...ให้นึกถึงวันแรกเกิด คุณเกิดมาตัวเปล่าๆ ร้องอุแว๊ๆ ออกมาจากท้องแม่ ไม่มีทรัพย์สมบัติใดๆ อะไรเลย ติดตัวมาสักนิดเดียว..ทรัพย์สมบัติต่างๆคุณมาหาได้ทีหลังทั้งนั้น เช่น คนที่ประสบความสูญเสียจากภัยพิบัติธรรมชาติที่สงขลา หรือ ที่อื่นๆก็ตามที่ผ่านๆมา เหลือแต่ตัว และเสื้อผ้าติดตัว ...ก็ยังนับว่าคุณยังมีกำไรอยู่บ้าง มากกว่าตอนที่คุณเกิดมาวันแรก ยังมีเสื้อผ้าติดตัว.. แล้วจะไปมัวโศรกเศร้าทำไมกัน ? .. สังขารทั้งหมด เป็นของไม่เที่ยง ตกอยู่ใต้ธรรมชาติของความเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ...อนาคตยังมี ก็แสวงหาใหม่ อาจจะเห็นโอกาสในวิกฤติ อาจจะร่ำรวยกว่าเดิม เหมือนหลายๆตัวอย่างในต่างประเทศ หลังจากสูญเสียหมดตัวไม่นานนัก ผ่านไปไม่กี่ปี กลับคืนมาร่ำรวยกว่าเดิม
...สำหรับพุทธศาสนิกชน ยิ่งพิจารณาได้ง่าย แค่ยอมรับความจริงว่า ความสูญเสียต่างๆทางทรัพย์สมบัติภายนอกร่างกายนั้น มาจากการรับผลวิบากของอกุศลกรรม ที่เคยทำผิดศีลข้อ 2 มาก่อนจากอดีต หรือจากอดีตชาติ..ก็รับผลมันไป แล้วทำใจให้สบายๆ เป็นกลางๆ ต่อสู้ชีวิตใหม่ แสวงหาโอกาสใหม่
...หรือ ถ้าไม่อยากจะปลงใจ ก็จมอยู่กับความเศร้าโศก ผิดหวัง จิตตก ซึมเศร้า ต่อไป..จะเอาแบบนั้น ก็ตามใจ
฿฿ ใครที่สูญเสียทรัพย์ภายนอกร่างกาย ต้องปลงใจให้ได้ว่า ที่แท้คุณแค่เสียกำไรไปส่วนหนึ่ง ยังไม่ขาดทุนอะไรเลย เพราะว่า.. ฿฿
...สำหรับพุทธศาสนิกชน ยิ่งพิจารณาได้ง่าย แค่ยอมรับความจริงว่า ความสูญเสียต่างๆทางทรัพย์สมบัติภายนอกร่างกายนั้น มาจากการรับผลวิบากของอกุศลกรรม ที่เคยทำผิดศีลข้อ 2 มาก่อนจากอดีต หรือจากอดีตชาติ..ก็รับผลมันไป แล้วทำใจให้สบายๆ เป็นกลางๆ ต่อสู้ชีวิตใหม่ แสวงหาโอกาสใหม่
...หรือ ถ้าไม่อยากจะปลงใจ ก็จมอยู่กับความเศร้าโศก ผิดหวัง จิตตก ซึมเศร้า ต่อไป..จะเอาแบบนั้น ก็ตามใจ