่เกิน 425 บาทต่อครั้ง จากเดิม 400 บาท และสำหรับเส้นทางภายในประเทศเป็นไม่เกิน 75 บาทต่อครั้ง จากเดิม 50 บาท
โดยจะเริ่มจัดเก็บได้เมื่อท่าอากาศยานตรังติดตั้งระบบ CUPPS และอุปกรณ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 พร้อมเปิดให้บริการครบ 3 ระบบ ได้แก่ CUTE, CUSS และ CUBD ทั้งยังต้องผ่านการตรวจสอบความพร้อมโดย กพท. และแจ้งผู้โดยสารล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 4 เดือนก่อนเริ่มเก็บค่าบริการในอัตราใหม่
ปัจจุบันมีสนามบินในสังกัด ทย.ทั้งหมด 6 ท่าอากาศยาน ได้แก่ สนามบินกระบี่ สนามบินสุราษฎร์ธานี สนามบินอุบลราชธานี สนามบินขอนแก่น สนามบินนครศรีธรรมราช และสนามบินพิษณุโลก ที่เก็บค่าบริการในอัตรานี้
ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบการปรับอัตราค่าธรรมเนียมการเข้าหรือออกนอกประเทศจากเดิม 15 บาทต่อผู้โดยสารต่อเที่ยว เป็น 25 บาทต่อผู้โดยสารต่อเที่ยว ทั้งนี้พื่อให้สอดคล้องกับต้นทุนและภารกิจด้านการกำกับดูแลตามกฎหมาย
นอกจากนี้ ที่ประชุมยังเห็นชอบการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองกฎหมายและข้อบังคับชุดใหม่
เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน
อีกทั้งยังให้ความเห็นชอบการแก้ไขหลักเกณฑ์เกี่ยวกับอากาศยานที่ผู้ขอรับใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนจะจัดหามาเพื่อใช้ในการประกอบกิจการจากการจำกัดอายุของอากาศยาน เป็นไม่จำกัดอายุอากาศยานทุกประเภท ทั้งอากาศยานปีกแข็งและเฮลิคอปเตอร์ ที่จะจัดหามาเพื่อใช้ในการประกอบกิจการการบินพลเรือน
ในด้านใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือน ที่ประชุมมีมติเห็นชอบให้ บริษัทไทยสกาย บัลลูนนิ่ง จำกัด ได้รับใบอนุญาตการบินพลเรือนประเภทการทำงานทางอากาศ (การบินบัลลูนเพื่อชมภูมิประเทศและโฆษณา และเห็นชอบให้ บริษัทสยามแลนด์ ฟลายอิ้ง จำกัด ต่ออายุใบอนุญาตประกอบกิจการการบินพลเรือนประเภทการขนส่งทางอากาศเพื่อการพาณิชย์แบบไม่ประจำ อายุ 5 ปี ตามเงื่อนไขที่กำหนด
บอร์ดทอท.เคาะแก้ไขสัญญาดิวตี้ฟรี คิงเพาเวอร์ 5 สนามบิน ยืดอายุสัญญา รื้อจ่ายผลตอบแทน
ด่วน! กบร.ไฟเขียวให้ทอท.ปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออก PSC เพิ่มเป็น 1,120 บาท
"พิพัฒน์” แจงมติ กบร. ไฟเขียวเห็นชอบให้ทอท.ปรับขึ้นอัตราค่าบริการผู้โดยสารขาออก หรือ ค่า PSC เส้นทางบินระหว่าง ผู้โดยสารจ่ายเพิ่มจาก 730 บาท เป็น 1,120 บาท ทั้งให้ทย.ปรับค่า PSC สนามบินตรัง นำรายได้มาลงทุนยกระดับสนามบินไทย
เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการทำงาน