เชื่อว่าหลายคนคงเคยได้ยินคำพูดทำนองนี้ ว่า
"ซีรีส์เกาหลีมันก็แค่การสร้างภาพ"
"เกาหลีไม่เหมือนในซีรีส์"
"ทำมาหลอกให้คนต่างชาติไปเที่ยว"
ซึ่งถ้าพูดกันตามความจริง ใช่ครับ มันคือความจริง เกาหลีในซีรีส์กับเกาหลีในชีวิตจริงนั้นต่างกันราวฟ้ากับเหว
แต่ประเด็นที่ผมอยากชวนคุยในวันนี้ ไม่ใช่การมาจับผิดว่าเกาหลีลวงโลกตรงไหนบ้าง แต่อยากพาไปมองอีกมุมว่า "ทำไมเขาถึงต้องสร้างภาพฝันที่สวยงามขนาดนั้น?"
หลังจากได้ลองศึกษาและวิเคราะห์ดู ลึกๆ แล้วภาพที่สวยงามเหล่านั้น ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อหลอกคนนอกเป็นหลัก แต่มันถูกสร้างมาเพื่อเยียวยาคนใน ต่างหากครับ
1. เมื่อความจริงคือ "นรกโชซอน" (Hell Joseon) ละครจึงต้องเป็น "สวรรค์"
ในสังคมเกาหลีที่มีการแข่งขันสูงเสียดฟ้า (Hyper-competitive) การเรียนที่กดดันจนเด็กฆ่าตัวตาย การทำงานหนักแบบ Overwork จนดึกดื่น ชีวิตจริงมันแห้งแล้งและโหดร้ายมากครับ
ดังนั้น ซีรีส์ที่มีเจ้านายใจดี เพื่อนร่วมงานที่อบอุ่น หรือความยุติธรรมที่เอาชนะเงินตราได้ มันคือยาแก้ปวดที่ช่วยให้คนเกาหลีที่เหนื่อยล้าจากโลกความจริง ได้มีพื้นที่พักใจสัก 1 ชั่วโมงก่อนนอน
2. พล็อตซินเดอเรลล่าไม่ใช่แค่เรื่องรัก แต่คือทางรอดทางเดียว
เกาหลีมีทฤษฎี ช้อนเงินช้อนทอง (Spoon Class Theory) ที่บอกว่าชนชั้นกำหนดมาตั้งแต่เกิด การไต่เต้าทางสังคมยากมาก
ฉากที่ประธานบริษัทหนุ่มหล่อมาตกหลุมรักพนักงานจนๆ จึงไม่ใช่แค่เรื่องเพ้อฝันทางความรัก แต่มันสะท้อนความเจ็บปวดที่ว่า "ในชีวิตจริง ความขยันอย่างเดียวมันไม่พอที่จะเปลี่ยนชีวิตได้" คนดูจึงโหยหาปาฏิหาริย์แบบในละครเพื่อปลอบประโลมใจ
3. โอปป้าแสนดี คือสิ่งที่ผู้หญิงเกาหลีหาไม่เจอในชีวิตจริง
สังคมเกาหลียังมีความเป็นชายเป็นใหญ่อยู่มาก ผู้ชายต้องแบกความกดดัน ต้องเข้มแข็ง ห้ามร้องไห้ และบ้างาน
ตัวพระเอกในซีรีส์ที่ อ่อนโยน จำวันครบรอบได้ ร้องไห้เป็น และรอคอยนางเอกคนเดียวมา 10 ปี คือการสร้าง อุดมคติที่ขาดแคลนขึ้นมาชดเชยสิ่งที่ผู้หญิงเกาหลีจำนวนมากต้องเจอในความสัมพันธ์จริงที่เย็นชาและห่างเหิน
4. ระบายความแค้นด้วยไซเดอร์ (Cider)
คนเกาหลีมีภาวะความเครียดสะสมจากการต้องก้มหัวให้ผู้มีอำนาจหรือรุ่นพี่ จนเกิดอาการ "ฮวับยอง" (โรคตรอมใจจากความโกรธ)
ซีรีส์แก้แค้นที่พระเอก/นางเอก ฉลาดทันคน ตอกหน้าตัวร้ายได้เจ็บแสบ จึงทำหน้าที่ระบายความอัดอั้นตันใจแทนคนดู ให้รู้สึกโล่งคอเหมือนดื่มน้ำอัดลม (Cider) ในสิ่งที่ชีวิตจริงพวกเขาไม่กล้าทำ
คนที่มองเกาหลีด้วยอคติ อาจจะบอกว่านี่คือการลวงโลก
แต่สำหรับคนเกาหลีที่ต้องตื่นตี 5 ไปเรียน และกลับบ้านเที่ยงคืน ซีรีส์เหล่านี้คือ ออกซิเจนที่ช่วยต่อลมหายใจให้พวกเขามีแรงสู้ต่อ
"คนที่มีชีวิตที่มีความสุขดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องฝันกลางวัน... คนที่เจ็บปวดและขาดแคลนต่างหาก ที่ต้องการความฝันที่สวยงามที่สุด"
ซีรีส์เกาหลีไม่ใช่แค่ "ภาพลวงโลก" แต่คือ "ความฝัน" ที่แม้แต่คนเกาหลีเองก็ยังไปไม่ถึง
"ซีรีส์เกาหลีมันก็แค่การสร้างภาพ"
"เกาหลีไม่เหมือนในซีรีส์"
"ทำมาหลอกให้คนต่างชาติไปเที่ยว"
ซึ่งถ้าพูดกันตามความจริง ใช่ครับ มันคือความจริง เกาหลีในซีรีส์กับเกาหลีในชีวิตจริงนั้นต่างกันราวฟ้ากับเหว
แต่ประเด็นที่ผมอยากชวนคุยในวันนี้ ไม่ใช่การมาจับผิดว่าเกาหลีลวงโลกตรงไหนบ้าง แต่อยากพาไปมองอีกมุมว่า "ทำไมเขาถึงต้องสร้างภาพฝันที่สวยงามขนาดนั้น?"
หลังจากได้ลองศึกษาและวิเคราะห์ดู ลึกๆ แล้วภาพที่สวยงามเหล่านั้น ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อหลอกคนนอกเป็นหลัก แต่มันถูกสร้างมาเพื่อเยียวยาคนใน ต่างหากครับ
1. เมื่อความจริงคือ "นรกโชซอน" (Hell Joseon) ละครจึงต้องเป็น "สวรรค์"
ในสังคมเกาหลีที่มีการแข่งขันสูงเสียดฟ้า (Hyper-competitive) การเรียนที่กดดันจนเด็กฆ่าตัวตาย การทำงานหนักแบบ Overwork จนดึกดื่น ชีวิตจริงมันแห้งแล้งและโหดร้ายมากครับ
ดังนั้น ซีรีส์ที่มีเจ้านายใจดี เพื่อนร่วมงานที่อบอุ่น หรือความยุติธรรมที่เอาชนะเงินตราได้ มันคือยาแก้ปวดที่ช่วยให้คนเกาหลีที่เหนื่อยล้าจากโลกความจริง ได้มีพื้นที่พักใจสัก 1 ชั่วโมงก่อนนอน
2. พล็อตซินเดอเรลล่าไม่ใช่แค่เรื่องรัก แต่คือทางรอดทางเดียว
เกาหลีมีทฤษฎี ช้อนเงินช้อนทอง (Spoon Class Theory) ที่บอกว่าชนชั้นกำหนดมาตั้งแต่เกิด การไต่เต้าทางสังคมยากมาก
ฉากที่ประธานบริษัทหนุ่มหล่อมาตกหลุมรักพนักงานจนๆ จึงไม่ใช่แค่เรื่องเพ้อฝันทางความรัก แต่มันสะท้อนความเจ็บปวดที่ว่า "ในชีวิตจริง ความขยันอย่างเดียวมันไม่พอที่จะเปลี่ยนชีวิตได้" คนดูจึงโหยหาปาฏิหาริย์แบบในละครเพื่อปลอบประโลมใจ
3. โอปป้าแสนดี คือสิ่งที่ผู้หญิงเกาหลีหาไม่เจอในชีวิตจริง
สังคมเกาหลียังมีความเป็นชายเป็นใหญ่อยู่มาก ผู้ชายต้องแบกความกดดัน ต้องเข้มแข็ง ห้ามร้องไห้ และบ้างาน
ตัวพระเอกในซีรีส์ที่ อ่อนโยน จำวันครบรอบได้ ร้องไห้เป็น และรอคอยนางเอกคนเดียวมา 10 ปี คือการสร้าง อุดมคติที่ขาดแคลนขึ้นมาชดเชยสิ่งที่ผู้หญิงเกาหลีจำนวนมากต้องเจอในความสัมพันธ์จริงที่เย็นชาและห่างเหิน
4. ระบายความแค้นด้วยไซเดอร์ (Cider)
คนเกาหลีมีภาวะความเครียดสะสมจากการต้องก้มหัวให้ผู้มีอำนาจหรือรุ่นพี่ จนเกิดอาการ "ฮวับยอง" (โรคตรอมใจจากความโกรธ)
ซีรีส์แก้แค้นที่พระเอก/นางเอก ฉลาดทันคน ตอกหน้าตัวร้ายได้เจ็บแสบ จึงทำหน้าที่ระบายความอัดอั้นตันใจแทนคนดู ให้รู้สึกโล่งคอเหมือนดื่มน้ำอัดลม (Cider) ในสิ่งที่ชีวิตจริงพวกเขาไม่กล้าทำ
คนที่มองเกาหลีด้วยอคติ อาจจะบอกว่านี่คือการลวงโลก
แต่สำหรับคนเกาหลีที่ต้องตื่นตี 5 ไปเรียน และกลับบ้านเที่ยงคืน ซีรีส์เหล่านี้คือ ออกซิเจนที่ช่วยต่อลมหายใจให้พวกเขามีแรงสู้ต่อ
"คนที่มีชีวิตที่มีความสุขดีอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องฝันกลางวัน... คนที่เจ็บปวดและขาดแคลนต่างหาก ที่ต้องการความฝันที่สวยงามที่สุด"