“จากที่ มักกล่าว หรือบอกกันว่า เราจะกำหนดความระลึก จาก สภาการ หรือสภาวะ อะไร? เราก็สามารถ ทำได้เลย, เราจะสร้าง การตรึกอย่างแรง ถึงอะไร? เราก็ทำได้เลย, ไม่ ค้นหาสมการ สภาการ ขณะ หรือ สภาวะของมันอีกต่อไป เพราะ กำหนด ต่อการติดต่อของสัญญา และความเป็นอยู่โดยชอบ มิใช่! การกำหนด หรือการ จำทำความ ขาดสะบั้น เพื่อ ดับลง หรือเพื่อความดับไม่เหลือ แห่งสัญญา, แล้วนี้ สมัยนี้ จึงไม่ถาม จึงไม่ค้นหา สิ่งความ จาก นิรุตติภาวะ หรือ นิรุตติสภา เหมือนคนสมัยเก่า, ที่ ต้อง ตรึก นึก และระลึก ต่อ การถอดความ ตรารูป ตราเสียง และอาณัติสัญญาที่ได้ จนกว่า จะได้ จิต ระดับจิตวิจิตร หรือจิตระดับ ฌาน ที่เกินกว่า ระดับ ขณิกภาวนา, นี้ เป็น รูปลักษณ์ หรือ สไตล์ การทำงาน ของ คนสมัยปัจจุบัน หรือ คนที่ กำลังแล่นตาม หรือเล่นตาม เกม แบบที่เรียกว่า ปัจจุบัน
แต่ นั้น พิจารณาว่า อาจมีคนรุ่นเก่า ๆ อยู่บ้าง หรือ คนที่ชอบการงานเฉพาะส่วน หรือ งานที่ ต้องกำหนดความเป็นอยู่ หรือ กำหนดความพ้นไปโดยชอบ จาก นิรุตติสภา, ซึ่ง คือ การกำหนด ถึง ปัญญา ญาณ และนิรุตติ จาก ตรารูป ตราเสียง และ อาณัติสัญญา, อันมิจำพึง แต่การจะต้องกล่าว วิมุตติ เพราะ ว่า วิมุตติ ไม่ใช่! นิรุตติ, แล้วนี้ พบว่า ปัญญา ของคนรุ่นใหม่ ไม่มี เหมือน ภูมิปัญญาร่วมสมัย แบบสมัยเก่า, ที่คนสมัยเก่า จะกล่าว วิเศษ ความ ล้ำสมัย สุดขีด นั้น ว่า กระบวน แห่งความติดต่อของสัญญา หรือ ขบวนแห่งความพ้นทุกข์สิ้นเชิง หรือ การตั้งกระทำกำหนดถึงความพ้นไปโดยชอบ ความล้ำสมัย และความ ล้ำหน้าที่สุด ของปราชญ์ ยุค พุทธกาล ท่านกำหนด ตรารูป ตราเสียง และอาณัติสัญญา ในทาง ปัญญา ญาณ และนิรุตติ, ท่าน กระทำ ไปจากองค์ความ หรือ องค์ธรรม ที่เรียกว่า นิรุตติสภา?, ซึ่งสมัยที่ กระทำเรื่องกัน ผ่านอินเทอร์เน็ต หรือ เครือข่ายทางความรู้ ไม่คิด ไม่สนการกำหนดบัญญัติ แบบนั้น คือไม่สนใจเรื่อง แบบ นิรุตติสภา
แต่ทีนี้ ใครใคร่ จะกล่าวว่า ภาคีเก่า ๆ หรือ วิชชาภาคีเก่า ๆ จะมิใช่วิชา จะมิใช่สิ่งมีค่า ฉะนั้น ย่อม กล่าวไม่ได้, เพราะ ที่จริง งานผ่านเครือข่ายความรู้สมัยใหม่ หรือ งานแห่งวิชาภาคี ของ สภา คือ นิรุตติสภา ที่จริง ยังคงปรากฏอยู่ในระนาบเดียวกัน คือ ยังอยู่ในระนาบ ที่เรียกว่า
ในระหว่าง พุทธาภิสมัย แห่ง พระมหาสมณเจ้า พระมหาสมณโคดม ด้วยกัน, ดังนั้น ฉะนั้น ขอความเห็นใจ และขออภัยว่า ส่วน แสดงความเช่นนี้ พึง ยังคงควรได้พื้นที่แสดง หรือแถลง ต่อแต่ใครที่ไม่ชอบ หรือรู้สึกขัดใจ ไม่ปรารถนา ก็ขอท่านเหล่านั้น จงพึง ปัดทิ้ง หรือเลื่อนข้าม ไปได้เลย, แต่ ว่า หาก ท่านจะศึกษาเปรียบเทียบ หาทางดัดแปลง แก้ไขปรับปรุง ให้ได้ประโยชน์แก่ตัวท่านเอง ก็ยินดี และก็ไม่ว่ากัน, หากท่าน จะมาคิดอย่าง ปราชญ์บัณฑิตสมัยเก่า ด้วยกัน ในเรื่อง ของการ ที่ ท่าน จะให้สถาปนาทุกสิ่งสารพัด ผ่าน สิ่งที่เรียกว่า นิรุตติสภา, ซึ่งข้าพเจ้า ผู้โพสต์ ความคิด ความเห็น และคำถาม เป็นส่วนหนึ่ง ในนั้น
ดังนั้น ในโลกแบบเก่า จึง ไม่ได้ เห็น เรื่อง ตรารูป ตราเสียง และอาณัติสัญญาที่ได้ อย่างคนสมัยนี้เลย, เพราะ โลกแบบเก่า สถาปนาทุกสิ่งสารพัด ผ่าน นิรุตติสภา, แต่ ทีนี้ ขอทุกคน จะต้องไม่ลืมว่า ที่จริง นิรุตติสภา ไม่ได้เป็นปฏิปักษ์ แก่สิ่งความใด ๆ ทั้ง นั้น แต่ที่แท้ ย่อม ตรงกันข้าม เพราะ ว่า ไม่ว่า ท่านจะกำหนดถึง สัญญา แห่งความพ้นไปโดยชอบ หรือ ไม่ว่า ท่านจะกำหนด แก่สัญญา ถึงความเป็นอยู่โดยชอบ นิรุตติสภา เอง ย่อม รักษาความ และรักษาสิ่งความ ของท่านไว้ ด้วยดี ทั้งหมด ทั้งนั้น ไม่ทิ้งความ หรือสิ่งความใด ๆ, ฉะนั้น จึงขอแจ้งว่า อย่าพึงกังวล ต่อความ ที่ว่า นิรุตติธรรม จะพึงเป็นปฏิปักษ์ต่อท่าน ซึ่ง ไม่ใช่ความเป็นไปได้ หรือแนวโน้มแห่งความเป็นไปได้, ฉะนั้น เพื่อ ที่จะไม่เป็นเรื่องเป็นเหตุ แห่งความ โลเล หรือสับสน ข้าพเจ้า จึงขอแจ้ง ต่อนักภาวนา ที่ยังมิมีใดเป็นภาวนิก ด้วยกันว่า, จงคำนึงถึงความเป็นระนาบเดียวกัน แห่งสภาการศึกษา, แล้วความสมานกันได้ ก็จะไม่ใช่เรื่องยาก”
☺ นักภาวนา ที่ยังไม่เป็นภาวนิก กำหนดถึงความเป็นอยู่โดยชอบ ไม่ใช่กำหนดถึงความพ้นไป โดยชอบ!?