รู้สึกเหมือนโดนผูกขาดตลาด

เราเป็นเจ้าของร้านอาหารเล็กๆร้านนึงที่ซื้อของสดจากตลาดบ้าง ซื้อของจาก makro บ้าง ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับว่าอะไรถูกกว่ากัน หรืออะไรที่จะสามารถรู้ ต้นทุนได้แน่นอนกว่ากันเช่นซื้อของที่ตลาด บางทีเราไม่รู่ว่าผักที่หยิบมา นน.เท่าไหร่บ้าง บางรายการแยกขายเป็นกำ เป็นแพ(ชะอม) ซึ่งมันไม่ได้บอกน้ำหนัก แต่มันดีอย่างนึงคือ ของมันสดจริง

ตัดมาที่ makro เราเคยเจอพริกที่ขึ้นราแล้ววางขายอยู่บนชั้นวางของ แล้วเราเรียกพนักงานมาดูเพื่อที่จะเอาไปเก็บหรือไปทิ้ง แต่พนักงานแค่มาดูแล้วก็กดๆอุปกรณ์อะไรสักอย่างแล้วก็บอกว่า “ขอโทษด้วยค่ะ” แล้วก็เดินหายไป เราดูอยู่สักพักก็ไม่มีใครมาทำอะไรต่อ ต่างคนต่างทำงานของตัวเองไป
วันนี้ราคาพริกที่ตลาดแพงมาก 180฿/กก. เราเลยไปซื้อพริกที่ makro ตั้งแต่เช้าเลย พริกกก.ละ 110บาท แต่ปรากฏว่าซื้อมาแล้วพริกเสียไปครึ่งนึง เสียแบบที่มันนิ่ม มันช้ำ เละอยู่ตรงกลางๆถุงซึ่งมองด้วยตาไม่เห็น กลายเป็นเราซื้อพริก ครึ่งกิโล
ในราคา 110บาท
อีกเคสคือ ข้าวโพดอ่อน ต้องบอกก่อนว่าสาขาที่เราไปประจำกำลังปรับปรุงอยู่ ดังนั้นการไม่สต๊อกของเพิ่มมันทำให้ย้ายชั้นวางของใหญ่ๆได้ง่ายขึ้น แต่โซนที่ขายผัก มันไม่มีชั้นวางของใหญ่ๆ ข้าวโพดอ่อนหมดมาสัปดาห์นึงแล้ว ไม่มีการเติมของเลย ทำให้เราต้องไปซื้อที่สาขาอื่นอีกรอบ ซึ่งเสียเวลามาก เราเลยถามพนักงานว่า “ในช่วงที่กำลังย้ายอยู่ ถ้าของหมดแล้ว ทาง makro ไม่มีนโยบายซื้อของมาเติมใช่ไหมครับ” พนักงานตอบมาว่า “ค่ะ”
นี่คือไม่ง้อลูกค้าแล้ว แล้วตอนนี้ makro แต่ละสาขาก็มีของไม่เหมือนกันด้วยเช่นแป้งมันยี่ห้อนึงมีขายในสาขาใหญ่ แต่สาขาเล็กกลับไม่มี
เลยรู่สึกค่อนข้างแย่กับการผูกตลาดแบบนี้