
TITLE: หายไปในโลกวิญญาณกับ "Spirited Away" : หนังที่ดูแล้วติดหนึบจนลืมเวลา
สวัสดีครับทุกคน วันนี้ผมมีหนังอนิเมะในตำนานมาเล่าสู่กันฟังครับ พูดถึง Studio Ghibli นี่ก็ต้องนึกถึงผลงานมาสเตอร์พีซอย่าง "Spirited Away" (2001) ของท่านอาจารย์ฮายาโอะ มิยาซากิ เลยครับ ผมเชื่อว่าหลายคนคงเคยผ่านตาหรือดูซ้ำกันมาบ้างแล้ว แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยดู หรืออาจจะลืมๆ ไปบ้าง วันนี้ผมจะมาขอรีวิวในมุมมองของผมเองนะครับ รับรองว่าอ่านแล้วอาจจะอยากกลับไปหามาดูกันอีกรอบแน่นอน
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ "จิฮิโระ" เด็กสาววัย 10 ขวบที่กำลังจะย้ายบ้านใหม่ เธอดูไม่ค่อยพอใจกับการเปลี่ยนแปลงนี้เท่าไหร่ครับ ระหว่างทางไปบ้านหลังใหม่ พ่อแม่ของเธอก็ขับรถหลงเข้าไปในอุโมงค์ประหลาด พอออกมาก็เจอกับเมืองร้างที่ดูน่าขนลุก แต่ด้วยความหิว พ่อแม่ของเธอก็เลยแวะกินอาหารในร้านที่ตั้งอยู่เหมือนไม่มีใครดูแล ทีนี้แหละครับ จุดเปลี่ยนของเรื่องก็เริ่มขึ้น เมื่อจิฮิโระพบว่าพ่อแม่ของเธอถูกสาปให้กลายเป็นหมู! ด้วยความตกใจและต้องเอาชีวิตรอด จิฮิโระก็ต้องหาทางกลับไปช่วยพ่อแม่ของเธอให้ได้
การเดินทางของจิฮิโระในโลกวิญญาณนี่แหละครับ คือหัวใจหลักของเรื่องนี้เลย เธอต้องไปทำงานในโรงอาบน้ำของ "ยูบาบา" แม่มดผู้ทรงอำนาจ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหล่าภูตผีวิญญาณมาพักผ่อนและอาบน้ำ ผมบอกเลยว่าโลกในโรงอาบน้ำนี่มันช่างจินตนาการล้ำเลิศจริงๆ ครับ เต็มไปด้วยตัวละครสารพัดรูปแบบ ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆ ไปจนถึงเหล่าวิญญาณยักษ์ใหญ่ แต่ละตัวก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าจดจำมากๆ ยิ่งดูยิ่งทึ่งในความคิดสร้างสรรค์ของมิยาซากิเลยครับ
สิ่งที่ผมชอบมากๆ ในเรื่องนี้คือการพัฒนาของตัวละคร "จิฮิโระ" ครับ ตอนแรกเธอเป็นเด็กที่ขี้กลัว เอาแต่ใจ และค่อนข้างจะงอแง แต่พอต้องมาเผชิญหน้ากับโลกที่ไม่คุ้นเคย และต้องรับผิดชอบชีวิตของตัวเอง เธอก็ค่อยๆ เติบโตขึ้น กล้าหาญขึ้น และเรียนรู้ที่จะพึ่งพาตัวเองมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงของเธอมันดูเป็นธรรมชาติมากๆ ครับ เราจะเห็นเธอค่อยๆ ปรับตัว เรียนรู้ที่จะทำงานหนัก เรียนรู้ที่จะช่วยเหลือผู้อื่น และที่สำคัญคือการเรียนรู้ที่จะไม่ยอมแพ้
ตัวละครอื่นๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กันครับ อย่าง "ฮาคุ" เด็กหนุ่มลึกลับที่คอยช่วยเหลือจิฮิโระอยู่เสมอ เขามีเสน่ห์มากๆ ครับ ดูนิ่งๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความอบอุ่น และความลับที่น่าค้นหา หรือจะเป็น "คาโอนาชิ" (ไร้หน้า) ที่ตอนแรกดูน่ากลัว แต่พอเราเข้าใจเบื้องหลังของเขา เราก็จะเห็นอีกมุมหนึ่งที่น่าสงสารและน่าเห็นใจมากๆ ครับ ตัวละครเหล่านี้ล้วนมีมิติ ทำให้เรื่องราวดูเข้มข้นและน่าติดตาม
ภาพและเสียงในเรื่องนี้ก็สุดยอดมากๆ ครับ ภาพวาดของ Ghibli นี่ไม่ต้องพูดถึง สวยงาม ละเอียดทุกอณู สีสันสดใส มีชีวิตชีวา ฉากต่างๆ ในโลกวิญญาณมันช่างน่าตื่นตาตื่นใจจริงๆ ครับ ส่วนเพลงประกอบก็ไพเราะมากๆ ฟังแล้วเข้ากับบรรยากาศของเรื่องได้อย่างลงตัว บางทีฟังเพลงก็รู้สึกเหมือนเราได้หลุดเข้าไปอยู่ในโลกนั้นจริงๆ เลยครับ
"Spirited Away" ไม่ใช่แค่หนังเด็กนะครับ มันมีข้อคิดดีๆ ซ่อนอยู่เยอะแยะเลยครับ อย่างเรื่องการเห็นคุณค่าของตัวเอง การรู้จักการเสียสละ การเผชิญหน้ากับความกลัว และการเรียนรู้ที่จะเติบโต มันเป็นหนังที่สอนให้เรามองโลกในมุมที่กว้างขึ้น และเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนได้ดียิ่งขึ้นครับ
ผมจำได้เลยว่าตอนดูครั้งแรก ผมนั่งดูแบบตาไม่กะพริบเลยครับ ลุ้นตามจิฮิโระตลอดเวลา บางฉากก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นหัวใจ บางฉากก็ทำให้รู้สึกตื่นเต้น บางฉากก็แอบมีน้ำตาซึมๆ ด้วย มันเป็นประสบการณ์การดูหนังที่ครบทุกรสชาติจริงๆ ครับ
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมหนังเรื่องนี้ถึงได้โด่งดังและประสบความสำเร็จขนาดนั้น ผมคิดว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะมันสามารถเข้าถึงผู้ชมได้ทุกเพศทุกวัยครับ เด็กๆ ดูแล้วก็สนุกกับจินตนาการอันบรรเจิด ตัวละครที่น่ารัก และการผจญภัยที่ตื่นเต้น ส่วนผู้ใหญ่ก็จะเห็นข้อคิดและปรัชญาชีวิตที่ซ่อนอยู่ในเรื่องราวครับ มันเป็นหนังที่ดูได้เรื่อยๆ ไม่มีเบื่อจริงๆ
อีกอย่างที่ผมชอบคือการที่หนังเรื่องนี้ไม่ได้ตัดสินตัวละครตัวไหนว่าดีหรือไม่ดีไปซะทั้งหมดครับ ทุกตัวละครต่างก็มีข้อดีข้อเสีย มีเหตุผลในการกระทำของตัวเอง ทำให้เราได้เห็นภาพสังคมที่มีความซับซ้อน และความสัมพันธ์ของมนุษย์ที่หลากหลาย
ถ้าให้ผมแนะนำ "Spirited Away" ผมจะบอกว่านี่คือหนังที่คุณต้องดูครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนอนิเมะหรือไม่ก็ตาม มันเป็นงานศิลปะชั้นยอดที่มอบประสบการณ์การรับชมที่น่าประทับใจมากๆ ครับ มันจะทำให้คุณได้หลุดเข้าไปในโลกแห่งจินตนาการที่สวยงาม และอาจจะได้อะไรกลับไปคิดต่อยอดในชีวิตประจำวันด้วยครับ
สำหรับใครที่ยังไม่เคยดู ผมแนะนำให้ลองหามาดูกันนะครับ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนครับ ส่วนใครที่เคยดูแล้ว ลองกลับไปดูอีกครั้ง ผมเชื่อว่าคุณจะค้นพบรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ หรือมุมมองใหม่ๆ ที่อาจจะมองข้ามไปในครั้งแรกๆ ก็ได้ครับ
สุดท้ายนี้ ผมขอฝาก "Spirited Away" ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกคนนะครับ เป็นหนังที่ผมรักมากๆ และอยากให้ทุกคนได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของมันเหมือนที่ผมเคยได้รับครับ ขอบคุณที่อ่านรีวิวของผมนะครับ แล้วเจอกันใหม่ในรีวิวหน้านะครับ สวัสดีครับ.
หายไปในโลกวิญญาณกับ "Spirited Away" : หนังที่ดูแล้วติดหนึบจนลืมเวลา
TITLE: หายไปในโลกวิญญาณกับ "Spirited Away" : หนังที่ดูแล้วติดหนึบจนลืมเวลา
สวัสดีครับทุกคน วันนี้ผมมีหนังอนิเมะในตำนานมาเล่าสู่กันฟังครับ พูดถึง Studio Ghibli นี่ก็ต้องนึกถึงผลงานมาสเตอร์พีซอย่าง "Spirited Away" (2001) ของท่านอาจารย์ฮายาโอะ มิยาซากิ เลยครับ ผมเชื่อว่าหลายคนคงเคยผ่านตาหรือดูซ้ำกันมาบ้างแล้ว แต่สำหรับใครที่ยังไม่เคยดู หรืออาจจะลืมๆ ไปบ้าง วันนี้ผมจะมาขอรีวิวในมุมมองของผมเองนะครับ รับรองว่าอ่านแล้วอาจจะอยากกลับไปหามาดูกันอีกรอบแน่นอน
เรื่องราวเริ่มต้นเมื่อ "จิฮิโระ" เด็กสาววัย 10 ขวบที่กำลังจะย้ายบ้านใหม่ เธอดูไม่ค่อยพอใจกับการเปลี่ยนแปลงนี้เท่าไหร่ครับ ระหว่างทางไปบ้านหลังใหม่ พ่อแม่ของเธอก็ขับรถหลงเข้าไปในอุโมงค์ประหลาด พอออกมาก็เจอกับเมืองร้างที่ดูน่าขนลุก แต่ด้วยความหิว พ่อแม่ของเธอก็เลยแวะกินอาหารในร้านที่ตั้งอยู่เหมือนไม่มีใครดูแล ทีนี้แหละครับ จุดเปลี่ยนของเรื่องก็เริ่มขึ้น เมื่อจิฮิโระพบว่าพ่อแม่ของเธอถูกสาปให้กลายเป็นหมู! ด้วยความตกใจและต้องเอาชีวิตรอด จิฮิโระก็ต้องหาทางกลับไปช่วยพ่อแม่ของเธอให้ได้
การเดินทางของจิฮิโระในโลกวิญญาณนี่แหละครับ คือหัวใจหลักของเรื่องนี้เลย เธอต้องไปทำงานในโรงอาบน้ำของ "ยูบาบา" แม่มดผู้ทรงอำนาจ ซึ่งเป็นสถานที่ที่เหล่าภูตผีวิญญาณมาพักผ่อนและอาบน้ำ ผมบอกเลยว่าโลกในโรงอาบน้ำนี่มันช่างจินตนาการล้ำเลิศจริงๆ ครับ เต็มไปด้วยตัวละครสารพัดรูปแบบ ตั้งแต่เจ้าหน้าที่ตัวเล็กๆ ไปจนถึงเหล่าวิญญาณยักษ์ใหญ่ แต่ละตัวก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่น่าจดจำมากๆ ยิ่งดูยิ่งทึ่งในความคิดสร้างสรรค์ของมิยาซากิเลยครับ
สิ่งที่ผมชอบมากๆ ในเรื่องนี้คือการพัฒนาของตัวละคร "จิฮิโระ" ครับ ตอนแรกเธอเป็นเด็กที่ขี้กลัว เอาแต่ใจ และค่อนข้างจะงอแง แต่พอต้องมาเผชิญหน้ากับโลกที่ไม่คุ้นเคย และต้องรับผิดชอบชีวิตของตัวเอง เธอก็ค่อยๆ เติบโตขึ้น กล้าหาญขึ้น และเรียนรู้ที่จะพึ่งพาตัวเองมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงของเธอมันดูเป็นธรรมชาติมากๆ ครับ เราจะเห็นเธอค่อยๆ ปรับตัว เรียนรู้ที่จะทำงานหนัก เรียนรู้ที่จะช่วยเหลือผู้อื่น และที่สำคัญคือการเรียนรู้ที่จะไม่ยอมแพ้
ตัวละครอื่นๆ ก็น่าสนใจไม่แพ้กันครับ อย่าง "ฮาคุ" เด็กหนุ่มลึกลับที่คอยช่วยเหลือจิฮิโระอยู่เสมอ เขามีเสน่ห์มากๆ ครับ ดูนิ่งๆ แต่ก็แฝงไปด้วยความอบอุ่น และความลับที่น่าค้นหา หรือจะเป็น "คาโอนาชิ" (ไร้หน้า) ที่ตอนแรกดูน่ากลัว แต่พอเราเข้าใจเบื้องหลังของเขา เราก็จะเห็นอีกมุมหนึ่งที่น่าสงสารและน่าเห็นใจมากๆ ครับ ตัวละครเหล่านี้ล้วนมีมิติ ทำให้เรื่องราวดูเข้มข้นและน่าติดตาม
ภาพและเสียงในเรื่องนี้ก็สุดยอดมากๆ ครับ ภาพวาดของ Ghibli นี่ไม่ต้องพูดถึง สวยงาม ละเอียดทุกอณู สีสันสดใส มีชีวิตชีวา ฉากต่างๆ ในโลกวิญญาณมันช่างน่าตื่นตาตื่นใจจริงๆ ครับ ส่วนเพลงประกอบก็ไพเราะมากๆ ฟังแล้วเข้ากับบรรยากาศของเรื่องได้อย่างลงตัว บางทีฟังเพลงก็รู้สึกเหมือนเราได้หลุดเข้าไปอยู่ในโลกนั้นจริงๆ เลยครับ
"Spirited Away" ไม่ใช่แค่หนังเด็กนะครับ มันมีข้อคิดดีๆ ซ่อนอยู่เยอะแยะเลยครับ อย่างเรื่องการเห็นคุณค่าของตัวเอง การรู้จักการเสียสละ การเผชิญหน้ากับความกลัว และการเรียนรู้ที่จะเติบโต มันเป็นหนังที่สอนให้เรามองโลกในมุมที่กว้างขึ้น และเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างผู้คนได้ดียิ่งขึ้นครับ
ผมจำได้เลยว่าตอนดูครั้งแรก ผมนั่งดูแบบตาไม่กะพริบเลยครับ ลุ้นตามจิฮิโระตลอดเวลา บางฉากก็ทำให้รู้สึกอบอุ่นหัวใจ บางฉากก็ทำให้รู้สึกตื่นเต้น บางฉากก็แอบมีน้ำตาซึมๆ ด้วย มันเป็นประสบการณ์การดูหนังที่ครบทุกรสชาติจริงๆ ครับ
หลายคนอาจจะสงสัยว่าทำไมหนังเรื่องนี้ถึงได้โด่งดังและประสบความสำเร็จขนาดนั้น ผมคิดว่าส่วนหนึ่งเป็นเพราะมันสามารถเข้าถึงผู้ชมได้ทุกเพศทุกวัยครับ เด็กๆ ดูแล้วก็สนุกกับจินตนาการอันบรรเจิด ตัวละครที่น่ารัก และการผจญภัยที่ตื่นเต้น ส่วนผู้ใหญ่ก็จะเห็นข้อคิดและปรัชญาชีวิตที่ซ่อนอยู่ในเรื่องราวครับ มันเป็นหนังที่ดูได้เรื่อยๆ ไม่มีเบื่อจริงๆ
อีกอย่างที่ผมชอบคือการที่หนังเรื่องนี้ไม่ได้ตัดสินตัวละครตัวไหนว่าดีหรือไม่ดีไปซะทั้งหมดครับ ทุกตัวละครต่างก็มีข้อดีข้อเสีย มีเหตุผลในการกระทำของตัวเอง ทำให้เราได้เห็นภาพสังคมที่มีความซับซ้อน และความสัมพันธ์ของมนุษย์ที่หลากหลาย
ถ้าให้ผมแนะนำ "Spirited Away" ผมจะบอกว่านี่คือหนังที่คุณต้องดูครับ ไม่ว่าคุณจะเป็นแฟนอนิเมะหรือไม่ก็ตาม มันเป็นงานศิลปะชั้นยอดที่มอบประสบการณ์การรับชมที่น่าประทับใจมากๆ ครับ มันจะทำให้คุณได้หลุดเข้าไปในโลกแห่งจินตนาการที่สวยงาม และอาจจะได้อะไรกลับไปคิดต่อยอดในชีวิตประจำวันด้วยครับ
สำหรับใครที่ยังไม่เคยดู ผมแนะนำให้ลองหามาดูกันนะครับ รับรองว่าไม่ผิดหวังแน่นอนครับ ส่วนใครที่เคยดูแล้ว ลองกลับไปดูอีกครั้ง ผมเชื่อว่าคุณจะค้นพบรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ หรือมุมมองใหม่ๆ ที่อาจจะมองข้ามไปในครั้งแรกๆ ก็ได้ครับ
สุดท้ายนี้ ผมขอฝาก "Spirited Away" ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจของทุกคนนะครับ เป็นหนังที่ผมรักมากๆ และอยากให้ทุกคนได้สัมผัสความมหัศจรรย์ของมันเหมือนที่ผมเคยได้รับครับ ขอบคุณที่อ่านรีวิวของผมนะครับ แล้วเจอกันใหม่ในรีวิวหน้านะครับ สวัสดีครับ.